‘ยิ่งใช้ยิ่งได้’บู่ คลังจ่อยกเลิก กั๊กคนละครึ่ง4

ขุนคลังจ่อคว่ำ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” โอดประชาชนไม่สนใจ เล็งคลอดมาตรการลดหย่อนดูดเงินคนรวย แทงกั๊กลุย “คนละครึ่ง เฟส 4” ขอรอดูตัวเลขใช้จ่ายภาคประชาชน “บิ๊กตู่” ปลื้มดัชนีผู้บริโภคกระเตื้องขึ้น

เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงอยู่ระหว่างเร่งพิจารณามาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี โดยคาดว่าจะชัดเจนในวันที่ 21 ธ.ค. โดยเบื้องต้นมาตรการจะเน้นช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคสำหรับประชาชน ซึ่งมีหลายโครงการที่อยู่ระหว่างพิจารณา เพื่อไม่ให้การใช้จ่ายภาคประชาชนต้องสะดุด รวมถึงอาจมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายสำหรับกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ โดยรายละเอียดทั้งหมดอยู่ระหว่างการหารือ

“โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่ดำเนินการในปัจจุบันไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากนัก ดังนั้นก็ต้องมาดูโครงการอื่นที่เหมาะสมเข้ามาทดแทน โดยปีหน้าจะมีมาตรการลดหย่อนต่างๆ ในหลายๆ เรื่อง ก็อาจเข้ามาดูในกลุ่มนี้”นายอาคมกล่าว และว่า โครงการคนละครึ่งเฟส 4 นั้น อาจต้องขอพิจารณาตัวเลขดัชนีทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องก่อน โดยเฉพาะอัตราการใช้จ่ายของประชาชน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งอาจสะท้อนว่ามีเม็ดเงินที่ประชาชนเริ่มนำออกมาใช้จ่ายได้มากขึ้น เพราะมีการสอบถามเรื่องดังกล่าวเข้ามาทุกวัน โดยกระทรวงการคลังก็ต้องคิดทุกวัน และติดตามตัวเลขดัชนีทางเศรษฐกิจตลอดเวลา

นายอาคมระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะขยายตัวได้ที่ 4% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าปีนี้ที่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวที่ 1% ขณะที่การส่งออกยังเติบโตได้ต่อเนื่อง 15-20% ถือเป็นตัวเลขที่ใช้ได้ โดยในปีหน้ารัฐบาลมีเม็ดเงินอีกกว่า 1 ล้านล้านบาท โดยมาจากงบลงทุน 6 แสนล้านบาท งบลงทุนรัฐวิสาหกิจ 3 แสนล้านบาท และเงินกู้จากพระราชกำหนดกู้เงินโควิดเพิ่มเติม วงเงิน 5 แสนล้านบาท ที่ยังเหลือเม็ดเงินอีก 2.5 แสนล้านบาท สำหรับเตรียมความพร้อมขยายการลงทุน และประคองการใช้จ่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

“ขณะนี้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และภาคธุรกิจเริ่มกลับมา ถือเป็นสัญญาณที่ดี มีสิ่งเดียวที่ต้องรอคอยคือ ภาคการท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้น คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปีถึงฟื้นตัว” นายอาคมกล่าว

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม รับทราบรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน พ.ย.2564 โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ซึ่งพอใจตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมประจำเดือน พ.ย.ที่ปรับตัวสูงขึ้น ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 45.2 จากเดิมที่ 43.4 ในเดือน ต.ค. เป็นการปรับเพิ่มขึ้นอย่างเนื่อง 4 เดือนติดต่อกัน ขณะที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ก็รายงานผลการสำรวจความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.2564 โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 43.9 ในเดือน ต.ค. เป็น 44.9 ในเดือน พ.ย. 2564 นับว่าความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน หลังจากการเปิดประเทศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง