
กรุงเทพฯ ๐ ยังไม่จบ! รมช.คมนาคม โต้ฝ่ายค้าน ยันงบลงภาคใต้เพียบ เหน็บมีกึ๋นแค่ไหน ไล่ไปศึกษาบทบาท สส.ก่อน โทษยุทธศาสตร์ชาติทำให้รัฐบาลไม่มีอิสระในการจัดงบฯ "จิรายุ" แก้ต่างให้ "ทินดาวน์น้อย" ฝ่ายค้าน
ต้องชื่นชมเพราะไม่ลักไก่
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2567 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ว่า ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ดังกล่าว และขอบคุณทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ที่ได้ให้ความสนใจอภิปรายงบประมาณประจำปี 2567 ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับจัดสรรจำนวน 35,055.6025 ล้านบาท จากนี้จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนใน 3 ด้าน
1.ด้านสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม วางแผนรับมือและป้องกันวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้น โดยจะใช้งบประมาณที่ได้รับจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากมีความจำเป็น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จะดำเนินการขอรับจัดสรรงบกลางเพิ่มเติม ปีงบประมาณ 2567 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพ ได้จัดตั้งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยตรง และเป็นไปตามพันธสัญญาข้อตกลงปารีสและการประชุม COP ที่ผ่านมา จะสานต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำของอาเซียน ในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
2.ด้านทรัพยากรธรรมชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนดูแลและคุ้มครองสัตว์ป่า รวมทั้งการสร้างการเติบโตเศรษฐกิจภาคทะเลและทรัพยากรธรณี ทั้งยังให้ความสำคัญในเรื่องการจัดการที่ดินให้แก่ราษฎรที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่า ตลอดจนส่งเสริมการปลูกป่า ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและหลักการคนอยู่กับป่า ตามแนวพระราชดำริ
3.ด้านแหล่งน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ซึ่งในปี 2567 ได้รับจัดสรรงบประมาณ 6,716.4969 ล้านบาท ซึ่งประชาชนได้รับประโยชน์ 93,000 ครัวเรือน แหล่งน้ำได้รับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนา 763 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดทางด้านการคลังของรัฐบาล ทำให้การจัดสรรงบประมาณไม่เป็นไปตามความต้องการทั้งหมดของกระทรวง อีกทั้งสถานการณ์ของโลกปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือในการแก้ปัญหาจากทุกภาคส่วน ต้องปรับเปลี่ยนหาวิธีการทำงานใหม่ๆ มาใช้ในการแก้ปัญหาตามภารกิจของกระทรวง โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน และประชาชน ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ปัญหาเกิดความยั่งยืนทั้ง 3 ด้าน
“กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอขอบคุณท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ทรงเกียรติทุกท่าน ที่ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะนำมาเป็นแนวทางพิจารณา โดยให้สอดคล้องกับงบประมาณ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและประชาชนต่อไป”
เหน็บมีกึ๋นแค่ไหน
ด้านนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงภาพรวมของวันอภิปรายว่า ในส่วนของฝ่ายค้านได้อภิปรายถึงงบประมาณที่บอกว่าเป็นงบประมาณที่สืบทอดอำนาจจากรัฐบาลเดิม แต่ในมุมของประชาชนเขามองว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านพูด พูดไม่หมดในเนื้อหา เช่น มี สส.ระบุว่าทำไมงบประมาณของคมนาคมเรื่องโครงสร้างพื้นฐานไม่ลงไปที่ภาคใต้ แต่เมื่อมาดูงบประมาณของคมนาคม ก็จะเห็นว่าลงไปที่ภาคใต้เยอะ แต่หากโต้กันไปมาก็จะไม่ใช่การอภิปรายงบประมาณในภาพรวม ฉะนั้น ฝ่ายค้านลุกขึ้นมาพูดโดยไม่ได้ดูเนื้อหาสาระรายละเอียด แต่ต้องยอมรับว่าเข้ามาเป็นรัฐบาลที่มีโครงการเดิมเป็นงบผูกพันที่ผูกมานานแล้ว ซึ่งบางครั้งก็มาปรากฏในปี 67 แล้วเราจะไปแก้ได้อย่างไร และการทำงบประมาณอยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เราจะไปเปลี่ยนอะไรได้ เพราะเขาล็อกไว้ นั่นเป็นสาเหตุที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.การคลัง ถึงได้ระบุว่าอยากรื้อยุทธศาสตร์ชาติ
รมช.คมนาคมกล่าวต่อว่า ในส่วนของรัฐมนตรี นายกฯ ได้มีการกำชับว่าให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงอย่าละเลยประเด็นที่มีคำถาม ให้พยายามตอบถึงแม้ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ต้องพยายามตอบทุกประเด็นคำถาม อย่างไรก็ตาม สส.ที่อภิปรายออกนอกประเด็น ตนมองว่าเป็นสิทธิของทุกคนที่จะอภิปราย แต่การอภิปรายนอกประเด็นหมายความว่าเขาไม่เข้าใจเนื้อหาของการอภิปรายงบประมาณ และเขาไม่ได้ศึกษาบทบาทการทำหน้าที่สส. ซึ่งการพูดก็สะท้อนให้เห็นว่า สส.คนนั้นเป็นอย่างไร มีกึ๋นแค่ไหน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง กล่าวถึงฝ่ายค้านอภิปรายการใช้เงินดาวน์น้อย ในงบของกระทรวงกลาโหมนั้น เหมือนกับทำให้ยอดผ่อนจะมากและนานขึ้นว่า จริงๆแล้วฝ่ายค้านต้องชื่นชม เพราะถือว่าบิ๊กทินทำถูกต้องแล้ว ไม่มีการลักไก่ ไปดาวน์แบบเต็มเหนี่ยวตามคำอภิปรายเพราะหากฝ่ายค้านมาทำงบประมาณปี 2567 ที่ไม่ปรกติ มีความล่าช้าจากการมีรัฐบาลช้า และขืนไปดาวน์แบบเต็มเหนี่ยว คงโดนสวดชยันโตว่าไม่ซื่อสัตย์ต่อประเทศไทยอย่างแน่นอน ซึ่งการพิจารณางบประมาณประจำปี 2567 ใน ห้วงเวลานี้ไม่ปกติ กว่าจะประกาศใช้ได้ก็เกือบเดือนพฤษภาคม
ในทางปฏิบัติกรอบปีงบประมาณปกติของ 2567 จะเสร็จสิ้นพร้อมประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมปีที่แล้ว แต่งบ 67 เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวาน กว่าจะพิจารณารายมาตราวาระ 2 และเข้าสู่สภาวาระ 3 จนประกาศใช้ ก็คาดว่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3-4 เดือน ทำให้งบ 2567 มีช่วงเวลาใช้ได้เพียงแค่ 4-5 เดือนก่อนสิ้นปีงบประมาณ 31 กันยายน 2567 เท่านั้น
ฝ่ายค้านต้องชื่นชม
นายจิรายุกล่าวอีกว่า ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณของกระทรวงกลาโหมได้รายงานมาว่า งบประมาณปี 2567 มีรายการผูกพันข้ามปีประมาณ 41,000 ล้านบาทเศษ โดยได้จัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ 2567 จำนวน 5,100 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.34 ของวงเงินรวมทั้งสิ้น ทั้งนี้ ตามมติ ครม.เมื่อ 10 ก.พ.2552 เรื่องหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กำหนดให้รายการรายจ่ายลงทุนที่จะขอผูกพันข้ามปีงบประมาณทุกรายการต้องได้รับการจัดสรรงบประมาณในปีแรกเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ซึ่งได้เสนอของบประมาณในปีแรกไปร้อยละ 20 ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวจึงพิจารณาจัดสรรตามความเหมาะสม ภายใต้ข้อจำกัดด้านระยะเวลาและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่จะเกิดขึ้นจริง เพื่อไม่ให้งบประมาณเหลือจ่าย และจะต้องกันไปใช้ในปีต่อไป อันไม่เป็นประโยชน์ต่อการคลังของประเทศไทย
“ในความเป็นจริงทางการเมืองอาจเป็นแค่เอาตัวเลขมาเล่นเพื่อด้อยค่า แต่ในทางการพัฒนาประเทศ ถือว่ากลาโหมยุคสุทิน คลังแสง ไม่มีการลักไก่ไปใช้เต็มวงเงินในการมัดจำ หากดาวน์มากก็จะถูกกล่าวหาว่าไม่รู้จักวางแผนอีก ฝ่ายค้านต้องชื่นชมรัฐมนตรีกลาโหม" นายจิรายุกล่าว
ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกจากทุกพรรคการเมือง ที่ลงมติผ่านวาระแรกร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ด้วย 311 ต่อ 177 เสียง เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในขั้นตอนต่อไปในชั้นกรรมาธิการวาระ 2 และ 3 เพื่อขับเคลื่อนการใช้งบประมาณของรัฐบาล และทุกหน่วยงานทุกกระทรวงได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะงบประมาณในการลงทุนของภาครัฐที่ต้องเร่งเบิกจ่ายอย่างรวดเร็ว
เมื่อถามว่า ประเมินการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในการอภิปรายงบปี 67 ครั้งนี้อย่างไร นายธนกรกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าข้อมูลของฝ่ายค้านในการอภิปรายงบประมาณหลายเรื่องยังไม่ตรงประเด็น บางส่วนก็นำมาปะติดปะต่อดึงข้อมูลมาแค่บางส่วน ไม่ครบถ้วนโจมตีพาดพิง บางคนใช้คำพูดการด้อยค่าอย่างไม่สร้างสรรค์ ซึ่งถือว่ายังเป็นการสร้างวาทกรรม มุ่งเล่นแต่เกมการเมือง
ปชป.สอบผ่าน
“หลายส่วนในการอภิปรายของฝ่ายค้านก็ถือว่าได้รับคำชมว่าทำได้ดี จึงขอฝากให้ฝ่ายค้านร่วมกันทำงานสภาสร้างสรรค์ ด้วยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ไม่ควรผลิตวาทกรรมมาด้อยค่ากัน ให้การทำงานสภาเป็นไปในเชิงพัฒนามากกว่าเล่นเกมการเมือง” นายธนกรกล่าว
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ต้องชื่นชม สส.ทุกคนที่ได้ร่วมกันตรวจสอบ ท้วงติง นำเสนออย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้งบประมาณที่จะนำไปใช้ได้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ในขณะที่ภาพรวมของรัฐบาลนั้น ยังไม่สามารถชี้แจงได้ชัดว่างบประมาณแผ่นดินวงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท จะนำไปใช้ให้ประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างไร เพราะการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่เคยประกาศไว้ ไม่มีรายละเอียดใดเลย อีกทั้งหลายฝ่ายมีความห่วงใยในเรื่องของกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ งบประมาณที่ประกาศว่าจะนำไปพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ก็สวนทางกับรายละเอียดในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ที่เป็นการจัดสรรงบประมาณตามความต้องการของรัฐบาล โดยไม่ได้ยึดโยงกับสภาพปัญหาที่แท้จริงและประโยชน์ของประชาชน ดังจะเห็นได้ชัดว่าในการจัดสรรงบประมาณครั้งแรกของรัฐบาลชุดนี้ ละเลยเรื่องการสร้างงาน การสร้างคน การสร้างคุณภาพชีวิต เพราะตัวเลขสรุปภาพรวมที่ชัดเจนคือ 6 ยุทธศาสตร์หลัก ดังที่ได้กล่าวมาได้รับการจัดสรรงบประมาณให้น้อยมาก และยังมีอีกหลายส่วนที่จะต้องติดตามในวาระที่สอง คือในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญต่อไป ซึ่งจะมีการพิจารณาลงลึกในรายละเอียดงบประมาณของแต่ละกระทรวง และ สส.ทุกคนจะได้แปรญัตติภายใน 30 วัน ต่อไป
นายราเมศกล่าวตอนท้ายว่า สำหรับสัดส่วน กมธ.งบประมาณทั้ง 3 คน ถือได้ว่าเป็นตัวแทนพรรค ก็จะไปทำงานอย่างเต็มที่แทนพี่น้องประชาชน และจะทำงานร่วมกันกับ สส.ทุกคนของพรรค ที่ไม่ได้เป็น กมธ.งบประมาณ ด้วย ในเรื่องที่เกี่ยวกับการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เพราะทุกคนล้วนมีประสบการณ์ ซึ่งก็จะมาร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
'ภราดร' ท้า 'รัฐบาล' ถ้าบริสุทธิ์ใจทำไมไม่มีหมายจับ 'เบน สมิธ–ยิม เลียก'
'เสธ.แมว' ท้า 'รัฐบาล' ถ้าบริสุทธิ์ใจตอบให้ได้ ทำไมยังไม่มีหมายจับ 'เบน สมิธ–ยิม เลียก' มองเงินอายัดพุ่ง 26,000 ล้าน แต่ ก.ล.ต.กลับนิ่ง เผยบางคนในเครือข่ายสแกมเมอร์เริ่มหมอบ เตรียมแยกตัวเป็นพยาน
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


