เดียร์เปิดตัวชิงหน.ปชป. ก.ก.รุกคุยอดีตบิ๊กศาลสูง

"ภูมิธรรม" ทำเป็นงงใครอยู่ "ชั้น 14" หลัง "ก้าวไกล" แย้มหากช่วยดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเอื้อ  "ทักษิณ" ได้อานิสงส์ด้วย เตือนอย่าเริ่มจุดไฟใหม่ อ้างต้องทำให้เป็นฉันทามติ    "ประเสริฐ-ชลน่าน" ขอดูรายละเอียดก่อน ซัด "โรม" อย่าพาดพิงชั้น 14 "ชัยธวัช" รุกหนักดอดพบอดีตบิ๊กศาลฎีกาลุยดันนิรโทษกรรม "วิชา" แนะให้เขียนถึงเหตุการณ์เป็นหลักตามรอย 66/23   "พุทธะอิสระ" ฉะจะสร้างปรองดองแต่แก้ รธน.ให้แตกแยกกัน "มาดามเดียร์" เอาแน่นัดแถลงข่าวชิงเก้าอี้หัวหน้า ปชป.

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 27 พฤศจิกายน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ไปพูดคุยกับนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย  จ.นครปฐม และอดีตแนวร่วม กปปส.  เพื่อขอเสียงสนับสนุนที่พรรค ก.ก.เสนอ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ..... เข้าสภาว่า ทุกเรื่องที่มีความเห็นขัดแย้งกัน ประเด็นสำคัญอยู่ที่การทำความเข้าใจ เพราะเราขึ้นมาเป็นรัฐบาลครั้งนี้เราก็อยากจะแก้ปัญหาเรื่องความขัดแย้งต่างๆ ให้หมดไป ถ้าสมมติว่ามีประเด็นใดที่ยังเป็นประเด็นที่สังคมยังมีความเห็นแตกต่าง ก็ต้องทำตรงนี้ให้ชัดเจน เราไม่อยากสร้างความขัดแย้งใหม่ ในขณะที่เราพยายามทลายกำแพงความขัดแย้งลง

"เพราะฉะนั้น จะเสนอเรื่องอะไร ก็เสนอได้ทั้งหมดไม่มีปัญหา แต่ประเด็นที่ยังมีความคิดเห็นต่าง ก็ต้องไปคุยกันให้จบก่อน ต้องเริ่มพูดว่าจะสามารถผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมร่วมได้อย่างไร ก็ต้องมีกระบวนการไปทำความเข้าใจหารือกับทุกหน่วยและผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ทราบว่าเขาทำอะไรไปแค่ไหน แต่ด้วยหลักการแล้ว คิดได้ เสนอได้ แต่จะทำได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการทำความเข้าใจกับสังคมได้มากเพียงพอหรือไม่"

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลพยายามเน้นย้ำว่า ทุกคนที่ต้องคดีจะได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกันทั้งหมด นายภูมิธรรมกล่าวว่า หลักการอยู่ที่มีคนเห็นต่างหรือไม่ ตนได้ยินว่าที่ไปหาใครบางคน ก็ยังมีความเห็นที่แตกต่าง แสดงว่าต้องทำให้เป็นฉันทามติร่วมกัน อะไรที่เห็นร่วมกันหมด แก้ได้ทั้งนั้น แต่ที่ยังเห็นไม่เหมือนกัน ถ้าดูจะเป็นประเด็นที่มันจะบานปลาย ก็ไม่ควรจะเริ่มจุดไฟใหม่ขึ้นมา

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการพาดพิงถึงบุคคลที่อยู่ชั้น 14 อาจจะได้รับอานิสงส์ไปด้วย นายภูมิธรรมย้อนถามว่า ชั้น 14 ที่ไหน ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า หมายถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายภูมิธรรมทำหน้างงแล้วกล่าวต่อว่า  “ท่านทักษิณอยู่ชั้น 14 เหรอ ผมไม่ทราบคุณพูดถึงอะไร” พร้อมกล่าวต่อว่า "ผมว่าเรื่องนี้เป็นหลักการ ไม่ต้องไปดูคนนั้นคนนี้เป็นอย่างไร ถ้าหลักการนี้ผ่านความเห็นชอบของคนที่เกี่ยวข้องทุกคน  ก็เอาตามหลัก ถ้าหลักไปได้แล้วไม่สร้างความขัดแย้งใหม่ก็ได้ทั้งหมด แต่ถ้าหลักไปไม่ได้ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ไม่อยากเห็นสังคมไทยจมปลักอยู่กับความขัดแย้ง จนกลายเป็นอุปสรรคของการที่จะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้"

ส่วนที่มีบางฝ่ายมองว่ามีการเชื่อมโยงเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องการเมือง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ได้มอง บอกไปแล้วว่าเรื่องราวต่างๆ เมื่อเราเป็นรัฐบาลอะไรที่ทำให้เกิดประโยชน์ได้ และเป็นฉันทานุมัติ ฉันทามติที่เห็นเหมือนกัน ก็ทำได้ ไม่ไปมองว่าใครจะตั้งใจทำอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างที่เสนอก็ดีทั้งนั้น แต่เสนอได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับความเห็นพ้องต้องกันในสังคม อย่าไปมองว่าคนนั้นคนนี้ทำอะไร เป็นการขยายความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า คงต้องขอดูรายละเอียดของกฎหมายดังกล่าวก่อน ว่ามีสาระสำคัญหลักการและเหตุผลว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ตนคิดว่ารัฐสภาก็จะพิจารณา ส่วนในช่วงหาเสียงพรรคเพื่อไทยเน้นไปที่นโยบาย เรื่องนิรโทษฯ เราไม่ค่อยได้พูดเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้อะไรที่ไม่เกี่ยวกับมาตรา 112 เราก็จะเห็นด้วย ถ้าเป็นความผิดทางด้านการเมืองที่เป็นเรื่องการเมืองจริงๆ และเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนมาก ก็ขอดูรายละเอียดของตัวร่างอีกครั้ง

พท.โวยอย่าพาดพิงคนบนชั้น 14

เมื่อถามว่า นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ระบุว่าร่างของพรรค ก.ก.ทุกคนจะได้รับสิทธิหมด เพราะวันนี้หลายคนไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนคนที่อยู่ชั้น 14 นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่อยากให้พาดพิงถึงคนที่อยู่ชั้น 14 เพราะเรื่องของท่านสิ่งที่ได้รับเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายทุกอย่าง ไม่ได้มีสิทธิพิเศษเหมือนคนอื่นแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นอยากส่งสัญญาณไปว่าอย่าให้เป็นประเด็นทางการเมืองมาก ขอให้พิจารณาหรือยกร่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ และการนำเสนออย่ามีวาระซ่อนเร้น ถ้าต้องการช่วยเหลือประชาชนจริงๆ พท.พร้อม

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวเช่นกันว่า คงต้องให้กรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย รวมถึงที่ประชุมพรรคเพื่อไทยพิจารณากัน เพราะต้องดูเนื้อหาสาระ เราไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับต้องดูความเป็นไปได้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ได้รับผลกระทบตัวจริงหรือไม่อย่างไร และต้องไปดูตัวบทว่าสอดรับวัตถุประสงค์และมีอะไรเป็นข้อจำกัด หรือจะนำไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายรังสิมันต์ระบุว่าร่างของพรรคก้าวไกล ทุกคนจะได้รับสิทธิหมด เพราะวันนี้หลายคนไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนคนที่อยู่ชั้น 14 นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่ขอตอบประเด็นนี้ ขอดูรายละเอียดก่อนว่าร่างของพรรคก้าวไกลเกิดประโยชน์โดยรวมจริงหรือไม่ 

ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ก.ก. กล่าวถึงกรณีการไปพูดคุยกับพุทธะอิสระว่า ช่วงที่ผ่านมาเราได้มีการพูดคุยกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กปปส. เสื้อแดง รวมถึงเยาวชนที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง นักกฎหมายอาวุโสหลายคนที่เคยเสนอเรื่องนิรโทษกรรมในอดีต รวมทั้งมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับนักสิทธิมนุษยชน เพื่อที่จะหาความเห็นร่วมที่เป็นไปได้ให้สามารถเกิดการนิรโทษกรรมได้จริง

"ส่วนผลการตอบรับโดยเฉพาะจากกลุ่ม กปปส.และกลุ่มพันธมิตรฯ  โดยภาพรวมถือว่าดี แม้ว่าอาจจะมีบางกลุ่มที่ยังคงมีคำถามอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งมีทั้งคนเห็นด้วย และยังมีคำถามบางอย่างก่อนจะตัดสินใจ ถือว่าเราก็ได้โจทย์ เพื่อที่จะได้ดำเนินงานต่อ สุดท้ายหวังว่ากระบวนการพูดคุยกับทุกฝ่ายที่มีความเกี่ยวข้อง รวมถึงฝ่ายความมั่นคง เมื่อสร้างความเห็นร่วมได้อย่างเป็นรูปธรรม จะทำให้พรรคการเมืองต่างๆ   เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของตัวเองเข้าสู่สภา เพื่อพิจารณาร่วมกันกับร่างของพรรคก้าวไกล ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า หากยังมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน ก็เป็นเรื่องยากที่พรรคการเมืองต่างๆ จะขยับในเรื่องนี้"

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีพรรคการเมืองไหนที่สนใจจะเสนอร่างมาประกบร่วมหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคกับอื่นๆ เพราะเห็นว่าสิ่งที่จะมีผลอย่างมีนัยสำคัญ คือเสียงของกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่เคยมีความขัดแย้งกัน ถ้ามีความเห็นร่วมกันของฝ่ายต่างๆ ที่เคยขัดแย้งกันได้ คิดว่าจะทำให้พรรคการเมืองต่างๆ สบายใจมากขึ้นในการที่จะเสนอเรื่องนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองจะเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่กระบวนการปรองดอง และสามารถคลี่คลายความขัดแย้งได้โดยสันติ

นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการป.ป.ช. และอดีตประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และคณะ ได้เดินทางมาพบเพื่อพูดคุยสอบถามความเห็นในเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรม  โดยได้มาถามความเห็นแนวทางที่ถูกต้องในการจะออกกฎหมายนิรโทษกรรม ที่คล้ายๆ กับที่ไปพบพุทธะอิสระ โดยนายชัยธวัชบอกว่า ต้องการทำกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ประสบปัญหามากที่สุดอย่างเช่นกลุ่มพันธมิตรฯ ที่โดนฟ้องคดี แต่ปรากฏว่าคดีอาญายังไม่มีการตัดสิน แต่มีการฟ้องทางแพ่งก่อน จนตอนนี้มีการออกคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ให้เป็นบุคคลล้มละลาย

'วิชา' แนะยึดโมเดล 66/23

 เมื่อถามว่า มีการขอความเห็นเรื่องนิรโทษกรรมคดี 112 หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ไม่มีตรงนั้น แต่ก็ให้คำแนะนำไปว่าไม่ควรพูดถึงเรื่องตัวบทกฎหมาย ควรเน้นเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่จะให้มีการนิรโทษกรรม เหมือนกับที่มีการนิรโทษก่อนหน้านี้ ที่จะพูดถึงเฉพาะเหตุการณ์ว่ามีความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงเวลาใดถึงเวลาใด เพราะหากใส่ไปว่าให้นิรโทษกรรมคนที่ผิดมาตราใดเป็นการเฉพาะ จะทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง ต้องทะเลาะกันวุ่นวาย

“ผมแนะนำเขาไปว่า การนิรโทษกรรมคือการนิรโทษกรรมตามเหตุการณ์ เพราะความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นมันจะเอาว่าผิดอย่างไร มันก็จะไม่สามารถหาจุดลงตัวได้ พอคุยกันก็จะทะเลาะกันวุ่นวาย ให้ไปดูอย่างเช่นที่เคยมีการออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/23 ก่อนหน้านี้ ที่ไม่ใช่ออกเป็นกฎหมาย แต่ก็ทำออกมาได้”

 เมื่อถามว่า เห็นด้วยกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า มันต้องยุติที่เคยขัดแย้งกันมาถึงจะเริ่มต้นกันใหม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะมีแต่ความขัดแย้งวุ่นวาย มันก็เดินต่อไม่ได้ ก็ติดอยู่แบบนี้ เพราะคนก็ไม่เชื่อในเรื่องของความยุติธรรม จึงเอาหลักการไว้ก่อน 

ขณะที่ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือพุทธะอิสระ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ไหนว่าจะสร้างความปรองดองไง ตอนที่แถลงจัดตั้งรัฐบาล ปากก็บอกว่า ที่จับขั้วต่างพรรคต่างอุดมการณ์ ก็เพื่อสร้างความปรองดองให้เกิดภายในประเทศ แต่พอได้เป็นรัฐบาล ก็มาเร่งรัดที่จะแก้รัฐธรรมนูญที่ประชาชน 29,740,677 คน ช่วยกันลงประชามติ รับรองรัฐธรรมนูญเมื่อปี 60 หากคิดมากๆ หน่อย ก็จะรู้ว่า การที่พยายามแก้รัฐธรรมนูญและทำประชามติเพื่อขอฉันทามติ มันก็เท่ากับแบ่งประชาชนให้แยกกันเป็นสองฝ่ายอยู่ดี แล้วเช่นนี้มันจะปรองดองตรงไหน? แล้วรัฐบาลปล่อยให้นักโทษชายทักษิณนอนเล่นในห้องสูท เตียงนุ่ม แอร์เย็นฉ่ำ กินอาหารเลิศรส สุดหรู มีโทรศัพท์ใช้ มีคนคอยรับใช้ คุ้มกันอย่างดี สิทธิพิเศษแบบนี้ยังจะบอกว่าให้ปรองดองกับคนไม่มีสิทธิ์อีกงั้นหรือ เอาหัวอะไรมาคิด

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการสรรหาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คนใหม่ ภายหลังนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่ได้ประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. ซึ่งพรรคได้จัดการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2566 เพื่อคัดเลือกคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค และหัวหน้าพรรคคนใหม่มาถึง 2 ครั้ง แต่องค์ประชุมล่ม จากสาเหตุความขัดแย้งภายในของผู้มีอำนาจในพรรค 2 ขั้วคือ ขั้วกลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย ที่มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเป็นแกนนำ พร้อมนายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าภาคใต้ และ สส.สงขลา ที่มี สส.ในมือรวม 21 เสียง ส่วนอีกขั้วเป็นกลุ่มผู้อาวุโสและอดีตหัวหน้าพรรค ที่มีนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ที่สนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ให้กลับมานั่งตำแหน่งนี้อีกครั้ง เพื่อกอบกู้พรรค

ล่าสุด น.ส.วทันยา บุนนาค หรือมาดามเดียร์ ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. พรรค ปชป. ซึ่งยอมรับว่าสนใจที่จะลงสมัครแข่งขันชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค ปชป. นัดจะแถลงข่าวลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. คนที่ 9 ที่บริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม ในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 29 พ.ย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ชื่นชมทีมจับกุมยาบ้า 4.5 ล้านเม็ด พร้อมเครื่องปั๊ม เตือนทาสยานรก ระวังชักตาย ยาบ้าสูตรใหม่ ส่วนผสมสุดอันตราย เร่งการไฟฟ้า ตรวจสอบการใช้ไฟตามชายแดน หากพบปลายทาง เป็นขบวนการค้ายา ต้องรีบตัดไฟทันที

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร ฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางมาแถลงข่าวการจับกุมพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ ซึ่ง ถูกจับกุมได้ที่จังหวัดสุพรรณบุรีพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 4.5 ล้านเม็ด เครื่องปั๊มเม็ด และยานพาหนะ

รมต.ใหม่ถวายสัตย์ เศรษฐานำเข้าเฝ้าฯ3พ.ค. แม้วควงสุวัจน์ทัวร์ภูเก็ต

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ "มาริษ" เป็น รมว.ต่างประเทศ "นายกฯ" เตรียมนำ รมต.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ 3 พ.ค.นี้