ชงป.ป.ช.ฟันซ้ำ‘เสี่ยโอ๋’ ก.ก.แหยง!ไม่ขยี้ยุบภท.

"ก้าวไกล" ไม่แตะถึงขั้นยุบ   "พรรคภูมิใจไทย" หลัง "ศักดิ์สยาม" พ้น  รมต.ปมซุกหุ้น ปัดเสียวกังวลพรรคตัวเองโดนยุบปมศาลฯ จ่อวินิจฉัยคดี "ล้มล้างการปกครอง-แก้ ม.112" 31 ม.ค.นี้ อ้างไม่เกี่ยวกัน "ทิดศรี" จ่อยื่น ป.ป.ช.เอาผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง “เสี่ยโอ๋” ฐานปกปิดบัญชีทรัพย์สินใช้อำนาจเอื้อประโยชน์  "หจก.บุรีเจริญฯ"

ที่รัฐสภา วันที่ 18 มกราคม นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 1 ให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี จากการถือหุ้น หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ทางพรรคก้าวไกลจะมีการยื่นร้องสอบจริยธรรมไปจนถึงขั้นยุบพรรคภูมิใจไทย (ภท.) หรือไม่ ว่าในกระบวนการเตรียมการเร่งรัดด้านรายละเอียด ในขณะนั้นพรรคร่วมฝ่ายค้านในรัฐบาลชุดที่แล้วได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย แต่ขณะนี้เรื่องก็ยังค้างอยู่ เราก็คงต้องเร่งรัดให้ป.ป.ช.พิจารณาเรื่องนี้ เพราะเราได้ร่วมลงชื่อในความผิดฐานยื่นทรัพย์สินเป็นเท็จ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องเร่งดำเนินไต่สวน เรียกหลักฐานต่างๆ มาพิจารณาต่อไป

"ส่วนการยื่นสอบจริยธรรมไปจนถึงขั้นยุบพรรคนั้น ยืนยันว่าจุดยืนของพรรคก้าวไกลเราเชื่อว่าไม่มีองค์กรใดที่จะมาตัดสินประหารชีวิตของบุคคลหรือพรรคการเมืองใด การตัดสินประหารชีวิตทางการเมืองใดๆ อำนาจควรเป็นของประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง ที่จะเลือกบุคคลหรือพรรคการเมืองนั้น พรรคการเมืองจะดำรงอยู่หรือไม่ดำรงอยู่หรือไม่ อยู่ที่ประชาชนเป็นคนเลือกเท่านั้น ไม่ใช่องค์กรใดจะมาตัดสิน"

เมื่อถามว่า จะเป็นบรรทัดฐานในการยื่นยุบพรรคหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เรียกว่าเป็นจุดยืนของพรรคเรามากกว่า ตนเข้าใจดีว่าพรรค ก.ก.เคยถูกกระทำแบบนี้มาบ่อยๆ แต่ถ้าเรายืนอยู่ในจุดยืนเดิม เราก็จะไม่เข้าไปสู่ด้านมืด เราไม่จำเป็นจะต้องทำแบบที่คนอื่นทำ ถ้าเรายืนยันยึดมั่นในหลักการ คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญในการทำงานการเมือง

ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ยืนยันว่าแม้เราต้องทำงานตรวจสอบภายใต้หลักการที่ถูกต้อง สำหรับเรื่องการยื่นยุบพรรค ไม่เป็นนโยบายของพรรค ก.ก.เด็ดขาด แต่ก็ย้ำว่าเฉพาะกรณีนี้ยังมีเรื่องต่อเนื่องอีกหลายส่วน นอกจากเรื่องบัญชีทรัพย์สินที่เป็นเท็จ ยังมีเรื่องที่นำบริษัทของตัวเองมาเป็นคู่สัญญากับรัฐ ซึ่งยังเป็นประเด็นต่อเนื่องได้อยู่ ไม่ใช่เป็นประเด็นเรื่องการยุบพรรคอย่างเดียว

เมื่อถามว่า เป็นเพราะพรรค ก.ก.กังวลเรื่องคดียุบพรรคของตัวเอง ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการนัดฟังคำวินิจฉัยในคดีล้มล้างการปกครอง จากการเสนอร่าง  พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งในวันที่ 31 ม.ค.นี้ จึงไม่ยื่นยุบพรรค ภท.หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า  เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกันแน่นอน เพราะคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ไม่ได้เป็นคำร้องเพื่อให้ยุบพรรค ก.ก. แต่เป็นคำร้องเพื่อให้ยุติการกระทำ ดังนั้นในวันที่ 31 ม.ค.จึงไม่มีเรื่องการยุบพรรคเข้ามาเกี่ยวข้อง

เมื่อถามย้ำว่า ยังมั่นใจว่าการตัดสินในวันที่ 31 ม.ค. ไม่ส่งผลถึงการยุบพรรค  หัวหน้าพรรค ก.ก.กล่าวว่า ไม่ส่งผล และคิดว่าพรรค ก.ก.เราต่อสู้คดีมาเต็มที่ ยืนอยู่บนข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ไม่ได้กังวล พร้อมรอฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเองทั้งในวันที่ 24 ม.ค. คดีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  ประธานที่ปรึกษาพรรค ก.ก. และวันที่ 31 ม.ค. หากไม่ติดโหวตวาระสำคัญในการประชุมสภาฯ ก็จะไปร่วมฟังด้วย

ขณะที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 54  คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น  อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่นั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการปกปิดและแจ้งทรัพย์สินในการเข้าดำรงตำแหน่งฯ ต่อ ป.ป.ช.อันเป็นเท็จ กรณีบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ที่การแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของนายศักดิ์สยาม อาจไม่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ส่อเจตนาปกปิดทรัพย์สิน เพราะเป็นเจ้าของที่แท้จริงในทรัพย์สินของเอกชนทั้ง 2 แห่ง และมีพฤติกรรมน่าเชื่อว่าใช้อำนาจหน้าที่ รมว.คมนาคมเอื้อประโยชน์ให้กับห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญตอนสตรัคชั่น เข้าทำสัญญากับกระทรวงคมนาคมหลายโครงการ ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติโดยเสียงข้างมาก (7 ต่อ 1) วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง คือวันที่ 3 มีนาคม 2566 แล้ว

"การกระทำของนายศักดิ์สยามดังกล่าว ซึ่งกระทำในขณะที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงฯ  ตามที่รัฐธรรมนูญ ม.219 บัญญัติไว้ด้วย จึงเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องดำเนินการนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาไต่สวน และยื่นศาลฎีกาให้ลงโทษตามครรลองของกฎหมายต่อไป จึงจะนำความไปแจ้งให้ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยด่วน ในวันศุกร์ที่ 19 ม.ค.67 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานใหญ่ ป.ป.ช.นนทบุรี" นายศรีสุวรรณกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง