‘เจ๊ไหม’สับกสทช. ปล่อย‘ทรู-ดีแทค’ ผู้บริโภครับกรรม

"ศิริกัญญา" สับ "กสทช." ประธานบอร์ดรวบอำนาจ-สำนักงานใส่เกียร์ว่าง ไม่บังคับใช้มาตรการ ควบรวม "ทรู-ดีแทค" ทำผู้บริโภครับกรรม แพ็กเกจราคาถูกหาย-สัญญาณห่วย ดันร่าง กม.ของก้าวไกลอุดช่องว่าง

ที่พรรคก้าวไกล วันที่ 18 ธันวาคม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวระบุว่า บอร์ดคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) 4 คน ส่งบันทึกข้อความขอให้มอบหมายสำนักงาน กสทช.รวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์และผลกระทบต่อผู้บริโภค อันเนื่องมาจากคุณภาพสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ปัญหาอัตราค่าบริการสูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงแพ็กเกจการให้บริการโดยอัตโนมัติ เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมวันที่ 20 ธ.ค.นี้

โดย น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เรื่องดังกล่าวชวนให้ประชาชนเกิดความสับสนว่าบอร์ด กสทช.ออกมาแสดงละครอะไรหรือไม่ เรื่องแค่นี้ควรเป็นอำนาจของบอร์ดอยู่แล้ว เหตุใดจึงไม่คุยกันเอง ในความเป็นจริงการบรรจุวาระการประชุมบอร์ด กสทช.เป็นอำนาจเต็มของประธาน และแม้จะมีการร้องขอจากกรรมการและอนุกรรมการให้บรรจุวาระเรื่องผลกระทบต่อผู้บริโภคจากการควบรวม แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จจนเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์นี้

ประเด็นต่อมาคือ บอร์ดได้มีมติอนุมัติมาตรการเฉพาะที่จะกำกับ ควบคุม และเยียวยาผลกระทบที่เกิดจากการควบรวมไปเมื่อ 1 ปีที่แล้ว หน้าที่ในการบังคับใช้เป็นหน้าที่ของสำนักงาน กสทช.ที่มีดรามาการแต่งตั้งเลขาธิการคนใหม่ ที่ค้างเติ่งมาจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีเลขาฯ

สำนักงาน กสทช.ใส่เกียร์ว่างอย่างชัดเจน ในการบังคับใช้มาตรการเฉพาะต่างๆ หลายมาตรการ ที่ต้องทำเสร็จตั้งแต่ก่อนควบรวมก็ยังไม่ได้ทำ เช่น ให้ทรู-ดีแทคจัดให้มีหน่วยธุรกิจเพื่อให้บริการโครงข่ายแก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบโครงข่ายเสมือน หรือ MVNO (Mobile Virtual Network Operator) หรือมาตรการที่ต้องทำหลังควบรวมภายใน 30 วัน เช่น จ้างที่ปรึกษามาศึกษาโครงสร้างต้นทุนสำหรับคำนวณราคาตามต้นทุนเฉลี่ย (Average Cost Pricing) ก็ยังไม่ได้จ้าง

หรือการคุมค่าบริการให้ถูกลงไม่ต่ำกว่า 12% ถึงแม้สำนักงานจะแจ้งว่าทรู-ดีแทคได้ลดค่าบริการลงแล้ว โดยค่าโทร.ลด 15% ส่วนค่าเน็ตลด 80% ที่สร้างความฉงนสงสัยแก่ผู้บริโภคว่าไปลดตอนไหน ค้านสายตากรรมการเป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือแพ็กเกจราคาถูกหายไป และมีการปรับราคาจนเท่ากันหมดทุกค่าย

อีกทั้งการควบคุมคุณภาพสัญญาณก็เป็นปัญหา ตามมาตรการบอกว่าทรู-ดีแทคจะต้องคงคุณภาพการให้บริการ แต่จากการสำรวจผู้บริโภคพบคำตอบว่า หลังควบรวมเกิดปัญหาสัญญาณห่วยเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าสำนักงาน กสทช. จริงจังคงต้องดำเนินการสอบหาข้อเท็จจริงไปแล้ว ไม่ใช่รอให้ทรู-ดีแทคออกมาชี้แจง

 “สรุปง่ายๆ ก็คือ หลังจากที่บอร์ดมีมติรับทราบการควบรวม และเห็นชอบมาตรการคุ้มครองเยียวยาผู้บริโภคมาแล้วเป็นปี แต่เรามีสำนักงาน กสทช.ที่ใส่เกียร์ว่าง ไม่ยอมบังคับใช้มาตรการ มีประธานที่รวบอำนาจไว้กับตัวเอง  และบล็อกวาระที่จะทำให้เกิดสุญญากาศ บอร์ดไร้อำนาจในการตรวจสอบ ปล่อยให้ผู้บริโภคต้องรับกรรม” น.ส.ศิริกัญญากล่าว

น.ส.ศิริกัญญากล่าวอีกว่า พรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ปัจจุบันผ่านขั้นตอนรับฟังความเห็นของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 แล้ว เพื่ออุดช่องว่างไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่ กสทช.ปฏิเสธอำนาจของตัวเอง และละเลยการกำกับดูแลหลังควบรวมเช่นในปัจจุบัน

"โดยในร่างกฎหมายมีการแก้ไขกระบวนการสรรหาคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (บอร์ด กขค.) ให้ที่มายึดโยงกับประชาชนมากขึ้น มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และที่สำคัญคือติดดาบติดอาวุธให้บอร์ด กขค.มีอำนาจสั่งแยกธุรกิจ เพื่อให้กระบวนการบังคับใช้คำสั่งของ กขค.ได้ผลจริง และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น" น.ส.ศิริกัญญากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง