พท.ปิดดีล314เสียง ‘พรรค2ลุง’พาเหรดร่วม ‘ประวิตร’ครบ78ปีคึกคัก

"บิ๊กตู่" ออกงานยังอารมณ์ดี แต่ไม่ตอบการเมือง เบิร์ธเดย์ 78 ปี “บิ๊กป้อม” คึกคัก "สว.-นักการเมือง-ทหาร-ตำรวจ" แห่อวยพร "3 ป.-ปธ.วุฒิฯ" ปิดห้องคุย “ภูมิธรรม” ลั่นใครไม่ยกมือโหวตนายกฯ เพื่อไทยไม่อยู่ในสมการตั้งรัฐบาล   เช็กดีลล่าสุดเสียงหนุน พท.ตั้ง รบ.รวมพรรคสองลุง 314 เสียง "ก.ก." ปัดตอบเป็นนั่งร้าน พท.เดินเกมการเมือง โยนสังคมตัดสิน "รทสช." ประสานเสียงโหวตนายกฯ ยึดตามมติพรรค

ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์   สำโรง วันที่ 11 ส.ค. เวลา 13.30 น.  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดงานโครงการพัฒนาพื้นยางและเฟอร์นิเจอร์อัพไซเคิล สนามกีฬาลานสเก็ตน้ำแข็ง ไอวิส อินเตอร์เนชั่นแนล เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเช้าได้เข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แล้วใช่หรือไม่   พล.อ.ประยุทธ์แกล้งหันหน้าหนีก่อนจะหันกลับมาส่งมินิฮาร์ตให้สื่อมวลชนอีกครั้งอย่างอารมณ์ดี แต่ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์และผู้บริหาร ได้เดินลงไปยังสนามสเก็ตเพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกัน โดยระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์นั่งลงเตรียมถ่ายภาพ ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์เกือบหงายหลังเนื่องจากพื้นเป็นน้ำแข็ง โดยนายวราวุธ ศิลปอาชารมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและทีมรักษาความปลอดภัยคว้าแขนได้ทัน

ผู้สื่อข่าวถามความเห็นการจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ดูเหมือนว่าจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าว

ส่วนที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด   ตั้งแต่ช่วงเช้า พล.อ.ประวิตรเปิดให้คณะบุคคล ทหาร ตำรวจ และคนใกล้ชิด มอบกระเช้าดอกไม้และของขวัญที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ดินแดง ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 78 ปี โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร่วมรับประทานอาหารเช้าและมอบของขวัญ ซึ่งปีนี้ พล.อ.อนุพงษ์ได้มอบโมเดลม้าหมุนจำลองสีเขียวฟ้าให้ พล.อ.ประวิตร ทั้งนี้พล.อ.อนุพงษ์พยักหน้ารับหลังสื่อมวลชนถามถึงความหมายของโมเดลม้าหมุนว่า สื่อถึงความสุขไม่สิ้นสุดใช่หรือไม่

นอกจากนี้ ยังมีนายทหารที่ใกล้ชิด เช่น พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ส่วนฝ่ายการเมือง เช่น นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค พปชร. และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวระหว่างที่พล.อ.วรเดช ภูมิจิตร ที่ปรึกษามูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เป็นผู้แทนมูลนิธิป่ารอยต่อฯ นำคณะมูลนิธิป่ารอยต่อฯ เข้ามอบกระเช้าดอกไม้วันคล้ายวันเกิดว่า ขอให้ทุกคนรักกันไว้ รวมใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อประเทศชาติและลูกหลานของเราต่อไป

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้ร่วมพูดคุยและรับประทานอาหารเช้ากับ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์เกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางกลับออกไป โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและสวัสดีทักทายผู้ที่มาร่วมในงาน

เวลา 10.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค ภท. เดินทางมาอวยพร พล.อ.ประวิตร รวมทั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค พปชร. ก็นำ ส.ส.ทั้งหมดของพรรคมาเข้าอวยพรด้วย

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงกรณีนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรค พปชร. ระบุ สส.พปชร.พร้อมสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรค พท.ว่า ต้องขอบคุณนายไผ่และสมาชิกพรรค พปชร. 40 คน ที่จะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. และได้ยินว่านายไผ่ก็ไม่ได้มีเงื่อนไขอะไร เห็นว่าประเทศต้องเดินไปข้างหน้า สนับสนุนให้มีรัฐบาลโดยเร็ว

ลั่น พท.มีต้นทุนต้องจ่าย

"ชัดเจนว่าเขาไม่มีเงื่อนไข แต่ใครจะร่วมกับเราบ้างอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้ได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพเพื่อผลักดันนโยบายได้ ขอขอบคุณและยินดี เราต้องการความสมานฉันท์และความชัดเจนในการแก้ไขวิกฤต ถ้าได้ทั้งหมดก็ยิ่งดี แต่ขึ้นอยู่กับเอกสิทธิ์ สส.และการดำเนินการ ของเรา ยืนยันไม่มีงูเห่า เพราะไม่ได้เอากล้วยไปซื้อ แต่เอาวาระประชาชนเป็นที่ตั้ง" นายภูมิธรรมกล่าว

ถามว่า การที่นายไผ่ประกาศสนับสนุนเช่นนี้ พท.และ พปชร.ต้องมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเหมือนพรรคอื่นๆ หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้กำหนดเรื่องดังกล่าว ตนเพิ่งได้ยินนายไผ่เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ยังไม่ได้ตกลงว่าจะร่วมรัฐบาลหรืออะไร วันนี้จึงต้องขอบคุณเจตนารมณ์และมิตรไมตรี ตนยินดีไม่ว่าจะเป็นพรรคหรือกลุ่ม

ซักว่าในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีการพูดคุยว่าจะมีการประกาศเช่นนี้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า การที่นายไผ่ออกมาเปิดเผยความจริงก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรค พปชร. เช่นเดียวกับพรรค รทสช. หากเห็นว่าเราเป็นแกนนำและสามารถแก้ปัญหาประเทศได้ ก็แสดงเจตนารมณ์ช่วยสนับสนุนเรา ตอนนี้เราไม่ทราบว่าใครจะสนับสนุนเราบ้าง ได้หมดเลย ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รทสช. ไทยสร้างไทย (ทสท.) เป็นธรรม สามารถสนับสนุนได้หมด  เพราะเราเป็นรัฐบาลพิเศษ เอาวาระประชาชนเป็นหลัก 

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกมาระบุหากเอา 2 ลุงจะไม่โหวตให้ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราพูดกับ ก.ก.แล้วว่าดูจากความเป็นจริงแล้วทุกพรรคการเมืองไม่ปรารถนาจะร่วมด้วย หากเราอยู่ในวังวนนั้นเราก็ไม่สามารถที่จะก้าวไปได้ วันนี้หากเราจับกับ ก.ก.เหมือนเดิม ก็จะได้ 312 เสียง ไม่สามารถบรรลุได้ พรรคพท.พูดจุดยืนชัดเจนว่าต้องไปเป็นรัฐบาลเพื่อให้เจตนารมณ์ในการแก้วิกฤตชาติสำเร็จ และตอนไปคุยกับพรรค ก.ก. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรค พท. เป็นคนพูดว่าเราไม่ได้มีอะไรต่อกัน ความรู้สึกยังดีต่อกัน มีบ้างที่แฟนคลับจะทะเลาะกัน ถือเป็นความเห็นต่างในหมู่ประชาชน แต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพรรคการเมืองคือการทำงานร่วมกัน ซึ่งตนก็ได้เล่าทั้งหมดให้ฟัง และยังบอกว่าสิ่งที่ตนพูดว่ายินดีที่จะไปขอโทษขอขมาให้  ยืนยันว่าพูดจริง แต่ตนไม่มีเจตนาที่จะไปขอขมา เพราะไม่ได้รู้สึกว่าผิดอะไร แต่ที่ตนพูดว่าจะไปขอโทษขอขมา เป็นคำพูดสร้อยที่ตนพร้อมรับผิดชอบ

"เราปรารถนาว่าการตั้งรัฐบาลหากสามารถทำได้ด้วย สส.จะแก้วิกฤตได้ ถือเป็นหนึ่งทางเลือก แต่การพูดคุยกันเราพูดชัดว่าหากทางนี้เป็นไปได้ถือเป็นทางที่ดีที่สุด แต่ถ้าไม่เป็นไปเช่นนี้ ก็มีทางเลือกอีกหลายทาง ซึ่งพรรค พท.ต้องจ่ายต้นทุนมาก ทุกวันนี้หากพรรค พท.ตัดสินใจไปเราทำไปด้วยความรับผิดชอบ รู้ว่าต้องจ่ายต้นทุนสูง แต่สิ่งที่เรากำลังทำเป็นสิ่งที่เราอยากเห็นประเทศมีทางออก คิดว่าการทำหน้าที่ของเราแม้ต้องจ่ายต้นทุนสูงแล้วได้ผลอย่างที่เราหวัง ก็ถือว่าคุ้มค่า ส่วนการตัดสินใจครั้งนี้จะผิดจะถูกอย่างไรอยู่ในดุลพินิจของประชาชน และพร้อมรับผลที่จะเกิดขึ้น" นายภูมิธรรมกล่าว

เมื่อถามว่า หากพรรค 2 ลุงโหวตให้นายกฯ พรรค พท. จากนั้นจะมีการมาร่วมรัฐบาลเพื่อเพิ่มเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์ยกมือให้พรรค พท. แต่ไม่ได้หมายความว่าการยกมือให้จะต้องได้เป็นรัฐบาลร่วมกันทั้งหมด เมื่อนายกฯ เป็นเพื่อไทยแล้วการจัดตั้งรัฐบาลจะต้องมีหลายเงื่อนไข ทั้งเรื่องนโยบาย ตัวบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรี และเรื่องอะไรอีกหลายอย่าง อีกไม่นานถ้าศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าโหวตไปได้ พรรค พท.ก็จะเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ และให้โหวตผ่านไปเลยก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ภายในหนึ่งเดือนอย่างช้า พรรคจะจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเสร็จ และนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาจะเสร็จก่อนเดือน ต.ค.ทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้

ถามว่า การที่ พปชร.จะร่วมโหวต เป็นการส่งสัญญาณว่า สว.จะร่วมโหวตให้ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้เราขอทุกภาคส่วน ทั้ง สว.และ สส. เราไม่ทราบว่า สว. สส. กลุ่มการเมืองไหนจะมีอะไรอย่างไร วันนี้เราต้องการแสดงออก

ปิดดีล 314 เสียงหนุนนายกฯ

เมื่อถามว่า ตัวเลขพรรคร่วมรัฐบาลต้องได้เกิน 300 ถึงมีเสถียรภาพใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า สื่อลองคิดดู เพราะเสถียรภาพที่มั่นคงแต่ละคนไม่เท่ากัน เป็นเรื่องที่พูดยาก เมื่อถามว่าดีลกับพรรค 2 ลุงจบแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มีดีล ดีลคือเลือกนายกฯ ให้พรรคพท.เป็นแกนนำ ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้อตกลง แต่เมื่อเลือกได้แล้วเราถึงจะดำเนินการ ใครเลือกก็อยู่ในเงื่อนไขที่ต้องคุยกันว่าจะมีส่วนร่วมกันได้ขนาดไหน ไม่เลือกก็ชัดเจนว่าไม่เอาเรา ไม่เป็นไร ถือว่าเราไม่มีพรรคเหล่านั้นในสมการ      ถามย้ำว่า สรุปแล้วเสถียรภาพต้องมี 2ลุงอยู่ในสมการหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า คณิตศาสตร์ทางการเมืองชัดเจนอยู่แล้ว ลองไปดูว่าเป็นอย่างไร มันเป็นความจำเป็นและเกณฑ์บังคับให้เราต้องเดิน วันนี้ที่เราเลือกเดินพรรค พท.ต้องจ่ายต้นทุนสูง และเชื่อว่าประชาชนจะต้องตัดสินใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค พท.ถึงการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้พรรค พท.ได้ร่วมกับพรรคการเมืองต่างๆ และแถลงร่วมยกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกฯ จากพรรค พท.ไปแล้วจำนวนมาก ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 71 เสียง, พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 10 เสียง, พรรคประชาชาติ (ปช.) 9 เสียง,  พรรคเพื่อไทรวมพลัง (พทล.) 2 เสียง,  พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) 2 เสียง ส่วนพรรคเสรีรวมไทย (สร.) พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคละ 1 เสียง รวมเป็น 238 เสียง ล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แม้จะยังไม่แถลงข่าวร่วมกัน แต่ก็แสดงความชัดเจนว่าจะยกมือ 40 เสียงให้พรรค พท. ทำให้มีเสียงรวมกันอยู่ที่ 278 เสียง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะมายกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรค พท. หากเป็นเช่นนั้นจะเพิ่มอีก 36 เสียง ทำให้รวบรวมเสียงได้ 314 เสียง ทำให้ต้องได้เสียง สว.เพิ่มเติมเพียง 60 เสียง เพื่อมีเสียงรัฐสภา 374 เสียง หรือเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา

"ในส่วนของเก้าอี้รัฐมนตรีของแต่ละพรรคการเมืองที่เข้ามาร่วมรัฐบาลนั้น  ขณะนี้ยังไม่มีการหารือว่าในสัดส่วนของพรรคการเมืองจะได้คนละกี่เก้าอี้ เพราะต้องเอาตัวเลขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดมาคำนวณ โดยจะนำจำนวน 314 เป็นตัวตั้ง หารด้วยเก้าอี้รัฐมนตรี 35 เก้าอี้ ตก 8.9 เสียงต่อ 1 เก้าอี้ ทำให้อาจปัดเศษเป็น 9 ที่นั่ง สส.เท่ากับ 1 เก้าอี้รัฐมนตรี และจะมีความชัดเจนว่าพรรคไหนได้กระทรวงใดหลังเลือกนายกฯ เสร็จสิ้น" แหล่งข่าวระบุ

ขณะที่ น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรค พท. กล่าวถึงกรณี น.ต.ศิธา ทิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย แสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดีย ให้รอไปอีก 10 เดือนให้ สว.หมดวาระแล้วค่อยจัดตั้งรัฐบาลว่า พรรคมองสถานการณ์ต่างๆ ตามที่เกิดขึ้นจริง วิกฤตและปัญหาของประเทศตลอดเวลา 9 ปีนั้นหนักหนาสาหัส ประชาชนยากลำบากอย่างแสนสาหัส พรรคมีความหวังหลังจากการตั้งรัฐบาลสำเร็จประเทศมีนายกฯ ที่มีความรู้ความสามารถ ทำนโยบายเพื่อประชาชนแก้ปัญหาที่สั่งสมมา 9 ปี กระตุ้นเศรษฐกิจแก้ปัญหาปากท้องประชาชน คือเป้าหมายใหญ่

"น.ต.ศิธาก็ทราบดีว่าปัญหาอยู่ตรงไหน และอะไรคืออุปสรรค ดังนั้นจึงไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุใด น.ต.ศิธา พยายามทำเหมือนไม่เข้าใจเรื่องนี้ และพยายามปั่นกระแสเพื่อกวนน้ำให้ขุ่นตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็แปลกใจเหตุใด น.ต.ศิธาจึงพยายามอย่างมากที่จะทำให้ พท.กับ ก.ก.เป็นศัตรูกัน น.ต.ศิธาเองก็ทำงานการเมืองมานาน ควรเข้าใจว่าการเมืองระยะเปลี่ยนผ่านมีความยุ่งยากซับซ้อน มีปัจจัยต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก และมีความไม่แน่นอน น.ต.ศิธาควรถอดวิญญาณสิงห์นักปั่น หันมาเสนอทางแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและสร้างประชาธิปไตยได้แล้ว” รองโฆษกพรรค พท.ระบุ

ก.ก.-รทสช.โหวตตามมติ

ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. กล่าวถึงกรณีนายไผ่ระบุ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ​ได้ขอให้ร่วมโหวตนายกฯ พรรค ก.ก.​ว่า เข้าใจว่าเป็นการคุยกันในฐานะคนรู้จัก ไม่ได้เป็นสิ่งที่พรรคได้มอบหมาย ซึ่งวานนี้ตนก็ได้ชี้แจงว่าพรรค ก.ก.ไม่มีการเจรจาเพื่อขอเสียงจากพรรค พปชร. ซึ่งการพูดคุยระหว่างนพ.วาโยและนายไผ่นั้น ไม่ได้เป็นการทำในนามของพรรค​อยู่แล้ว

ถามถึงการโหวตนายกฯ ให้พรรค พท.  นายชัยธวัชกล่าวว่า พรรคคงมีการพูดคุยกันในที่ประชุม สส.สัปดาห์หน้า แต่ไม่สามารถบอกเป็นร้อยละได้ แต่ก็ต้องเป็นมติพรรค คงไม่มีความจำเป็นต้องแจ้งให้กับพรรค พท.​ทราบ เพราะแต่ละพรรคก็มีมติของตัวเอง เป็นเอกสิทธิ์

พอถามถึงความเห็นกรณีที่ พปชร.พร้อมที่จะยกมือให้ พท. แม้จะไม่ได้ร่วมรัฐบาล มีเกมอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ตรงนี้ยังไม่ทราบ ต้องดูหลังจากการเลือกนายกฯ และมีการจัดตั้ง ครม.​ก็คงจะทราบ เมื่อถามอีกว่าตอนนี้มีการวิเคราะห์ว่าการที่ พท.ไปขอขมา ก.ก. เป็นทางผ่านเพื่อไปจับมือกับ 2 ลุงหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ก็คงมีหลายมุมมอง ส่วนมุมมองส่วนตัวมองว่า การโหวตให้ถือว่าเป็นนั่งร้านให้กับ 2 ลุง หรือไม่นั้น คงยังไม่ได้มองอะไร เราแค่รับฟัง จะมีการหารืออีกครั้ง เพราะยังมีเวลา

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวถึงการร่วมรัฐบาลกับพรรค พท.ว่า พท.ยังไม่ได้มีการติดต่อเข้ามาพูดคุยเจรจา หากมีการติดต่อมาเพื่อขอเสียงสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ก็จำเป็นต้องคุยกันในพรรคก่อน รวมถึงต้องดูว่ามีพรรคใดเข้ามาร่วมรัฐบาลบ้าง และนโยบายของแต่ละพรรคเป็นอย่างไร เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรารับได้หรือไม่

ถามถึงกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. แสดงท่าทีในลักษณะไม่ปิดประตูให้พรรค รทสช.ร่วมรัฐบาล นายพีระพันธุ์กล่าวว่า อยู่ที่พรรคพท. ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะเชิญใครเข้าร่วมทำงานบ้าง ไม่ได้อยู่ที่พรรค รทสช.

"การจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล สส.รทสช.ก็ต้องร่วมประชุมสภาเพื่อโหวตนายกฯ อยู่แล้ว แต่ต้องดูว่าคนที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ นั้นมีทัศนคติและนโยบาย รวมถึงแนวทางเป็นอย่างไร อีกทั้งมีพรรคการเมืองที่เรารับไม่ได้เกี่ยวข้องหรือไม่ ส่วนเรื่องการร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง" นายพีระพันธุ์กล่าว

ส่วนนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ชัยนาท พรรค รทสช. กล่าวถึงการร่วมรัฐบาลกับพรรค พท.ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องกรรมการบริหารพรรคที่จะพูดคุย ตนไม่ทราบอะไร เพราะไม่ได้เป็น กก.บห. ตนยินดีทำตามมติที่จะดำเนินการทางการเมืองต่อไป ทุกอย่างเป็นหน้าที่ กก.บห. เชื่อว่าเร่งพิจารณาอยู่แล้ว

ถามว่า ได้พูดคุยกับนายสมศักดิ์ถึงแนวทางการที่จะไปร่วมรัฐบาลอย่างไรบ้าง นายอนุชากล่าวว่า ที่คุยกันไม่ได้พูดกันลึก เมื่ออยู่คนละพรรคการพูดคุยเกี่ยวกับกรอบการเมืองต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้การดำเนินการทางการเมืองเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีเรื่องอะไรเคลือบแคลงสงสัย

เช่นเดียวกับ นายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค รทสช. ให้สัมภาษณ์พิเศษรายการ "มุมการเมือง" ทางไทยพีบีเอส ย้ำว่า การโหวตนายกฯ และการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรค พท.ต้องรอมติพรรค แต่ย้ำว่าสิทธิ์ในการโหวตเป็นของผู้แทนฯ ที่ต้องการให้ประเทศเดินหน้า และเป็นสิ่งที่นักการเมืองและพรรคการเมืองควรทำ จึงเชื่อว่าพรรค รทสช.จะยึดถือชาติบ้านเมือง และไม่ฝืนความเจริญของประเทศ ซึ่งนอกจากบ้านเมืองจะเดินหน้าแล้ว ยังถือเป็นการสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในชาติ

"แน่นอนถ้าจะไปต้องไปทั้งพรรค รทสช.ยึดหลักบ้านเมือง ถ้าโหวตแล้วบ้านเมืองไปได้ ทำไมจะไม่โหวต" นายสุชาติกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อุ๊งอิ๊ง' ดูไว้! นักการเมืองต้องรักษาสัจจะเหมือน 'อภิสิทธิ์' เคยหาเสียงไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์

เมื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวในงานอีเวนต์ ”10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10“ ว่า พรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกตั้งรัฐบาลผสม