‘หมอส.’สร้างสตอรี่ ตุลย์แฉเหตุนักโทษเทวดาป่วย/กมธ.ตร.ลุยรพ.ตำรวจเหลว

เอวัง! "ปธ.กมธ.ตำรวจ" บุกชั้น 14 รพ.ตร. แค่หน้าฟลอร์ เจอ จนท. 8   นายคุมเข้ม ไม่เห็นแม้เงา "น.ช.ทักษิณ"   อ้าง พ.ร.บ.ส่วนบุคคลผู้ป่วยไม่อนุญาตเยี่ยม ชี้ "ราชทัณฑ์" ต้องแจงข้อสงสัยหากไม่อยากตกเป็นจำเลยสังคม "คปท." ปักหลักทำเนียบฯ 3 วัน จี้รัฐบาลส่งตัว "แม้ว" กลับเรือนจำ "พิชิต" ลั่นล่า 2 หมื่นชื่อยื่น  ปธ.ศาลฎีกา สอบหน่วยที่เกี่ยวข้อง "หมอตุลย์" แฉหมอ "ส." ผ่าตัดหัวไหล่ สร้างสตอรีให้นักโทษเทวดานอน รพ.ต่อ

ที่โรงพยาบาลตำรวจ วันที่ 12 ม.ค.  เวลา 10.00 น. นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร  พร้อมคณะ กมธ.การตำรวจ เดินทางมาถึงบริเวณหน้าอาคารศรียานนท์ กองอำนวยการโรงพยาบาลตำรวจ กทม. เพื่อเข้าศึกษาดูงานการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมผู้ต้องขังป่วยที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ บริเวณชั้น 6  ตามที่มีการนัดหมาย

นายชัยชนะกล่าวก่อนเข้าศึกษาดูงาน รพ.ตำรวจว่า กมธ.การตำรวจมาตามกรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ที่ให้คณะกรรมาธิการฯ สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่สังคมสงสัยอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะผู้ดูแลโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อดูขั้นตอนเกี่ยวกับกระบวนการในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่ถูกส่งมารักษาตัว มีวิธี รูปแบบ ขั้นตอนอย่างไร และมีการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันทุกคนหรือไม่ นี่เป็นเรื่องแรกที่เราจะมาดูเพื่อตอบสังคม รวมทั้งยังมาเพื่อสอบถามบุคคลที่ประชาชนให้ความสนใจ คือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้ต้องขังและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้รับการปฏิบัติและรักษาตัวชั้นไหน อย่างไร

"เรามาตามกรอบกฎหมาย โรงพยาบาลให้เราแค่ไหนเราก็ทำเท่านั้น   ส่วนเรื่องที่สังคมสงสัย ถ้าได้ข้อมูลครบ และสามารถชี้แจงต่อสังคมจนสังคมคลายความสงสัย ทุกอย่างก็จบ แต่ส่วนไหนที่ กมธ.ได้ข้อมูลมาไม่ครบ ก็เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลตำรวจและกรมราชทัณฑ์ ต้องชี้แจงกับสังคมเอาเอง" นายชัยชนะกล่าว

จากนั้น นายชัยชนะและคณะ กมธ.การตำรวจเข้าศึกษาดูงานการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมผู้ต้องขังป่วยที่รักษาตัว บริเวณชั้น 6 ใช้เวลากว่า 2 ชม.

ต่อมา พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ นายแพทย์ สบ 7 ได้พานายชัยชนะพร้อมคณะ ไปตรวจสอบที่ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ที่นายทักษิณรักษาตัวอยู่ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

นายชัยชนะให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้มีผู้ต้องขังมารักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ ที่ค้างคืนมีแค่คนเดียวคือนายทักษิณ ที่เหลือเป็นผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังมารักษาเช้าเย็นกลับ ได้มีการหารือตามกรอบระเบียบทาง รพ.ตำรวจ อนุญาตให้เราขึ้นไปที่ชั้น 14   พบว่ามีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน และตำรวจสันติบาล รวม 8 นาย เป็นตำรวจท้องที่ 3 นาย สันติบาล 3 นาย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 นาย มีการรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยการถ่ายภาพส่งทางไลน์ทุก 2 ชั่วโมง

"ห้องผู้ต้องขังไม่ได้ล็อก ผู้คุมสามารถเดินเข้าได้ทุกเวลา หลังจากเราเห็น เจ้าหน้าที่ได้ลงมาชั้น 7 เพื่อมาดูขั้นตอนการปฏิบัติกับผู้ต้องขังที่เป็นผู้ป่วยมารักษาโรค จำนวน 2 ราย โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มาควบคุม เห็นได้อย่างหนึ่งว่าผู้ต้องขังที่มารักษาตัวมีความเท่าเทียมกัน  แต่ในส่วนชั้น 14 พบเจ้าหน้าที่จริง แต่ที่จะถามว่าพบนายทักษิณหรือไม่ เป็นพ.ร.บ.ส่วนบุคคล" นายชัยชนะกล่าว

กมธ.บุกชั้น 14 แค่หน้าฟลอร์

ประธาน กมธ.การตำรวจกล่าวว่า การมาวันนี้เพื่อให้สังคมหายข้อสงสัย สิ่งที่เราทำได้เต็มที่ตามกรอบกฎหมายคือพบเจ้าหน้าที่ ส่วนนายทักษิณจะรักษาตัวอยู่ที่นี่หรือไม่ เป็นหน้าที่ราชทัณฑ์เป็นคนให้คำตอบ เพรากรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่าเป็น พ.ร.บ.ส่วนบุคคลที่เขามีสิทธิ์ให้ใครเยี่ยม หรือห้ามเยี่ยม เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่วันนี้เราไม่ได้มาขอเยี่ยมใครคนใดคนหนึ่ง  ที่มาวันนี้มาดูว่าการปฏิบัติกับผู้ต้องขังเท่าเทียมกันหรือไม่ เช่นเดียวกันกับวิธีการรักษาบอกไม่ได้มีกฎหมายควบคุมอยู่

ถามว่านายทักษิณจะรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจนานแค่ไหน ประธาน กมธ.การตำรวจกล่าวว่า การจะรักษาตัวนานเท่าไหร่ไม่ก้าวล่วง เป็นหน้าที่ของแพทย์  ตนมาหาข้อเท็จจริง หลังจากนี้ต้องกลับไปถามกรมราชทัณฑ์ อธิบดีที่เราขอไปผู้คุมคนไหนที่เข้าเวรที่นี่ สับเปลี่ยนเวร ลงชื่ออย่างไร ค่ารักษาพยาบาลที่แจ้งว่าใช้สิทธิ์ สปสช. ถ้าเกินสิทธิ์ใช้เงินส่วนตัวได้ใช้ระเบียบข้อไหน และขั้นตอนการรับตัวผู้ต้องหาเข้าเรือนจำมีวิธีการขั้นตอนอย่างไร มีการกรอกประวัติจริงหรือไม่ ตอบได้ก็ตอบมา

"ต้องขอบคุณ รพ.ตำรวจ ที่กรุณาให้เราขึ้นไปดูถึงชั้น 14 ถึงหน้าฟลอร์ได้ ส่วนนายทักษิณจะอยู่ที่ชั้น 14 หรือไม่ ต้องไปถามกรมราชทัณฑ์ ผมตอบไม่ได้ ผมไม่เห็น เห็นแต่เจ้าหน้าที่ แต่ทาง รพ.ตำรวจ ชี้แจงมาอย่างหนึ่งว่า มนุษย์เราเมื่อเข้าวัย 70 กว่าปี ป่วยได้ตลอดเวลา ผมไม่ข้องใจ รพ.ตำรวจแล้ว แต่ข้องใจที่ราชทัณฑ์ที่ขอเอกสารไปต้องได้รับ มาวันนี้ไม่ผิดหวัง ได้ขึ้นไปชั้น 14 เพราะกรอบอำนาจหน้าที่ความตั้งใจมาทำงานเรามาเจอนักโทษ 2 คนมารักษาตัว ได้ขึ้นชั้น 14 ได้เห็นมาตรการป้องกัน ถือว่าเป็นไปตามแผน"  ประธาน กมธ.การตำรวจกล่าว

นายชัยชนะกล่าวว่า การที่นายทักษิณไม่อนุญาตให้เยี่ยมก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่ถ้ากรมราชทัณฑ์ไม่ต้องการเป็นจำเลยสังคมต้องชี้แจงให้สังคมเข้าใจ ถ้าเมื่อไหร่ชี้แจงไม่เข้าใจ จำเลยของสังคมคือกรมราชทัณฑ์ นายทักษิณจะอยู่ชั้น 14 หรือไม่ เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ หน้าที่ตนมาดูกระบวนการขั้นตอนแล้ว เห็นว่ามีการควบคุมแล้ว

ถามถึงเรื่องกล้องวงจรปิดอาคาร รพ.ตำรวจที่นายทักษิณรักษาตัวเสีย นายชัยชนะกล่าวว่า ขอฝากข้อความไปถึงนายกรัฐมนตรีว่า ขอให้ใช้งบประมาณจำนวน 2  ล้านบาทที่นำไปท่องเที่ยวต่างประเทศมาซ่อมแซมกล้องวงจรปิดให้ใช้งานได้ นอกจากภายในอาคารแล้ว บริเวณรอบข้างก็พบว่าก็วงจรปิดเสียด้วยเช่นกัน และเสียมาหลายปีแล้ว

ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.45 น. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่ง ประกอบพิธี จุดธูป นำเครื่องบวงสรวง อาทิ กับข้าว ผลไม้ ไข่ต้ม ไก่ต้ม ปลาทูนึ่ง น้ำดื่ม และสุรา ถวายอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรฯ เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนเริ่มชุมนุมค้างคืนเรียกร้องให้ส่งตัวนายทักษิณกลับเข้าเรือนจำ ในช่วงเวลา 15.00 น.

นายพิชิตกล่าวว่า หัวใจหลักของการชุมนุมวันนี้ จะส่งเสียงไปยังรัฐบาล กรณีนายทักษิณพักรักษาตัวนอกเรือนจำเกิน 120 วัน และยังให้พักรักษาตัวต่อ โดยใช้คำว่าเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ทางกลุ่มตั้งคำถามมาโดยตลอดว่านายทักษิณป่วยเป็นโรคอะไร ถึงขั้นวิกฤตหรือไม่ มีความจำเป็นหรือไม่ในการรักษาตัวนอกเรือนจำ ซึ่งที่ผ่านมาทางกลุ่มมีความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด

"ไฮไลต์วันนี้คือ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี ซึ่งรู้จักและได้พูดคุยกับแพทย์ที่รักษานายทักษิณ จะมาปราศรัยเปิดหลักฐาน หลังมีการสืบสวนทางการแพทย์เกี่ยวกับการรักษานายทักษิณเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ในเวทีจะหยิบยกเรื่องการออกระเบียบราชทัณฑ์ให้คุมขังนอกเรือนจำ ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการออกระเบียบมาเพื่อให้นายทักษิณเข้าเกณฑ์เป็นกลุ่มแรกๆ หรือไม่" นายพิชิตกล่าว

ถามถึงความกังวลในการปักหลักค้างคืน แกนนำ คปท.กล่าวว่า ไม่กังวล แม้ว่าจะยังไม่รู้ปริมาณมวลชน แต่ได้มีการประสานกับตำรวจในพื้นที่แล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลความปลอดภัย โดยปริมาณคนที่จะมาร่วมชุมนุม ได้รับการตอบรับจากประชาชนจำนวนมากในต่างจังหวัด คาดว่าจะมีหลักร้อย ซึ่งจะมาตามเป้าหรือไม่ ก็ไม่กระทบกับความตั้งใจที่จะปักหลักค้างคืน

"ซึ่งตลอด 3 วัน เชื่อว่าจะมีแนวร่วมมาร่วมกิจกรรม ซึ่งที่ตอบรับมาแล้ว เช่น นายวัชระ เพชรทอง ซึ่งเป็นผู้ร้องให้คณะกรรมมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ ตรวจสอบเรื่องนายทักษิณ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน" แกนนำ คปท.กล่าว

หมอ‘ส.’ผ่าตัดไหล่สร้างสตอรี

ถามถึงความกังวลการชุมนุมจะกระทบต่อการจัดงานวันเด็ก นายพิชิตกล่าวว่า ในวันที่ 13 ม.ค. ที่มีความกังวลการจัดงานวันเด็กของทำเนียบรัฐบาล ได้มีการพูดคุยไปแล้วว่าจะมีการใช้เครื่องเสียงในช่วงเย็น ไม่ให้กระทบกับกิจกรรมวันเด็กของทำเนียบฯ ซึ่งทางกลุ่มก็มีกิจกรรมแจกไอศกรีมให้กับเด็กๆ

ต่อมาเวลา 16.00 น. นายพิชิตพร้อมด้วย นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี ร่วมกันแถลงเรียกร้องให้รัฐบาลและกรมราชทัณฑ์ดำเนินการส่งตัวนายทักษิณกลับเข้าเรือนจำ หลังจากรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจเป็นเวลา 141 วันแล้ว

นายพิชิตกล่าวว่า การรวมตัวเพื่อแสดงพลังให้ประชาชนร่วมแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยที่กรมราชทัณฑ์ขยายเวลาให้นายทักษิณรักษาตัวนอกเรือนจำเกินกว่า 120 วัน และเราจะรวบรวมรายชื่อประชาชนให้ได้ 20,000 รายชื่อ เพื่อยื่นประธานศาลฎีกาเพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่ช่วยนายทักษิณ

แกนนำ คปท.กล่าวว่า ในวันที่ 16 ม.ค.นี้ คปท.จะไปพบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ได้ยื่นคำร้องไว้ว่า ให้สอบข้าราชการ ตั้งแต่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม รมว.ยุติธรรมที่ทำปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยไม่เชื่อว่าอาการของนายทักษิณป่วยขั้นวิกฤต

ส่วน นพ.ตุลย์กล่าวว่า จากการที่ตนได้ตรวจสอบข้อมูล พบว่ากฎกระทรวงและระเบียบกรมราชทัณฑ์ที่กำหนดว่า หากนักโทษที่ป่วยเป็นโรคจิตหรือโรคติดต่อ จึงจะได้รับอนุญาตรักษาตัวนอกโรงพยาบาลได้ แต่วันที่นายทักษิณกลับมาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2566 ทุกคนเห็นอาการปกติ แต่หลังจากนายทักษิณเข้าเรือนจำ กลับมีอาการหนัก เป็นการสร้างสตอรีช่วยนักโทษ ด้วยการช่วยเหลือจากแพทย์บางคนหรือไม่ ทางการแพทย์เรียกว่า “ผิดวิชาชีพเวชกรรม’ และการส่งนายทักษิณตรงไปห้องพิเศษ ก็มองว่าผิดหลักการแพทย์ และผิดหลักกฎหมายโดยสิ้นเชิง

"ตามหลักนั้นต้องถูกส่งไปตรวจที่ห้องฉุกเฉินก่อน และหากอาการไม่หนักก็จะต้องถูกส่งตัวกลับไปที่เรือนจำ และหากจะรักษาตัวต่อ ต้องอยู่ในไอซียู ไม่ใช่ห้องพิเศษ โดยหลังจากนี้เราจะยื่นฟ้องในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และจะมีการยื่นร้องต่อแพทยสภาต่อไป" แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสีกล่าว

นพ.ตุลย์กล่าวว่า การที่นายทักษิณอยู่หรือไม่อยู่ในโรงพยาบาล ไม่ได้เป็นความลับ เพราะเป็นการตรวจสอบตามกฎหมาย และตนทราบว่าแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจหลายคนไม่สบายใจที่มีการช่วยกันสร้างสตอรีที่โรงพยาบาลนี้ โดยวันนี้ตนมาในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จึงมองว่าการแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจกำลังทำลายระบบทางการแพทย์ด้วย

 “นายแพทย์ชื่อย่อ ส. ที่ส่องกล้องผ่าตัดที่หัวไหล่ ช่วยเหลือนายทักษิณสร้างเรื่องเท็จว่ามีอาการหนักเกินจริง เพื่อให้อยู่โรงพยาบาลตำรวจโดยไม่ต้องอยู่ในคุก ดังนั้นเพื่อคืนความยุติธรรม ทางกลุ่มจึงเรียกร้องให้ส่งตัวนายทักษิณกลับไปรับโทษในคุกทันที” นพ.ตุลย์กล่าว

ถามว่า นายทักษิณถูกระบุว่ามีภาวะโรคลิ้นหัวใจรั่ว จะถือเป็นความเสี่ยงขั้นวิกฤตหรือไม่ นพ.ตุลย์กล่าวว่า ยังไม่เคยได้ยินเรื่องนายทักษิณเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว

ซักว่ากรมราชทัณฑ์เปิดเผยอาการของนายทักษิณว่าป่วย จะมีความเสี่ยงถึงขั้นป่วยเป็นภาวะโรคลิ้นหัวใจรั่วหรือไม่ นพ.ตุลย์กล่าวว่า ที่จริงแล้วจะต้องป่วยเป็นความดันโลหิตสูงมากๆ และป่วยเป็นระยะเวลานาน จนถึงขั้นหัวใจโตไปปิดลิ้นหัวใจ และกรณีหากโรคเดิมร้ายแรงมาก แล้วมีโรคใหม่แทรกซ้อนมา หากไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แพทย์จะไม่ผ่าตัด

"กรณีนายทักษิณนั้น พบว่าได้รับการผ่าตัดหัวไหล่ ซึ่งทำให้เป็นหลักฐานว่าอาการป่วยของนายทักษิณไม่ได้สาหัสจริง และแสดงให้เห็นว่าเป็นความร่วมมือของแพทย์และกรมราชทัณฑ์ที่จะช่วยเหลือนายทักษิณ" นพ.ตุลย์กล่าว

โวย คปท.ทำลายความสุขเด็ก

วันเดียวกัน นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) กล่าวตำหนิ คปท.ที่ประกาศจะจัดชุมนุมค้างคืนหน้าทำเนียบรัฐบาลในช่วงวันที่ 12-14 ม.ค.ว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสม ไร้จิตสำนึกรับผิดชอบต่อระบอบประชาธิปไตย ที่ควรปลูกฝังให้เด็กและเยาวชน ถือได้ว่าไม่รู้จักกาลเทศะ เพราะใครๆ เขาก็รู้ว่าวันเด็กแห่งชาติ ครูบาอาจารย์ ผู้ปกครอง เด็กและเยาวชน ต่างต้องการมาร่วมกิจกรรมกันที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเพาะบ่มการปกครองระบอบประชาธิปไตยให้เด็กในวันนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่นักประชาธิปไตยในวันหน้า การได้ดูที่ทำงานรัฐบาล ดูที่ทำงานนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดูตึกไทยคู่ฟ้า ดูศิลปกรรมของชาติ ไปซึมซับและเรียนรู้ประชาธิปไตย

"การกระทำของเครือข่าย คปท. ทำให้คนที่รักประชาธิปไตยยอมไม่ได้ คปท.มักอ้างประชาธิปไตย แต่จะชุมนุมและค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาลในวันเด็กแห่งชาติ ไม่ทราบว่าเอาสมองส่วนไหนคิด อย่างนี้เลิกอ้างประชาธิปไตยหลอกเด็กได้แล้ว อย่าปากอย่างใจอย่าง มือถือสากปากถือศีล เพราะพวกคุณมองเห็นแต่ผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองที่ได้โจมตีรัฐบาลเท่านั้น" นายพายัพกล่าว

ที่ปรึกษารองนายกฯ กล่าวว่า คปท.ควรเลิกอ้างกรณีอดีตนายทักษิณเพื่อใช้เป็นเงื่อนไขในการเคลื่อนไหวได้แล้ว เพราะวันนี้กระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ ออกมายืนยันต่อสาธารณะแล้ว ว่าอดีตนายกฯ ทักษิณยังมีอาการป่วยอยู่ จำเป็นต้องรักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ อีกทั้งทุกอย่างยังตรวจสอบได้ การทำลายความสุขของเด็กๆ ที่มีเพียงวันเดียวในแต่ละปีนั้น จิตใจพวกคุณทำด้วยอะไร

ส่วนนายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มคนเสื้อแดงจากหลายจังหวัดนับพันคนเตรียมรวมตัวกันเพื่อให้กำลังใจนายทักษิณที่พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ ในวันที่ 12 ม.ค. เพราะยังมีความรักให้แก่นายทักษิณที่ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศมาโดยตลอด ต่วันนี้มี คปท.ที่ถือเป็นฝ่ายตรงข้ามนายกฯ ทักษิณ เคลื่อนขบวนชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตรงกับวันเด็ก ถือเป็นการขัดขวางความสุขของเด็กๆ ที่จะได้มาที่ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เงื่อนไขของนายกฯ ทักษิณมาเป็นตัวขับเคลื่อน ทำให้เป็นที่น่าสงสัยว่าการขับเคลื่อนของคนกลุ่มเดิมๆ นี้ มีใครชักใยอยู่เบื้องหลัง เพื่อต้องการนำไปสู่เหตุการณ์สร้างความขัดแย้งแบบเดิมๆ หรือไม่

                    "พี่น้องคนเสื้อแดงที่นัดรวมตัวกันวันนี้จึงของดจัดกิจกรรม เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีใครนำสถานการณ์ไปสู่ความขัดแย้งให้ประเทศกลับไปสู่วังวนเดิม คนเสื้อแดงที่มีจุดยืนประชาธิปไตยและรักนายกฯ ทักษิณ แม้ไม่ได้จัดกิจกรรมวันนี้ แต่ขอส่งกำลังใจไปให้นายกฯ ทักษิณ ให้ผ่านพ้นสถานการณ์ที่ประสบอยู่ไปให้ได้" นายวรชัยกล่าว

                    มีรายงานจาก สน.ลุมพินีแจ้งว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนจะมีกิจกรรมเพื่อให้กำลังใจนายทักษิณ บริเวณโรงพยาบาลตำรวจ แต่ได้แจ้งยกเลิกการจัดกิจกรรมดังกล่าวแล้ว

                    นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ปีนี้น่าจะเป็นปีชง ของท่านทวี สอดส่อง เลยขอแนะวิธีแก้ชง แก่ท่านรัฐมนตรีคือ เมื่อท่านได้รับรายงานจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เรื่องคุณทักษิณอยู่ รพ.เกิน 120 วันขึ้นมา 1.ท่านควรไม่บอกเพียงแค่ว่า "ทราบ" และ เชื่อมั่นว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่เสนอรายงาน 2. ท่านควรเรียกอธิบดีและนายแพทย์ใหญ่มาพบ พร้อมมีนายแพทย์ที่ท่านและสังคมวางใจ ร่วมการสนทนาถึงอาการเจ็บป่วย ว่าอยู่ในระดับที่ต้องรักษาตัวนานขนาดนี้หรือไม่ หากเห็นว่าไม่วิกฤต ก็ส่งตัวกลับรักษาในเรือนจำ

3.หากสรุปว่าคนไข้ถึงขั้นวิกฤต ท่านควรให้องค์กรวิชาชีพด้านแพทย์ เช่น แพทยสภา ช่วยตั้งคณะทำงานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อลงความเห็นเกี่ยวกับคนไข้ว่าสมควรรักษาอย่างไร เพื่อให้พ้นวิกฤตและเป็นการช่วยรักษาชีวิตคุณทักษิณ และ 4.หากคุยในหัวข้อที่สอง แล้วพบว่า คุณทักษิณไม่ได้เจ็บป่วยถึงขั้นที่ต้องอยู่ รพ.ยาวนานแต่แรก ท่านควรจะสั่งลงโทษอธิบดีราชทัณฑ์ และทำรายงานถึงแพทยสภา เกี่ยวกับจรรยาบรรณวิชาชีพของแพทย์ที่ให้ความเห็นไม่ถูกต้อง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง