ราชทัณฑ์แจง หลัก‘อภัยโทษ’ ปัดก๊วนวีไอพี

กรมราชทัณฑ์ร้อน แจงยิบขั้นตอนการเสนอชื่ออภัยโทษ ลั่นทำตามกฎหมายไม่มีนักโทษวีไอพี “บุญทรง” ได้ลดโทษมาแล้ว 4 ครั้ง จากคุก 48 ปีเหลือแค่ 10 ปี 8 เดือน “รัชดา” บอกใกล้จะรู้แล้วจำนำข้าวเจ๊งเท่าไหร่แน่ หลัง อคส.ระบายข้าวในสต๊อกหมด ก.ย.2565 เบื้องต้นขาดทุนแล้ว 5 แสนล้าน อีก 3-5 ปีจ่ายหนี้หมด

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2564 นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ชี้แจงถึงกระแสสังคมที่ตั้งคำถามถึงหลักเกณฑ์การอภัยโทษ ว่าอาจมีการให้สิทธิพิเศษต่อผู้ต้องขังบางกลุ่มว่า การอภัยโทษมีการสืบทอดเป็นโบราณราชประเพณี เนื่องในโอกาสสำคัญของบ้านเมือง เพื่อให้โอกาสแก่ผู้กระทำผิดได้กลับตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่ากรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมมีอำนาจเหนือคำพิพากษาศาล ขอชี้แจงว่า การพิพากษากำหนดโทษเป็นอำนาจของศาล ส่วนการบริหารโทษ เป็นอำนาจของกรมราชทัณฑ์ ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ภายใต้อำนาจของกฎหมาย

นายณรงค์ระบุว่า หลักเกณฑ์ในการที่นักโทษจะได้รับอภัยโทษ ต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดที่มีความประพฤติดีตั้งแต่ชั้นกลางขึ้นไป ส่วนจะได้รับการลดโทษมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับชั้นและประเภทคดีเป็นสำคัญ ประกอบด้วย คดีอาญาทั่วไป คดีอาญาร้ายแรง คดียาเสพติดรายย่อย และคดียาเสพติดรายใหญ่ โดยจะได้รับการลดโทษตามหลักเกณฑ์ ตัวอย่างการคำนวณการลดโทษ เช่น คดีอาญาทั่วไป นักโทษเด็ดขาดชาย ก. อยู่ในชั้นเยี่ยม กำหนดโทษจำคุก 30 ปี จะได้ลด 1 ใน 2 ตามเกณฑ์ข้างต้น คือจะได้ลด 15 ปี ดังนั้น จึงเหลือกำหนดโทษจำคุกอีก 15 ปี แต่หากเป็นคดีอาญาร้ายแรง ถ้านักโทษเด็ดขาดชาย ก. เป็นผู้กระทำผิดในคดีอาญาร้ายแรง มีกำหนดโทษจำคุก 30 ปี และเป็นชั้นเยี่ยมเช่นเดียวกัน จะได้รับการลดโทษ 1 ใน 3 คือจะได้ลด 10 ปี ดังนั้น จึงเหลือกำหนดโทษจำคุกอีก 20 ปี

“กรณีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในคดีจำนำข้าวที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ถือเป็นคดีอาญาร้ายแรง ศาลได้ตัดสินจำคุกมีกำหนดโทษ 48 ปี และได้รับการอภัยโทษ 4 ครั้งคือ ครั้งที่ 1 วันที่ 15 ส.ค.2563 ได้ลดโทษ 12 ปี (ลดโทษ 1 ใน 4 ชั้นดีมาก) เหลือโทษจำคุก 36 ปี, ครั้งที่ 2 วันที่ 5 ธ.ค.2563 ได้ลดโทษ 12 ปี (ลดโทษ 1 ใน 3 ชั้นเยี่ยม) เหลือโทษจำคุก 24 ปี, ครั้งที่ 3 วันที่ 28 ก.ค.2564 ได้ลดโทษ 8 ปี (ลดโทษ 1 ใน 3 ชั้นเยี่ยม) เหลือโทษจำคุก 16 ปี และครั้งที่ 4 วันที่ 6 ธ.ค.2564 ได้ลดโทษ 5 ปี 4 เดือน (ลดโทษ 1 ใน 3 ชั้นเยี่ยม) เหลือโทษจำคุก 10 ปี 8 เดือน”

นายณรงค์ย้ำว่า กรมราชทัณฑ์ขอให้สังคมและประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และจะปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกคนด้วยความเสมอภาค เท่าเทียม ไม่มีการเลือกปฏิบัติ หรือให้สิทธิประโยชน์ต่อผู้ต้องขังกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ

ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงภาระงบประมาณในโครงการจำนำข้าวว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รายงานว่า ในปีงบประมาณ 2565 สำนักงบประมาณได้ตั้งงบชำระหนี้ให้ ธ.ก.ส.จำนวน 6.9 หมื่นล้านบาท น้อยกว่าปีก่อนหน้า โดยปัจจุบันรัฐบาลยังมีภาระหนี้จากโครงการดังกล่าวที่ต้องชำระคืนให้ ธ.ก.ส.อีก 1 แสนล้านบาท คาดว่าสำนักงบประมาณจะตั้งงบประมาณเพื่อจ่ายหนี้ ปีละ 10-20% ของงบประมาณรายจ่าย ซึ่งจะใช้เวลา 3-5 ปีจึงจะชำระหนี้หมด

น.ส.รัชดากล่าวว่า ขณะที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้เตรียมปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว ซึ่งยังมีข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่ได้จากการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี และข้าวเปลือกนาปรังของรัฐบาลที่ผ่านๆ มา ที่รอระบายอีกประมาณ 220,000 ตัน ทั้งหมดเป็นข้าวเสื่อมคุณภาพ ต้องขายเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมเท่านั้น คนและสัตว์บริโภคไม่ได้ โดย อคส.ตั้งเป้าหมายระบายให้หมดภายในเดือน ก.ย.2565 เมื่อระบายจนหมดแล้ว จะทำให้สามารถปิดบัญชีโครงการรับจำนำได้ แล้วถึงทราบว่ามีผลขาดทุนเท่าไร โดยเบื้องต้นประมาณ 5 แสนล้านบาท จากการทุจริตในโครงการจำนำข้าวปีการผลิต 2554-57 ซึ่งได้ส่งฟ้องร้องดำเนินคดีไปแล้ว 1,143 คดี และผลขาดทุนดังกล่าวยังไม่รวมผลขาดทุนจากการที่ต้องขายข้าวในราคาต่ำในการประมูลข้าวสารในสต๊อกในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากข้าวยิ่งเก่า ยิ่งขายได้ราคาต่ำ รวมทั้งยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่รัฐต้องจ่าย เช่น ค่าเช่าคลังสินค้าเพื่อฝากเก็บข้าวสารในสต๊อก เป็นต้น

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวตอบโต้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม สอบตกการจัดการปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน เพราะกลัวกระทบกับเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลว่า ยืนยัน พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญกับประชาชนมากกว่าเสถียรภาพทางการเมือง จึงกำชับหนักแน่นและเด็ดขาดกับการทุจริตคอร์รัปชัน ทำให้รัฐบาลชุดนี้ไม่มีการทุจริตเหมือนกับรัฐบาลในอดีต ที่มีอดีตนายกฯ หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ และปล่อยให้อดีตรัฐมนตรีติดคุกเพียงลำพัง ซึ่งประชาชนยังจำได้ดี

"ที่ฝ่ายค้านบอกว่าได้สะท้อนปัญหามาโดยตลอด แต่รัฐบาลไม่สนใจระงับยับยั้งแก้ไขนั้น ฝ่ายค้านวันนี้ไม่เหมือนฝ่ายค้านในอดีต ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลแบบฝ่ายค้านมืออาชีพ มีหลักฐานมาอ้างอิงชัดเจน ไม่ใช่เอาข่าวมาตัดแปะ หรือเห็นว่าเรื่องไหนกำลังอยู่ในกระแสก็กระโดดเกาะเขาไปด้วยอย่างทุกวันนี้ ยืนยันว่านายกฯ ไม่เคยนิ่งเฉยกับการทุจริต เชื่อว่าประชาชนดูออก คงมีแค่ฝ่ายค้านที่ดูไม่ออกเพราะอคติบังตา" นายธนกรกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง