ป้อมสั่งถอดบทเรียน‘มูโนะ’ ฝากขังผัวเมียเจ้าของโกดัง

"บิ๊กป้อม" ลงพื้นที่ให้กำลังใจชาวมูโนะ ยันดูแลชาวบ้านเต็มที่ พร้อมขอบคุณน้ำใจคนไทยแห่ร่วมบริจาค สั่งเข้ม "มท.-สตช." ถอดบทเรียน ห้ามมีเหตุความสูญเสียซ้ำรอยอีกทั่วประเทศ ฮึ่ม! ต้องมีผู้รับผิดชอบ ขณะที่ ผบช.ภ.9 จ่อแจ้งข้อหาเพิ่มผัวเมียเจ้าของโกดังพลุ เล็งออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องยกยวง เผยคืบหน้าสอบตำรวจกินส่วย

เมื่อวันจันทร์ เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รมว.ศึกษาธิการ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รมช.การคลัง รมช.กลาโหม และคณะเดินทางลงภาคใต้พื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อตรวจดูพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งเยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องชาวมูโนะและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน จากเหตุโกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิดที่ผ่านมา

โดย พล.อ.ประวิตรและคณะเดินทางไปสนามกีฬามหาราช รับทราบรายงานสถานการณ์ความเสียหายและการช่วยเหลือ จากผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีผู้ได้รับผลกระทบ 682 ครัวเรือน เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 389 ราย บ้านเรือนเสียหาย 682 หลัง รร.เสียหาย 3 แห่ง โดยมีการพระราชทานความช่วยเหลือทั้งสิ่งของพระราชทานและโรงครัวพระราชทานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ต่อจากนั้นเดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนและโรงเรียนบ้านมูโนะ พร้อมทั้งเดินทางไป รพ.สุไหงโก-ลก เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งทีมแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อพี่น้องชาวมูโนะที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บ้านเรือนและอาคารสถานที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และที่สำคัญมีผลกระทบต่อจิตใจและขวัญของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน เพื่อการก้าวผ่านความยากลำบากครั้งสำคัญนี้ไปด้วยกัน โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือดูแลและไม่ทอดทิ้งกัน 

พล.อ.ประวิตรยังกำชับว่า ขอให้ทุกส่วนราชการในพื้นที่ทั้งภาครัฐ เอกชน และทหารร่วมระดมความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ โดยเฉพาะการก่อสร้างและปรับปรุงบ้านพักอาศัยที่เสียหาย รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ให้สามารถใช้การได้เร็วที่สุด ทั้งนี้การก่อสร้างปรับปรุงโรงเรียนมูโนะ ได้สั่งการมอบหมายให้ รมว.ศึกษาธิการลงพื้นที่รับทราบปัญหาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงและก่อสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเดิมที่เสียหาย ซึ่งทราบว่ามีภาคเอกชนร่วมสนับสนุนสร้างอาคารใหม่ให้เด็กเล็ก ที่กำลังจะเปิดเทอมในเร็ววันนี้ และให้ติดตามเยียวยาครูและนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ โดยให้เร่งซ่อมแซมบ้านครูและนักเรียนที่เสียหายจำนวน 120 หลัง และบาลัยจำนวน 2 หลัง รวมถึงจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนที่เสียหาย เพื่อให้สถานศึกษาสามารถกลับมาเปิดได้โดยเร็ว ทั้งนี้ ขอให้กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการเข้าไปเยียวยาผลกระทบด้านจิตใจกับผู้ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง

พล.อ.ประวิตรระบุว่า สำหรับการฟื้นฟูที่พักอาศัยและพัฒนาอาชีพได้กำชับ รมว.ที่เกี่ยวข้องร่วมระดมธนาคาร สถาบันการเงินของรัฐ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนโดยปราศจากดอกเบี้ย โดยให้ ศอ.บต. ประสานกระทรวงการคลัง จัดหามาตรการด้านการเงินและการคลังเป็นกรณีพิเศษเพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น การพักชำระหนี้จากความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น โดยเตรียมเสนอ ครม.ต่อไป 

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรยังได้กล่าวขอบคุณน้ำใจคนไทยทั่วประเทศ ที่ร่วมหลั่งไหลบริจาคเงินกว่า 23.24 ล้านบาท และความช่วยเหลืออื่นๆ ที่เข้ามาอย่างไม่ขาดสายผ่านจังหวัด โดยย้ำขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งนำเงินดังกล่าวไปใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคด้วยความรวดเร็ว ทั่วถึงเป็นธรรมและโปร่งใส พร้อมทั้งขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่รัฐจากทุกหน่วยงาน รวมทั้งอาสาสมัครและภาคเอกชน ที่ร่วมกันเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องชาวมูโนะ ที่ได้รับผลกระทบหลังจากเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องมา โดยขอให้กรมประชาสัมพันธ์ให้ความสำคัญและคงความต่อเนื่อง ในการสร้างความเข้าใจภาวะวิกฤตแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้ย้ำกับกระทรวงมหาดไทย  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น โดยจะต้องไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นความเสียหายที่ไม่อาจยอมรับได้และจะต้องมีผู้รับผิดชอบ โดยขอให้สอบลึกเชื่อมโยงกับทุกหน่วยงานและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ละเลยหน้าที่หรือแสวงประโยชน์อันมิชอบอย่างจริงจัง เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างและสร้างความสูญเสียเช่นที่เกิดขึ้น

วันเดียวกัน พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนขยายผลคดีโกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับมอบตัวผู้ต้องหาที่ออกหมายจับจากเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวน 2 ราย คือ นายสมปอง ณ กุล และนางปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ สองสามีภรรยาเจ้าของโกดัง เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยวันนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำ และขยายผลเพิ่มเติมที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส

โดย พล.ต.ท.นันทเดชระบุว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นอาจจะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม หลังจากที่มีการสอบสวน รวมถึงผู้ต้องหาเองจากเดิมที่มีอยู่ 4 ข้อหา ก็อาจจะมีการแจ้งเพิ่มเติมอีก ซึ่งการรับโทษจะแยกเป็นคดีๆ แต่ในเบื้องต้นทั้ง 2 คนมีทั้งรับบางข้อกล่าวหาและปฏิเสธบางข้อกล่าวหา ซึ่งพฤติกรรมของทั้ง 2 คนนั้น โดยรวมมีความตึงเครียดและวิตกกังวล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเพื่อเฝ้าระวังการคิดสั้นหรือทำร้ายตัวเอง

ผบช.ภ.9 กล่าวด้วยว่า วันนี้จะส่งฝากขังที่ศาล ซึ่งเบื้องต้นตำรวจได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว ส่วนกรณีการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำการเกินหน้าที่หรือรับสินบนนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยแยกความผิดเป็น 2 ส่วน ทั้งการปกครองและวินัย ให้เวลาสอบสวน 1 สัปดาห์ หรืออาจจะขยายผลต่อเพื่อให้ผลการสอบสวนครอบคลุมในทุกด้าน แต่ทั้งนี้ยืนยันว่า หากเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะไม่มีการปล่อยผ่านอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดในวันนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวภายใน 48 ชั่วโมง ในการซักถามและบันทึกประวัตินั้น ในเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่ง 2 ผู้ต้องหามายังศาลจังหวัดนราธิวาสเพื่อฝากขังในผัดแรก 12 วัน

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นมีรายงานข่าวด้วยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ขอยื่นปล่อยชั่วคราว แต่ศาลคัดค้าน โดยหลังจากนี้จะส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมสำนวนส่งฟ้องอัยการนั้น สามารถฝากได้ 7 ผัด ผัดละ 12 วัน รวมทั้งหมด 84 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวด้วยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมีทนายมาด้วย โดยจะยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวอีกครั้งหากมีการนัดไต่สวนในครั้งถัดไป. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อรรถกร' รับเศรษฐาเป็นคนเลือกให้เป็น รมต.หลัง พปชร.ส่งไป 4 ชื่อ

'อรรถกร' ชี้ 'เศรษฐา' เคาะนั่ง รมต.หลังเสนอหลายชื่อ พร้อมขอบคุณคน พปชร.ให้กำลังใจ สยบข่าวแรงกระเพื่อม ลั่นพร้อมขับเคลื่อนนโยบายตามธงนายกฯ-ธรรมนัส

รมต.ใหม่ถวายสัตย์ เศรษฐานำเข้าเฝ้าฯ3พ.ค. แม้วควงสุวัจน์ทัวร์ภูเก็ต

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ "มาริษ" เป็น รมว.ต่างประเทศ "นายกฯ" เตรียมนำ รมต.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ 3 พ.ค.นี้