กลับลำส่ง‘ทนายแดง’ พื้นที่เรียกร้อง‘พปชร.’ลุยเลือกซ่อมชุมพร‘สุรชาติ’สู้หลักสี่

“บิ๊กป้อม” เรียก กก.บห.พลังประชารัฐถกด่วน ก่อนกลับลำส่ง "ทนายแดง" ลงเลือกตั้งซ่อม จ.ชุมพร อ้างคนในพื้นที่้้เรียกร้อง ถูกตำหนิตัดโอกาส ปชช. "บิ๊กป้อม" ยังระแวง​ "ลูกหมี" มาพปชร.หรือไม่ เคาะชื่อ “เจ๊หลี” ทวงเก้าอี้ส.ส.หลักสี่ของสามีคืน “พท.” เล็งส่ง “สุรชาติ” สู้หลักสี่ มั่นใจเสียงเดิมเบียดลุ้นชนะ แบะท่าไม่อยากเห็นฝ่ายประชาธิปไตยแข่งกันเอง แต่กลัวโดนครหาฮั้วการเมือง “สงขลา-ชุมพร” สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.วันแรกคึกคัก

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการพิจารณาส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตหลักสี่ แทนนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.เขตหลักสี่ กทม. ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งพ้นสมาชิกภาพ ส.ส.ว่า รอให้มีการประชุมก่อน ซึ่งการพิจารณาตัวบุคคลเป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร. ไม่ใช่เรื่องของนายสิระ

พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงชื่อนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ภรรยานายสิระ ที่มีข่าวจะลงสมัครเลือกตั้งซ่อมแทนว่า ไม่รู้ ยังไม่รู้เลย เพราะเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค อย่าเพิ่งไปถามล่วงหน้า ตนก็ตอบไม่ได้ ซึ่งกรรมการบริหารพรรคจะดำเนินการของเขาเอง ตนจะไปมองได้อย่างไร ยังไม่รู้จักเขาเลย

เมื่อถามถึงกรณีนายชวลิต อาจหาญ หรือทนายแดง ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค จะมีการกลับมติไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม จ.ชุมพร เขต 1 หรือไม่ หัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่า ก็จบไปแล้ว ชุมพรไม่มีการกลับมติ เพราะเขาลาออกไปแล้ว ก็ถือว่าจบ

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขตหลักสี่ ว่า พท.ได้มีการพูดคุยกัน เบื้องต้นจะมีการนัดหมายเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ที่ทำการพรรค พท. ส่วนจะมีการส่งผู้สมัครหรือไม่ ขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุม ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคที่จะเป็นคนตัดสิน

“หากดูเงื่อนไขหรือเหตุผลที่จะนำไปสู่การพิจารณาว่าจะส่งผู้สมัครหรือไม่ เรามีข้อพิจารณาพอสมควร เพราะเขตหลักสี่เป็นพื้นที่เดิมของพรรค เราแพ้การเลือกตั้งในปี 62 แต่แพ้อันดับหนึ่งแค่ไม่กี่คะแนน โดยได้กว่า 32,000 คะแนน ถือว่าเป็นคะแนนที่ดีมากสำหรับการเลือกตั้งใน กทม. หากตรวจสอบดูจะพบว่าใน กทม. พรรค พท.ส่งผู้สมัคร 20 เขต ได้กว่า 32,000 คะแนน เป็นอันดับ 3 ของผู้ที่ได้รับเลือกตั้งใน กทม. นั่นคือฐานคะแนนเดิมที่มีอยู่ นอกจากนี้ นายสุรชาติ เทียนทอง อดีตผู้สมัคร ส.ส. ก็ทำหน้าที่ผู้แทนของประชาชนอยู่ในเขตเลือกตั้งตลอดเวลา เป็นภาพอย่างหนึ่งที่นำเข้าสู่กระบวนการตัดสิน หากพรรค พท.ไม่ส่งเลือกตั้ง ก็จะตอบคำถามประชาชนไม่ได้ และพรรคก็จะสูญเสียโอกาส” นพ.ชลน่านกล่าว

ชิงเก้าอี้ ส.ส.หลักสี่คึกคัก

ถามว่านายสุรชาติจะสู้นางสรัลรัศมิ์ หรือ "เจ๊หลี" ภรรยาของนายสิระได้หรือไม่ หัวหน้าพรรค พท.กล่าวว่า เรามั่นใจ โดยเฉพาะเรื่องการทำหน้าที่ ความพร้อม และจิตวิญญาณความเป็นผู้แทนฯ ซึ่งเขาพิสูจน์ว่า 17 ปีในการใช้ชีวิตอยู่กับการเป็นผู้แทนฯ ซึ่งจากการแสดงออกเขามีความมุ่งมั่นและตั้งใจมาก ดังนั้นเรื่องความพร้อมและคุณสมบัติเราไม่ห่วง แต่ไม่ได้บอกว่าเราเหนือกว่าคนอื่น แต่เรามั่นใจว่าสิ่งที่เรานำเสนอประชาชนน่าจะเป็นคุณสมบัติที่พรรค พท. เลือกสิ่งที่ดีที่สุด

“มั่นใจน่าจะชิงเก้าอี้คืนกลับมาได้ แม้จะมีคู่แข่ง ซึ่งพรรคที่เกี่ยวข้องน่าจะส่งทั้งหมด สายประชาธิปไตยอย่างน้อย 2 พรรค ความจริงแล้วการเลือกตั้งซ่อม เราคิดกันว่าจะใช้ยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งมาเป็นข้อตัดสินหรือไม่ในการส่งผู้สมัคร ซึ่งขึ้นอยู่วิธีคิดของแต่ละพรรคการเมือง เราไม่สามารถไปโน้มน้าวชักจูงหรือทำให้เกิดกระบวนการนี้ได้ หากสามารถมารวมกันได้ก็เป็นยุทธศาสตร์การเลือกตั้งเพื่อชนะในพื้นที่นั้นๆ แต่ประชาชนต้องยอมรับได้ เช่น ฝ่ายประชาธิปไตยแข่งกับอีกฝ่ายหนึ่ง โดยมีการคิดร่วมกัน สู้ร่วมกัน ก็จะมีโอกาสชนะสูงมาก มั่นใจว่าฝ่ายประชาธิปไตยชนะแน่ในเขตนี้ แต่จะเป็นพรรคไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนเงื่อนไขที่จะมารวมกันนั้นจะต้องหลีกหนีคำว่าฮั้วการเมืองให้ได้ อย่างไรก็ดี ครั้งนี้ไม่ใช่แต่ได้ ส.ส.จากการเลือกตั้งซ่อมเพียงอย่างเดียว แต่ยังวัดในอีกหลายเรื่องทั้งเรื่องความนิยมของพรรคการเมืองในพื้นที่กทม. และวัดอนาคตคนที่จะมาเป็นผู้ว่าฯกทม.” หัวหน้าพรรค พท.กล่าว

ถามว่าได้คุยกับพรรคก้าวไกลเรื่องไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ยังไม่ได้คุย เราไม่อยากไปล่วงละเมิดสิทธิของแต่ละพรรค ส่วนจะมีกลไกในการพูดคุยกันหรือไม่นั้น ต้องดูทิศทางและท่าทีต่างๆ ที่จะแสดงออกมาก่อน

ด้านนายสุรชาติ ยืนยันพร้อมลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ หลังจากนี้คงต้องรอให้พรรคดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และรอให้มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งซ่อมออกมา ที่ผ่านมาทุ่มเททำงานให้กับประชาชนทุกวัน ไม่ว่าจะช่วงวิกฤตหรือไม่วิกฤต ทุกวันของชีวิตอยู่กับประชาชนมาโดยตลอด เมื่อไหร่มีการเลือกตั้งจึงพร้อมเสมอ เพราะทุ่มเทอยู่ทุกวัน

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. กล่าวว่า พรรคยังไม่ได้มีการหารือเกี่ยวกับการส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงเลือกตั้งซ่อมดังกล่าว แต่ยืนยันเรามีบุคคลที่มีศักยภาพ มีความรู้และความสามารถ ขณะเดียวกันเจ้าของเขตเดิมคือ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ก็ได้ทำพื้นที่อยู่ตลอด ดังนั้นในเร็วๆ นี้ทางหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคจะมีการพูดคุยเรื่องนี้กัน

พปชร.กลับลำส่งทนายแดง

วันเดียวกัน ที่ศาลาอเนกประสงค์อำเภอสะเดา จ.สงขลา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดสงขลา ได้เปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 สงขลา วันแรก มีผู้สมัครเดินทางมายื่นใบสมัคร 4 คน ก่อนเวลา 08.00 น. จึงต้องมีการจับหมายเลข ปรากฏว่าผู้ที่ได้หมายเลข 1 คือ นางสาวสุภาพร กำเนิดผล พรรคประชาธิปัตย์, หมายเลข 2 นายธิวัชร์ ดำแก้ว พรรคก้าวไกล, หมายเลข 3 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ พรรคพลังประชารัฐ และหมายเลข 4 นายพงศธร สุวรรณรักษา พรรคกล้า โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักจากบรรดาผู้สนับสนุนและกองเชียร์ของผู้สมัครแต่ละคน

นางพะเยีย ศิริโชติ ผอ.สำนักงาน กกต.จังหวัดสงขลา กล่าวว่า กกต.จังหวัดตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ร้อยละ 75 บัตรเสียไม่เกินร้อยละ 3 จากผู้มีสิทธิ 129,000 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 215 หน่วย

ทั้งนี้ นายพงศธร ผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคกล้า วันนี้มีนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วย พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ประธานกรรมการยุทธศาสตร์ภาคใต้ มาให้กำลังใจ ยืนยันแม้พรรคกล้าจะเป็นพรรคใหม่ แต่เชื่อว่าระยะเวลาที่ผ่านมาประชาชนมีมุมมองการเมืองเปลี่ยนไป คนที่ยังไม่ตัดสินใจมีจำนวนมากถึงร้อยละ 60-70 เชื่อว่าคนกลุ่มนี้มองหานักการเมืองรุ่นใหม่ นักการเมืองที่จะมาสร้างความเปลี่ยนแปลง

ส่วนนายอนุกูล ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พร้อมเกิน 100% ทั้งทีมงาน รูปแบบการจัดการ รวมถึงกลยุทธ์ และยุทธศาสตร์ต่างๆ วางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนจุดขายในการหาเสียงครั้งนี้ คือจะนำเสนอความเป็นคนรุ่นใหม่ของตน เป็นคนพื้นที่ตั้งแต่กำเนิด จะช่วยมาพัฒนาบ้านเมืองให้ประชาชน

อย่างไรก็ตาม บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีการพาดพิงว่านายอนุกูลเป็นทายาทเจ้าของบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ว่า ขอเรียนชี้แจงนายอนุกูลไม่ได้มีตำแหน่งเป็นกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน หรือเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทแต่อย่างใด

ที่หอประชุมโรงเรียนเทศบาล 1 (ท่าตะเภา) อ.เมืองฯ จ.ชุมพร กกต.จังหวัดชุมพร เปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 แทนนายชุมพล จุลใส หรือลูกหมี แกนนำ กปปส. ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพความเป็น ส.ส. บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีนายอิสรพงษ์ หรือตาร์ท มากอำไพ อายุ 30 ปี ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นหลานภรรยาของนายชุมพล เดินทางมาสมัครคนแรก ตามด้วยนายวรพล อนันตศักดิ์ อายุ 25 ปี ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล ร.ต.ท.สมชาย เพ็งยงยุทธ ผู้สมัครจากพรรคไทยศรีวิไลย์ โดยนายอิสรพงษ์ ได้หมายเลข 1, ร.ต.ท.สมชาย ได้หมายเลข 2 และนายวรพล ได้หมายเลข 3

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันแรกมีผู้มาสมัครเพียง 3 พรรคเท่านั้น ส่วนพรรคกล้าที่ประกาศเปิดตัวไว้แล้วนั้น คาดว่าจะมาสมัครในวันสุดท้ายคือวันที่ 27 ธ.ค.64

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ช่วงค่ำเวลา 18.00 น. พล.อ.ประวิตรได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคด่วน เพื่อขอทบทวนมติการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง จ.ชุมพร เขต 1 รวมถึงพิจารณาส่งผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 9 ลงเลือกตั้งแทนนายสิระ

มีรายงานว่า พรรค พปชร.กลับลำส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 ชุมพร โดยให้นายชวลิต หรือทนายแดง ลงเลือกตั้งซ่อม ส่วนเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 (หลักสี่-จตุจักร) กทม. จะส่งนางสรัลรัศมิ์ ภรรยาของนายสิระลงเลือกตั้ง

ต่อมา น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. ในฐานะโฆษกพรรค พปชร. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร. ได้ทบทวนมติการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อม ใน จ.ชุมพร จากนั้นที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ เคาะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อมใน จ.ชุมพร โดยให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการพรรค เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งซ่อม จ.ชุมพร โดยจะแถลงข่าวอีกครั้งในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 เวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในที่ประชุม กก.บห.พรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ช่วงเย็นวันเดียวกัน​ว่า กก.บห.มากันเกือบครบ​ โดย พล.อ.ประวิตรได้กล่าวเปิดประชุมว่า ที่เรียกมาวันนี้อยากจะขอทบทวนมติการส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม​ ส.ส.เขต 1​ จ.ชุมพร​ เพราะมีข้อมูลใหม่ที่ได้รับฟังมา จึงอยากขอความเห็นจากที่ประชุม​ หากใครเห็นด้วยให้ยกมือ​ หรือมีความเห็นอย่างไรให้พูดมา

โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตรระบุถึงสาเหตุที่ตัดสินใจจะส่งนายชวลิต​ อาจหาญ​ หรือทนายแดง​ เนื่องจากเห็นว่ากระแสของพรรคในพื้นที่ยังดี​ และมีเสียงเรียกร้องรวมถึงตำหนิจากประชาชนและสมาชิกพรรคในพื้นที่ที่พรรคไม่ยอมส่ง​ เป็นการตัดโอกาสประชาชนในการที่จะเลือกผู้สมัคร​ นอกจากนี้​ พล.อ.ประวิตรยังกล่าวชี้แจงถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ที่จะไม่ส่ง ​ เนื่องจากคุยกับนายชุมพล​ จุลใส​ อดีตส.ส.ชุมพร ที่จะยกทีมงานทั้ง 3 เขตในสมัยหน้า​ว่า​ เท่าที่พิจารณา นายชุมพลมีความใกล้ชิดกับนายสุเทพ​ เทือกสุบรรณ​ เป็นสาย กปปส.​ แต่ตนไม่มีอะไรกับนายสุเทพ​ และในทางการเมืองก็ยังไม่แน่ใจในอนาคตจะมาร่วมงานกับ พปชร.จริงหรือไม่​ จึงตัดสินใจทบทวนที่จะส่งผู้สมัคร ส.ส.

ขณะที่การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.​ พล.อ.ประวิตรระบุว่า​ ยังไม่มีการสรุปในวันนี้ว่าจะเป็นชื่อใคร​ จะรอให้มีการประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 ก่อน

ทั้งนี้​ มีรายงานว่า​ ​พรรคอาจจะเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม กทม.ในการประชุมพรรคครั้งหน้า​ เบื้องต้นขณะนี้ยังเป็นชื่อของนางสรัลรัศมิ์​ เจนจาคะ​ ภรรยาของนายสิระ​ เจนจาคะ​ อดีต ส.ส.กทม..