ลุ้นพิธาขึ้นศาลคดีหุ้นสื่อ ‘ชัยธวัช’จี้เลื่อนถกงบ67

“เศรษฐา” นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม. ก่อนลาพักร้อน 3 วัน รองเลขาฯ นายกฯ แจงลาพักได้ตามระเบียบสำนักนายกฯ “ภูมิธรรม” ยันนายกฯ สามารถทำงานโดยที่ไม่อยู่ทำเนียบฯ ได้ เผย 25 ธ.ค.ได้ข้อสรุปทำประชามติแก้ รธน. พร้อมเสนอ ครม.หลังปีใหม่ "บิ๊กป้อม" จ่อจัด “พปชร.สัญจร” คิกออฟเพชรบูรณ์ 8 ม.ค. “ชัยธวัช” วางแผนทำงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหลังรับโปรดเกล้าฯ ซัด รบ.จัดเวลาถกพ.ร.บ.งบฯ 67 แบบไม่ต้องการให้ตรวจสอบ ลุ้นศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี "พิธา" ถือหุ้นสื่อ

ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม ผู้สื่อข่าวถามถึงการลาพักผ่อนระหว่างวันที่ 19 - 22 ธันวาคม ได้มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังไม่ได้สั่งครับ

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการล็อกสเปกการก่อสร้างถนนคอนกรีตขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นใน 10 จังหวัด ความเสียหายกว่า 100 ล้าน นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องเลย  เดี๋ยวจะมีการตรวจสอบ ถ้าพบการทุจริตก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เดี๋ยวจะถามเรื่องนี้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ถ้ามีอะไรจะได้ให้ท่านตอบด้วย แน่นอนว่าต้องดำเนินการตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ครม.วันเดียวกันนี้ มี ครม.แจ้งลาประชุม 4 คน คือ 1.พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ 2.น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม 3.นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.การคลัง และ 4.นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ

ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นเป็นประธานการประชุม ครม. เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 22 ธันวาคม เวลา 12.00 น. นายกรัฐมนตรีได้ลาพักผ่อนที่จังหวัดภูเก็ต

น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ชี้แจงถึงการลาราชการพักผ่อนของนายเศรษฐาว่า เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันเกี่ยวกับการลาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.2555 หมวด 3 การลาของข้าราชการการเมือง การลาทุกประเภท เป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี และแจ้ง ครม.ทราบโดยไม่ได้ระบุให้ใช้เกณฑ์การลาของข้าราชการพลเรือนมาเทียบ นายกรัฐมนตรีจึงลาได้ตามระเบียบสำหรับข้าราชการการเมือง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การลาพักร้อนของนายกฯ ว่า การลาพักร้อนถือเป็นเรื่องธรรมดา และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็สามารถลาพักร้อนได้ ซึ่งกรณีนายกฯ ลูกชายกลับมาจากสหรัฐอเมริกา และมาเจอกับนายกฯ ที่ญี่ปุ่นเมื่อกลับมาเมืองไทยก็จะมาเจอกันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก การลาพักร้อน 2-3 วันถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก แล้วนายกฯ ก็สามารถทำงานโดยที่ไม่ได้อยู่ที่ทำเนียบฯ ได้ มีอะไรก็สามารถประสานงานเร่งด่วนได้ รวมถึงยังสามารถมอบหมายให้คนอื่นรักษาการแทนได้ กรณีนี้นายกฯ อยู่ในประเทศ จึงไม่น่ามีปัญหาอะไร ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก รัฐมนตรีก็สามารถลาได้ซึ่งมีระเบียบให้ลาอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ช่วงที่นายกฯ ลาพักร้อน นายภูมิธรรมจะต้องรักษาราชการในตำแหน่งนายกฯ ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็แล้วแต่ท่านมอบหมาย    

นายภูมิธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า  ความชัดเจนจริงๆ ต้องรอวันที่ 25 ธ.ค.นี้  ซึ่งจะมีการประมวลความเห็นทั้งหมดของ สส.และ สว. รวมถึงรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ โดยจะประชุมสรุปในวันดังกล่าว เชื่อว่าจะจบทุกอย่าง โดยจะนำข้อสรุปและความเห็นที่แตกต่างเพื่อเสนอ ครม.ในสัปดาห์แรกที่มีการประชุม ครม.หลังจากหยุดปีใหม่ จากนั้นต้องรอดูว่า ครม.จะมีมติอย่างไร เพราะเรื่องที่จะส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องและมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นในสภา หาก ครม.เสนอไปเองอาจเป็นไปได้ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะบอกว่าเรื่องยังไม่เกิดขึ้น และไม่รับวินิจฉัย

'ลุงป้อม' จัด พปชร.สัญจร

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอรรถกร  ศิริลัทยากร สส.ฉะเชิงเทรา ในฐานะโฆษกพรรค เปิดเผยว่า ในการประชุมกรรมการบริหารและ สส.ของพรรค โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน และกล่าวเปิดประชุมถึงการทำงานของพรรคในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ที่ร่วมบริหารงานมาครบ 3 เดือนแล้ว โดยพรรคสามารถผลักดันนโยบายที่สำคัญๆ ออกมาเป็นรูปธรรมหลายเรื่อง โดยเฉพาะนโยบายการจ่ายเงินชดเชยให้ชาวนาไร่ละ 1,000 บาท จำนวนไม่เกิน 20 ไร่ต่อครอบครัว หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครอบครัว ซึ่งพรรคได้ริเริ่มและทำสำเร็จมาแล้วหลายปี อีกนโยบายหลักคือ นโยบายการเปลี่ยนที่ดิน สปก.4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ซึ่งก็สำเร็จแล้วเช่นกัน จึงขอให้ทุกคนโดยเฉพาะ สส. เวลาลงพื้นที่ให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์กับประชาชนให้ทราบว่าเป็นผลงานของพรรคที่เราได้ผลักดันทำให้พี่น้องของประชาชนทั้งประเทศ

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง สส.สระแก้ว รองหัวหน้าพรรค พปชร. ในฐานะประธานกรรมการด้านกิจกรรมสัมพันธ์ กล่าวว่า พรรคมีแนวคิดในการจัดพรรคสัญจร เพื่อลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาต่างๆ  ของประชาชนในแต่ละพื้นที่ โดยในวันที่ 8 ม.ค.67 จะลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ มอบโฉนดที่ดิน โดย พล.อ.ประวิตรและพรรคจะไปดูเรื่องน้ำและที่ดินทำกิน และนับตั้งแต่เดือน ม.ค.67 จะมีการขับเคลื่อนเรื่องแปลง ส.ป.ก.เป็นโฉนด หัวหน้าพรรคจึงต้องการลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหา อุปสรรคและข้อร้องเรียน โดย จ.เพชรบูรณ์มีเรื่องร้องเรียนค่อนข้างมาก พล.อ.ประวิตรจึงต้องการไปรับฟัง จากนั้นวันที่ 12 ม.ค.67 จะลงพื้นที่ จ.หนองคาย เพื่อไปติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ 

ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล  ให้สัมภาษณ์ถึงพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในที่  20 ธ.ค. และแนวทางในการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า วันนี้อยู่ระหว่างนัดหมายกำหนดวันประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ปัญหาคือสัปดาห์หน้างดการประชุมสภา มีเพียงวันพฤหัสบดีที่ 28 ธ.ค.เท่านั้นที่จะสามารถนัดประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ แต่ติดที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค จึงต้องดูก่อนว่าจะขยับวันประชุมได้ก่อนปีใหม่หรือไม่ จากนี้ฝ่ายค้านจะมีความชัดเจนในเรื่องของการประสานงานร่วมกันระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าแต่ละพรรคมีข้อเสนอใดบ้างที่จะนำมาเป็นแนวทางและแผนงานทำงานร่วมกัน เพราะบางเรื่องไม่ใช่เรื่องของพรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียวแล้ว

"ล่าสุดยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างจริงจัง แต่หลังจากนี้จะมีวาระใหญ่ๆ รออยู่แล้วแน่ๆ คือวาระในการพิจารณางบประมาณปี 2567 ในส่วนของพรรคก้าวไกลอยู่ระหว่างการเตรียม สส.ในการอภิปราย โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเฉพาะหน้าที่จะต้องหารือกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้การอภิปรายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน"

โวยถกงบฯ 67 ขวางตรวจสอบ

 สำหรับความคืบหน้าจากกรณีที่เคยเสนอให้มีการเลื่อนพิจารณางบประมาณปี 2567 ไปก่อนนั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลดูเหมือนจะยังไม่มีการกำหนดวันที่เป็นทางการ แต่มีการส่งสัญญาณมาว่าจะมีการเริ่มพิจารณาในวันที่ 3-4 มกราคม 2567 ในฐานะฝ่ายค้านเห็นว่าอย่างน้อยควรจะขยับเวลาออกไปเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะกว่าจะได้เอกสารและข้อมูลต่างๆ นั้นช้ามาก ดังนั้นควรมีระยะเวลาเพื่อให้ประชาชนและพรรคฝ่ายค้านได้มีเวลาดูเอกสารต่างๆ มากที่สุด

“ถ้าจัดเวลาแบบนี้ หมายความว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้ตรวจสอบ พ.ร.บ.งบฯ อย่างเต็มที่ ถ้ารัฐบาลไม่ได้กังวลเรื่องการถูกตรวจสอบอะไร ก็ควรมีระยะเวลาให้พรรคร่วมฝ่ายค้านและประชาชนได้เห็นข้อมูลงบที่รัฐบาลเสนอเข้ามา ถ้าเลื่อนไปเป็นสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคม ก็ยังมีเวลาพิจารณา พ.ร.บ.งบฯ ทันตามกำหนด"

 เมื่อถามว่า ถ้าไม่เลื่อนกำหนดในการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ จะมีเวลาเตรียมตัวทันหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ทุกวันนี้ก็เตรียมข้อมูลอยู่แล้ว  แต่กว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นทางการครบทั้งหมด ต้องใช้ระยะเวลา ข้าราชการก็แทบจะไม่ทำงานกันแล้ว จึงเป็นปัญหาเพราะช่วงวันหยุดแบบนี้การได้มาซึ่งข้อมูลที่เพียงพอน้อยเกินไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 20 ธ.ค. เวลา 09.30 น. มีกำหนดนัดไต่สวนพยานบุคคล กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ สส. ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่  และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. นับแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย 

ทั้งนี้ การไต่สวนพยานบุคคลครั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีและบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังการไต่สวนเท่านั้น โดยบุคคลที่จะเข้าฟังการไต่สวน จะต้องแลกบัตร ฝากสิ่งของ อาทิ กระเป๋า โทรศัพท์มือถือ เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมทั้งต้องผ่านจุดตรวจค้นอาวุธ ซึ่งจะอยู่บริเวณเชิงบันไดทางขึ้นห้องพิจารณาคดี และการไต่สวนครั้งนี้ จะยึดหลักและแนวทางปฏิบัติเช่นเดียวกับการไต่สวนคดีสถานะรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะไม่มีการถ่ายทอดการไต่สวนผ่านโทรทัศน์วงจรปิด ซึ่งเป็นไปพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 38 และมาตรา 59

อย่างไรก็ตาม นายพิธาจะเดินทางไปให้การไต่สวนพยานด้วยตัวเอง โดยจะไปถึงที่ศาลรัฐธรรมนูญเวลา 09.00 น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง