ถึงมือนิด!กฤษฎีกาไม่ฟันธงกู้มาแจก

นายกฯ เผยกฤษฎีกาตอบกลับความเห็นเงินหมื่นแล้ว บอกยังไม่มีข้อติดขัดอะไร อีก 2 วันแถลงความคืบหน้า “อุ๊งอิ๊ง” ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด คิกออฟนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตร  ปชช.ใบเดียว” ภูมิใจสานต่อนโยบายพ่อ  “บิ๊กป้อม” โผล่ร่วมทัพ พปชร.สัญจรเมืองมะขามหวาน โวผลงานเพียบ 

เมื่อเวลา 16.25 น. วันที่ 7 ม.ค. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6)  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ส่งคำถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตอนนี้ได้รับคำตอบมาแล้วหรือยังว่า ได้รับคำตอบมาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีข้อเสนอแนะข้อคิดเห็น จากนี้เราคงต้องฟังความคิดเห็นอีกหลายฝ่าย โดยอีก 2 วันข้างหน้าคงจะมีการแถลงออกมาว่าขั้นตอนต่อไปจะทำอย่างไรต่อ โดยเบื้องต้นไม่มีข้อติดขัดอะไร มีเพียงข้อเสนอแนะและขั้นตอนที่ต้องไปทำต่อ       

เมื่อถามย้ำว่า ขั้นตอนที่ว่าจะใช้เวลานานเท่าใด นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะเพิ่งได้รับความเห็นมา ขอให้คณะทำงานได้ศึกษาและพูดคุยกันก่อน และคิดว่าคงไม่น่าทันการเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 9 ม.ค.นี้

ขณะที่สำนักข่าวอิศราระบุว่า   กฤษฎีกาได้ส่งคำวินิจฉัยกลับไปให้กระทรวงการคลังแล้วตั้งแต่ปลายสัปดาห์ โดยตีตราลับ ซึ่งคำวินิจฉัยไม่ฟันธงว่าการกู้เงินทำได้หรือไม่ได้ เพียงแต่อธิบายข้อกฎหมายต่างๆ เท่านั้น แล้วส่งเรื่องกลับไป

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ  ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ สส.น่าน พรรคเพื่อไทย,   นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขานุการคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ รวมทั้ง สส.พรรคเพื่อไทยหลายคน โดยได้ตรวจเยี่ยมความพร้อมในการดำเนินนโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมกับอีก 3 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ แพร่ เพชรบุรี และนราธิวาส

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ริเริ่มดำเนินการเมื่อ 22 ปีที่แล้วโดยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่นำโดยอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งพี่น้องประชาชนทุกคนเคยใช้และได้ประโยชน์ วันนี้ถึงเวลาแล้วที่จะอัปเกรดให้ดีขึ้น และสะดวกกับพี่น้องประชาชนมากขึ้น

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมและความเหมาะสมของโครงการพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ขุดลอกสระน้ำสาธารณะบ้านใหม่ตาแสง หมู่ที่ 4 ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน  และเดินทางไปรับฟังบรรยายสรุปเรื่องโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำลายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่วัดอรัญญวาสี ต.นาอาน อ.เมืองเลย จ.เลย โดยมี น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ  รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย, หัวหน้าส่วนราชการ และ ประชาชนในพื้นที่ ร่วมด้วย

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมพรรคพลังประชารัฐสัญจร ครั้งที่ 1/2567 ที่หอประชุมเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี (หลังใหม่) บริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์

โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค และ รมช.สาธารณสุข, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานกิจกรรมพิเศษพรรค, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรค,  กรรมการบริหารพรรค รวมถึง สส.เพชรบูรณ์ทั้ง 6 เขต และ สส.พรรคพลังประชารัฐจากจังหวัดอื่นๆ มาร่วมงาน

โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ทำงานมาเป็นเวลา 3 เดือน ถือว่าเป็นระยะเวลาที่พอสมควรในการที่จะออกมาเพื่อพบปะ และรับฟังปัญหาความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยตรง เรามีนโยบายที่จะมาดูแลแก้ปัญหาให้กับคนไทยทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม  เกษตรกร การบริหารจัดการน้ำ การบริหารจัดการที่ดิน และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่าง เกษตรกรที่ได้รับการแปลงเอกสารสิทธิ สปก.4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ที่จะทำให้เกษตรกรสามารถนำทุนที่ได้มาต่อยอดและพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น สามารถเพิ่มรายได้และความมั่นคงในอาชีพ

“พรรคพลังประชารัฐเราก้าวข้ามความขัดแย้ง จะยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องประชาชนตลอดไป สุดท้ายผมอยากบอกชาวเพชรบูรณ์ว่า การผลักดันอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพให้เป็นมรดกโลกแห่งใหม่ของไทยในรอบ 31 ปี เป็นนโยบายของผมที่ผลักดันให้เป็นมรดกโลกจนประสบความสำเร็จ ได้เป็นมรดกโลกแห่งที่ 7 ของไทย” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวบนเวทีพรรคพลังประชารัฐที่ จ.เพชรบูรณ์ ตอนหนึ่งว่า  วันนี้เรามาบอกข่าวดีให้กับชาวเพชรบูรณ์ จากที่เคยหาเสียงไว้ว่าจะเปลี่ยนที่ดิน สปก.4-01 เป็นโฉนด ในอีก 8 วัน เราจะทําการแจกโฉนดเพื่อการเกษตรให้กับคนไทยทั้งแผ่นดิน ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรเป็นคนสั่งตนว่าต้องทําให้ได้  "ท่านครับ ตอนนี้นัสทําได้แล้วครับนายครับ" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว และว่า จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นเมืองมะขามหวาน ดังนั้นเราจะเปลี่ยนต้นมะขามของท่านให้มีมูลค่า ออกเอกสารต้นไม้ให้คนจังหวัดเพชรบูรณ์ คือโฉนดต้นมะขาม ซึ่งขณะนี้กําลังศึกษาอยู่.