เลิกอุ้มมติเอกฉันท์ขับสส.ปูอัด

"ก้าวไกล" มีมติเอกฉันท์ 128 เสียง ขับ ‘ปูอัด’ พ้นพรรค เหตุขัดมติลงโทษคุกคามทางเพศ ส่งไม้ต่อ ‘ณัฐชา-รักชนก’ ดูแลพื้นที่จอมทอง มอบ ‘อธิชาติ’ สานต่องานปราจีนฯ "ชัยธวัช" ยืดอกรับสั่งไม่เปิดชื่อ 22 สส.โหวตอุ้ม ‘ไชยามพวาน’ ยัน "เบญจา" ไม่มีส่วนได้เสียบ่อขยะ เมิน ‘วุฒิพงศ์" เปิดหลักฐานแย้งมีแค่ข้อกล่าวหา อึกอักหลังถูกถาม ไม่ให้คนนอกร่วมสอบด้วย “เสี่ยหนู” ชัดเจนไม่รับ “สส.แจ้” เข้าภท.

ที่โรงแรมอักษร อ.แกลง จ.ระยอง วันที่ 7 พฤศจิกายน นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงภายหลังการประชุมร่วม ระหว่างคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) และ สส.ของพรรคก.ก. ในกรณีทบทวนมติลงโทษในข้อกล่าวหาคุกคามทางเพศ ของนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรค ก.ก. ว่า สืบเนื่องจากที่ประชุม กก.บห.ได้มีมติและพิจารณาบทลงโทษด้วยการตัดสิทธิ์พึงมีทั้งหมดในฐานะสมาชิกพรรค นอกจากนั้นยังได้กำหนดเงื่อนไขคาดโทษ ไม่กระทำความผิดซ้ำอีก กก.บห.ได้มีการประชุม และมีการพิจารณาแล้วเห็นว่าการแถลงของนายไชยามพวานไม่ได้เป็นไปตามมติ กก.บห. แม้นายไชยามพวานจะมีการกล่าวในทำนองที่ว่าตนเองก็น้อมรับมติของพรรค แต่โดยเนื้อหาสาระหลักกลับเป็นการนำข้อมูลของผู้เสียหายบางส่วนมาใช้ในการพยายามแก้ข้อกล่าวหาอีกครั้งว่าตนเองยังมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้เสียหาย

"ซ้ำร้ายการแถลงบางส่วนยังได้มีการเปิดเผยข้อมูลที่อาจเชื่อมโยงไปถึง และทำให้รู้ได้ว่าผู้เสียหายเป็นใคร ยังมีการกล่าวว่าเสื้อสูทและเนคไทเป็นของที่ได้รับมาจากบิดาของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นไปในทำนองที่มีความประสงค์แสดงออกว่าตนเอง และครอบครัวของผู้เสียหายมีความสัมพันธ์อันดีเรื่อยมา"

นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า การกล่าวอ้างถึงผู้เสียหายของนายไชยามพวานในครั้งนั้น เป็นครั้งแรกที่ทำให้ครอบครัวของผู้เสียหายรู้ว่าบุตรสาวของตนเป็นผู้เสียหายในกรณีนี้ ซึ่งตนได้ไปเข้าพบกับครอบครัวของผู้เสียหาย เพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยทางบิดาของผู้เสียหายให้การยืนยันว่า การที่ซื้อเนคไท และสูทให้กับนายไชยามพวานนั้น ไม่ได้แสดงถึงความสัมพันธ์ส่วนตัว ในลักษณะที่นายไชยามพวานตั้งใจจะสื่อสารออกมา แต่เป็นการสนับสนุนพรรค ซึ่งทางครอบครัวของผู้เสียหายก็เสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น

"ด้วยเหตุผลข้างต้น จึงนำมาสู่การประชุมในวันนี้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 128 คน เนื่องจากมีบางส่วนป่วย ติดงาน และภารกิจส่วนตัวอื่นๆ จึงทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ โดยมีมติในที่ประชุมเห็นตรงกันเป็นเอกฉันท์ ให้นายไชยามพวานพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากการแถลงและการกระทำของนายไชยามพวานถือเป็นการขัดต่อมติพรรค"

หัวหน้าพรรค ก.ก.กล่าวด้วยว่า เมื่อ สส.ของพรรคใน กทม. หายไป 1 เขต ที่ประชุมจึงเห็นตรงกันในการพิจารณาให้ สส.ในเขตใกล้เคียงซึ่งคือ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. และ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. ไปทำงานกับประชาชนแทนนายไชยามพวาน ส่วนใน จ.ปราจีนบุรี เขต 2 ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ที่ถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไปก่อนหน้านี้ ได้มอบหมายให้นายอภิชาติ ศิริสุนทร สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค ไปรับผิดชอบในประเด็นการแก้ไขปัญหาที่ดิน บ่อขยะ และมลพิษในพื้นที่แทน อีกทั้งยังได้มอบหมายให้ทีมงานภายในจังหวัดสานต่อและทำงานเดิมแทน สส.

นายชัยธวัชกล่าวชี้แจงในกรณีที่นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ที่ถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งให้ข้อมูลที่สร้างความกระทบเสียหายต่อพรรค โดยได้ให้เหตุผลที่ถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคว่า มีทีมงานในจังหวัดปราจีนบุรี หรือผู้ช่วย สส. ที่ทำงานใกล้ชิดของ กก.บห.รับผลประโยชน์จากบริษัทบ่อขยะ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหานี้ นายวุฒิพงศ์ได้มีการพยายามนำประเด็นนี้มาโต้แย้ง และนำข้อมูลมาให้ว่าการร้องเรียนมีแรงจูงใจจากผลประโยชน์ทางการเมือ ต้องมีการพิจารณาแยกจากกัน เนื่องจากไม่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาคุกคามทางเพศ ตนและผู้บริหารพรรคได้แจ้งกับกรรมการวินัยแล้วว่าเมื่อพิจารณาเรื่องการคุกคามทางเพศเสร็จ ต้องมีการพิจารณาในข้อกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ของพรรคเรียกรับผลประโยชน์จากบ่อขยะต่อเลย โดยได้มีการดำเนินการอยู่ในขณะนี้ แต่เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวหาบวชอยู่ จึงต้องรอให้สึกออกมาก่อน แล้วจึงค่อยเข้าสู่กระบวนการสอบข้อเท็จจริง น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ และ กก.บห.ที่ถูกกล่าวถึง ไม่ได้มีส่วนโหวตในขั้นตอนของกรรมการวินัย น.ส.เบญจา ของดออกเสียง เพราะรู้ว่าตนเองเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาร่วมในกรณีนี้ด้วย

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า แม้ น.ส.เบญจาไม่ได้มีโหวต แต่อาจจะมีการล็อบบี้ให้โหวตขับนายวุฒิพงศ์ออกจากพรรค นายชัยธวัชกล่าวว่า น.ส.เบญจาไม่ได้มีส่วนในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว การแต่งตั้งผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ารับผลประโยชน์ในฐานะผู้ช่วย สส.ของ น.ส.เบญจานั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ส่วนบุคคล เนื่องจาก น.ส.เบญจาตั้งผู้ช่วย สส. คนดังกล่าวขึ้น เพราะพรรคเสนอชื่อ

เมื่อถามถึงกรณีที่กรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร จะเชิญนายวุฒิพงศ์เข้าไปให้ข้อมูล นายชัยธวัชกล่าวตอบว่า "ก็ดีเลยครับ" พร้อมกล่าวต่อว่า ตนก็อยากให้จริงจัง เพราะเครือข่ายผลประโยชน์ในการหากินกับบ่อขยะ รวมถึงขยะในอุตสาหกรรม มลพิษต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล และนักการเมืองบ้านใหญ่เต็มไปหมดยินดีด้วยซ้ำ หากทาง กมธ.มาช่วยสอบสวน ถ้าคนของพรรคก้าวไกลผิดจริง ยิ่งขอบคุณ และอย่าหยุดแค่นั้น ต้องสอบไปดูว่านักการเมืองบ้านใหญ่มีใครที่เกี่ยวข้องกับบริษัทพวกนี้ 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้เปิด 22 รายชื่อ สส.ที่โหวตอุ้มนายไชยามพวาน นายชัยธวัชกล่าวยืนยันว่า เปิดไม่ได้ ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ได้เรียกร้องให้มีการลงมติ และเปิดอภิปรายถกเถียงอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องกังวล แต่เมื่อลงมติไปแล้ว ต้องไม่โจมตีเพื่อนที่ลงมติแตกต่างจากตนเอง 

"ผมในฐานะหัวหน้าพรรค ขอให้ทุกคนไม่เอารายชื่อว่าใครโหวตอะไรมากล่าวหาโจมตีกัน ดังนั้นผมเองก็เปิดเผยไม่ได้ ก็เป็นคนบอกให้ สส.ไม่ให้ออกมาเปิดเผยเอง เหตุผลก็มีแค่นั้น เราไม่ได้ปกปิดว่าใครมีความเห็นว่าอย่างไร แต่เป็นเรื่องกระบวนการภายในของพรรค" นายชัยธวัชกล่าว

ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ตัวแทนองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ไปร้องเรียนนั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า ทั้ง 2 คนที่ถูกกล่าวหากระบวนการของพรรคจบไปแล้ว หากผู้เสียหายจะถูกฟ้องกลับ สส.และทางพรรคจะเข้าไปช่วยเหลือด้านข้อกฎหมายกับผู้เสียหาย ตอนนี้มีอย่างน้อย 1 รายที่มีความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย พรรคก็เตรียมนัดผู้เชี่ยวชาญคดีการคุกคามทางเพศ เพื่อให้การช่วยเหลือ

เมื่อถามกรณีที่มีการขู่จากแฟนเพจเฟซบุ๊กต่างๆ ว่าจะแฉพรรคก้าวไกลเรื่อยๆ นายชัยธวัชกล่าวว่า ไม่เป็นไร ยืนยันว่าการที่สังคมมาช่วยตรวจสอบพรรคเรา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี สิ่งที่ต้องยืนยันคือ ต้องดำเนินการตรวจสอบและลงโทษอย่างตรงไปตรงมา ไม่ปกปิด หากผิดร้ายแรงก็ดำเนินการขั้นเด็ดขาด

ส่วนการตรวจสอบทั้ง 2 กรณี ถูกวิจารณ์ว่าไม่มีผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย นายชัยธวัชกล่าวด้วยท่าทีอึกอักว่า ขณะนี้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนของคณะกรรมการวินัย รวมถึงคณะกรรมการที่มาสอบข้อเท็จจริงชุดเล็ก คือการเพิ่ม สส.หญิงที่มีความรู้เรื่องกฎหมายเข้ามา เพื่อให้ผู้เสียหายเกิดความสบายใจมากขึ้น ต้องลดสัดส่วน สส.เข้ามาเกี่ยวข้อง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลมีมติขับนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ออกจากพรรค จะรับเข้า ภท.หรือไม่ ว่า “ไม่รับครับ” เหตุผลเพราะวันนี้ ภท.ไม่ได้มีปัญหาอะไรในทางการเมือง เราก็ต้องดูเรื่องของความเหมาะสมและอะไรต่างๆ และในวันนี้การเมืองเปลี่ยนไปแล้ว รัฐบาลมีความเข้มแข็ง มีเสียงสนับสนุนในสภาเกือบ 320 เสียง และ ภท.ก็ใหญ่ขึ้น จากที่มี สส. 50 คน เป็น 71 คน น่าจะโอเคแล้ว อีกทั้งเราก็มี สส.ที่เคยลงแข่งกับนายวุฒิพงศ์คือ นายชยุต ภุมมะกาญจนะ อดีต สส.ปราจีนบุรี 

 “ถ้าเรารับนายวุฒิพงศ์มา แล้วนายชยุตจะทำอย่างไร ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ซึ่งนายชยุตอยู่กับ ภท.มาตั้งแต่ตั้งพรรคแล้ว แต่เลือกตั้งครั้งนี้เขาพลาดไป ไม่ใช่ว่าพอเขาพลาดปุ๊บ ก็เอาคู่แข่งของเขามาเป็น สส.พรรคเพื่อเติมเสียง สส. เราคงไม่ทำอย่างนั้น” นายอนุทินกล่าว. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง