คุก3ปีโจ๋สามนิ้ว เผารถตร.ปี65 ใต้ด่วนดินแดง

ศาลอาญาสั่งจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา "3 โจ๋เกรียน" คดีม็อบสามนิ้วปี 65 เผารถตำรวจวอด 2 คัน ใต้ทางด่วนดินแดง ส่วนอีกราย คุก 1 ปี 4 เดือน ฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน "ตะวัน  ทะลุวัง" โผล่ให้กำลังใจ

ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีเผารถยนต์ตำรวจ  หมายเลขดำ อ.1847/2565 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้องนายวัชรพล นาคสวย, นายพลพล จิตรสุภาพ, นายจตุพล บุญพูล และนายณัฐพล เหล็กแย้ม ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นให้ได้รับความเสียหาย, ฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)

โดยอัยการโจทก์ฟ้องระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2565 ต่อเนื่องกัน ถึงเวลากลางคืน จำเลยกับพวกประมาณ 50-80 คน ซึ่งรวมเยาวชนชายอีก 2 คน ซึ่งถูกแยกตัวดำเนินคดีได้ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปมั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวาย ทำกิจกรรมทางการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง  ถนนวิภาวดี ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัย นอกจากนี้พวกจำเลยยังร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์รถยนต์ตราโล่ หมายเลขทะเบียน 07444 และรถยนต์หมายเลขทะเบียน 6 กจ 5593 กทม.  ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่จนได้รับความเสียหายเป็นเงิน 91,692 บาท ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 215 216, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว

โดยวันนี้ จำเลยทั้งสี่พร้อมทนายความเดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัด

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานโจทก์จำเลยทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ เบิกความในข้อเท็จจริงมีรายละเอียดสอดคล้องกันว่า  ในวันเกิดเหตุ มีการชุมนุมปราศรัยที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเสร็จแล้ว เวลาประมาณ 18.00 น. ต่อมาหลังจากตรวจสอบภาพวงจรปิดและภาพจากสื่อออนไลน์แล้ว พบว่ามีผู้ชุมนุมประมาณ 50-80 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาร่วมกันมั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายที่บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 โดยมีการขว้างปาสิ่งของ ยิงลูกแก้วหนังสติ๊ก ประทัด กระทบใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ เป็นการมั่วสุมตั้งแต่ 10  คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ที่จำเลยที่ 1, 3 และ 4 อ้างว่าแค่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ไม่ได้เผาทำลายรถยนต์ 2 คัน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นฟังไม่ขึ้น เห็นว่าจำเลยทั้งสามกระทำผิดตามฟ้องจริง

พิพากษาว่า จำเลยที่ 1, 3 และ 4 กระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำคุก ฐานร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นบทหนักสุด ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1, 3 และ 4 มีอายุ 18-19 ปีเศษ ย่อมรู้ผิดชอบชั่วดีแล้ว เห็นควรให้จำคุกจำเลยที่ 1, 3 และ 4 คนละ 4 ปี คำเบิกความของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้คนละ 1 ใน 4 คงจำคุกจำเลยที่ 1, 3 และ 4 คนละ 3 ปี ไม่รอลงอาญา

ส่วนจำเลยที่ 2 พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้เพียงว่า กระทำผิดฐานขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงานตำรวจที่บอกให้หยุด แต่ไม่ยอมหยุดเท่านั้น ไม่ปรากฏภาพว่าจำเลยที่ 2 ร่วมวางเพลิงเผาทรัพย์รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ให้จำคุก 2 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 1 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา

  ต่อมาทนายความจำเลยทั้งสี่ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว  โดยจำเลยที่ 1, 3 และ 4 ยื่นเงินสดคนละ 1.5 แสนบาท ส่วนจำเลยที่ 2 ยื่นเงินสด 1 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างอุทธรณ์คดี อย่างไรก็ตาม ศาลพิจารณาแล้วเห็นควรส่งคำร้องของจำเลยทั้งสี่ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวจำเลยทั้งสี่ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อรอคำสั่งของศาลอุทธรณ์ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณา 1-2 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฟังคำพิพากษาในวันนี้ มี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ "ตะวัน" อดีตสมาชิกกลุ่มทะลุวัง จำเลยคดีหมิ่นเบื้องสูง และเพื่อนของจำเลยทั้งสี่กว่า 10 คน เดินทางมาให้กำลังใจ ขณะที่ทนายความของจำเลยทั้ง 4 เตรียมยื่นประกันตัวระหว่างอุทธรณ์สู้คดีต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง