โปรดเกล้าฯสุรยุทธ์ รำลึกทหารผ่านศึก

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ๐ ในหลวงโปรดเกล้าฯ ให้ประธานองคมนตรีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื่องในวันทหารผ่านศึก "บิ๊กทิน" กล่าวสดุดีวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของเหล่าทหารกล้า  ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์วางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื่องในวันทหารผ่านศึก 3  กุมภาพันธ์ 2567

โดยในเวลา 08.45 น. นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ในฐานะนายกสภาทหารผ่านศึก เป็นประธานในพิธีเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกดีเด่น ประจำปี  2567 เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่ทหารผ่านศึกที่มีความขยันหมั่นเพียร ในการประกอบอาชีพ

พร้อมได้กล่าวคำสดุดีว่า ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก  ทหารนอกประจำการ ตลอดจนผู้ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยและรักษาความมั่นคงของชาติในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  ประเทศไทยสามารถดำรงความเป็นเอกราช มีความมั่นคงเป็นปึกแผ่น และมีความสงบร่มเย็น เพราะความเสียสละของทหารผ่านศึก ที่ยอมสละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติ ให้เป็นมรดกสืบทอดแก่ลูกหลานไทย

ซึ่งวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของเหล่าทหารกล้า สมควรได้รับการยกย่องและเชิดชูเกียรติสืบไป รัฐบาลได้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของทหารผ่านศึก โดยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการสงเคราะห์เพื่อให้ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำการ  สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี โดยเหมาะสมกับสถานภาพ งบประมาณ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ตลอดจนให้ความสำคัญกับการเชิดชูเกียรติ การเผยแพร่วีรกรรมความเสียสละของทหารผ่านศึก ให้ประชาชนและสังคมได้รับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศ หรือปฏิบัติราชการสนามพื้นที่เสี่ยงอันตรายอยู่ในขณะนี้ พร้อมมุ่งเน้นการส่งเสริมอาชีพแก่ทหารผ่านศึกและครอบครัว ให้มีอาชีพที่มั่นคงและรายได้ที่แน่นอน  สามารถยกระดับฐานะความเป็นอยู่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนตลอดไป  ขอให้ท่านทั้งหลายมีกำลังใจอันเข้มแข็ง ในการประพฤติปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดี มีความขยันหมั่นเพียรในการประกอบอาชีพ มีความสมัครสมานสามัคคี และยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศชาติของเราตลอดไป

โดยการจัดงานเริ่มตั้งแต่เวลา 06.30  น. ทหารผ่านศึกได้จัดขบวนพาเหรด นำโดย พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (ผอ.อผศ.) พร้อมทหารผ่านศึกใน สมรภูมิรบต่างๆ กว่า 1,000 คน เดินมายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีข้าราชการองค์การทหารผ่านศึกให้การต้อนรับบริเวณตลอดสองข้างทาง

สำหรับทหารผ่านศึกที่ได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลประเภททหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้นที่ 1 ที่พิการทุพพลภาพ หรือพิการดีเด่น ประจำปี 2567 ในปีนี้ ได้แก่ อาสาสมัครทหารพราน มานัส สุทธิใส ปัจจุบันประกอบอาชีพทางการเกษตร ทำสวนยางพารา อีกทั้งยังมีกิจการด้านการค้าขาย สำหรับทหารผ่านศึกนอกประจำการดีเด่นระดับภาค ได้แก่ พ.อ.สมบูรณ์ วิจารณ์ปรีชา ทหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้นที่ 3 ภาคเหนือ พลทหาร ภิญโญ คงปัญญา ทหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้นที่ 3 ภาคกลาง พลทหารบุญจันทร์ มัทนัง ทหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้นที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สิบตรีเจริญศักดิ์ ชูสง ทหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้นที่ 3 ภาคใต้

ส่วนทหารผ่านศึกนอกประจำการที่ได้รับรางวัลชมเชยในภาคอื่นๆ สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตในภูมิลำเนา ได้จัดพิธีมอบเกียรติบัตรพร้อมรางวัลในวันนี้เช่นเดียวกัน โดยองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลให้การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก  ครอบครัวทหารผ่านศึก ทหารนอกประจำการ ตลอดจนผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศ ได้จัดขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงและสดุดีวีรกรรมทหารผ่านศึก

ทั้งนี้ พิธีวางพวงมาลาได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 07.45 น. เป็นการวางพวงมาลาของผู้แทนจากส่วนราชการ หน่วยงาน ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สมาคม มูลนิธิ ทหารผ่านศึกนอกประจำการกรณีสงครามต่างๆ  สำหรับการจัดงานวันทหารผ่านศึก ได้กำหนดจัดงานภายใต้ชื่อ “เชิดชูเกียรติทหารกล้า 3 กุมภาพันธ์ วันทหารผ่านศึก” เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมความกล้าหาญของทหารผ่านศึกที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกปักรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติ รวมทั้งเป็นการเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาวไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุทิน'อัดฉีด500,000บาท ฟุตซอลผ่านเข้าชิง 'มิเกล'ขอบคุณ2นายประตู-กองเชียร์

หลังจากที่ ฟุตซอลทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติทาจิกิสถาน ในการดวลจุดโทษ 6-5 หลังเสมอกันในเวลา 3-3 ในการแข่งขัน เอเอฟซี ฟุตซอล เอเชียนคัพ 2024 รอบรองชนะเลิศ ทำให้ ทีมชาติไทย ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เป็นครั้งที่ 3 ของการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย กับทีมชาติอิหร่าน ที่ชนะอุซเบกิสถานในการดวลจุดโทศษ 5-4 ประตู(ในเวลาเสมอ3-3)