อนุทินโอ่แก้หนี้ ‘ปลัดมท.’เตือน เหลือแค่11วัน!

“อนุทิน” ปลื้มแก้หนี้นอกระบบ เผยมียอดทะลุ 1.43 แสนราย  สะท้อนความไว้วางใจนโยบายภาครัฐ  ปลัด มท.ย้ำเหลือ 11 วันปิดลงทะเบียน    กทม.ยังครองแชมป์ “นครสวรรค์” ไกล่เกลี่ยดีสุด “ธ.ก.ส.” เผยแก้ไขแล้ว 712,579 ราย วงเงินกว่า 6 หมื่นล้านบาทแล้ว

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ก.พ.2567   นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าตามนโยบายแก้หนี้นอกระบบว่า ขอชื่นชมความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกภาคส่วนในการปลดโซ่ตรวนให้ประชาชน โดยได้กำชับผู้ว่าราชการทุกจังหวัดให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ นำลูกหนี้และเจ้าหนี้มาเข้ากระบวนการเจรจาตามกฎหมาย และต้องปฏิบัติงานเชิงรุก เพื่อให้เห็นสภาพความเป็นจริงของปัญหา

นายอนุทินกล่าวว่า ในการทำงานมองรอบด้าน ซึ่งตัวเลขผู้มาลงทะเบียนแก้หนี้ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ตอนนี้มีมากกว่า 1.43 แสนรายแล้ว สะท้อนถึงความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อนโยบายของทางภาครัฐ มองว่าฝ่ายราชการสามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ล่าสุดผู้มาลงทะเบียนข้างต้นได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยมากกว่า 2.4 หมื่นราย และสามารถไกล่เกลี่ยได้สำเร็จมากกว่า 1.4 หมื่นราย หรือคิดเป็นอัตราความสำเร็จเกือบ 60% ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อเวลาผ่านไป ตัวเลขความสำเร็จจะสูงกว่านี้แน่นอน สำหรับกระบวนการแก้หนี้นอกระบบ หลังจากการลงทะเบียน จะต้องพิจารณาเพื่อเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ไปจนถึงการใช้กฎหมายเข้าดูแลแก้ไข

 “จากการลงพื้นที่ไปตามตลาดนัดแก้หนี้ตามพื้นที่ต่างๆ พบว่าประชาชนทั้งในส่วนของลูกหนี้และเจ้าหนี้ต่างยินดีที่ได้ภาครัฐมาเป็นตัวกลางช่วยเจรจา เพราะภาครัฐมีเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญด้านกฎหมาย ไปจนถึงมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินคอยประสานช่วยเหลือ ดีกว่าให้ประชาชนต้องมาเผชิญหน้ากันเอง ซึ่งปราศจากเครื่องมือในการหาทางออก สุดท้ายจะกลายเป็นการกระทบกระทั่งกัน โดยที่ปัญหาไม่ได้ถูกแก้ไข”

ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงผลการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ วันที่  80 ว่ามีประชาชนลงทะเบียนแล้ว 143,939 ราย มูลหนี้รวม 10,261.362 ล้านบาท เป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 120,245 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 23,694 ราย รวมเจ้าหนี้ 114,344 ราย โดยพื้นที่/จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับแรก ดังนี้ 1.กรุงเทพมหานคร ยังคงมีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 11,169 ราย เจ้าหนี้ 8,278 ราย มูลหนี้ 911.042 ล้านบาท 2.จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 5,809 ราย เจ้าหนี้ 5,475 ราย มูลหนี้ 398.124 ล้านบาท 3.จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน 5,312 ราย เจ้าหนี้ 4,289 ราย มูลหนี้ 349.437 ล้านบาท 4.จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 4,981 ราย เจ้าหนี้ 4,075 ราย มูลหนี้ 431.212 ล้านบาท และ 5.จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ลงทะเบียน 3,912 ราย เจ้าหนี้ 2,836 ราย มูลหนี้ 361.507 ล้านบาท

ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1.จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน 238 ราย เจ้าหนี้ 239 ราย มูลหนี้ 14.243 ล้านบาท 2.จังหวัดระนอง มีผู้ลงทะเบียน 339 ราย เจ้าหนี้ 261 ราย มูลหนี้ 23.718 ล้านบาท 3.จังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน 380 ราย เจ้าหนี้ 298 ราย มูลหนี้ 14.969 ล้านบาท 4.จังหวัดตราด มีผู้ลงทะเบียน 460 ราย เจ้าหนี้ 337 ราย มูลหนี้ 20.155 ล้านบาท และ 5.จังหวัดสิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน 464 ราย เจ้าหนี้ 372 ราย มูลหนี้ 25.681 ล้านบาท

“สำหรับข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบทั่วประเทศ พบว่ามีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 24,184 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 14,947 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนการไกล่เกลี่ย 2,222.407 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 1,500.624 ล้านบาท มูลหนี้ลดลง 721.783 ล้านบาท และจังหวัดที่นำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุดยังคงเป็นจังหวัดนครสวรรค์เช่นเดิม โดยมีลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย 3,269 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 419 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 276.484 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 44.129 ล้านบาท ทำให้มูลหนี้ของพี่น้องประชาชนในนครสวรรค์ลดลง 232.354 ล้านบาท สำหรับกรณีที่ไม่ได้รับความร่วมมือกระทั่งไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้ เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดีไปแล้ว 277 คดี ใน 35 จังหวัด” นายสุทธิพงษ์กล่าว

นายสุทธิพงษ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังเหลือเวลาอีก 11 วัน ที่พี่น้องประชาชนยังคงสามารถลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเราจะรับลงทะเบียนถึงวันที่ 29  ก.พ.2567 นี้ ทั้งการเดินทางไปขอคำปรึกษาและลงทะเบียน ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด (ห้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด) ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง (ห้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ) สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตของกรุงเทพมหานคร ตลอดจนพื้นที่การจัดมหกรรมตลาดนัดแก้หนี้ระดับจังหวัด และตลาดนัดแก้หนี้อำเภอ หรือสามารถลงทะเบียนทางระบบออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร.1567 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร    (ธ.ก.ส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้เพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบของรัฐบาลว่า ล่าสุดในส่วนของสินเชื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบที่ดำเนินการโดยธนาคาร มีลูกค้าที่มีหนี้นอกระบบมาเข้าสู่ระบบ ธ.ก.ส.แล้วจำนวน 676,516 ราย คิดเป็นวงเงิน 51,381 ล้านบาท นอกจากนี้ เมื่อรวมสินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน เพื่อสงวนรักษาที่ดินจากการจำนอง ขายฝาก หรือใช้ที่ดินเป็นประกันหนี้ วงเงินสูงสุด 2.5 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ซึ่งเป็นงบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จ่ายผ่าน ธ.ก.ส. ขณะนี้จ่ายสินเชื่อไปแล้ว 36,063 ราย วงเงิน 8,801 ล้านบาท

 “หากรวมการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบผ่าน ธ.ก.ส.แล้ว 712,579 ราย วงเงิน 60,182 ล้านบาท ซึ่งเป็นการดำเนินการเร่งด่วน ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายในการขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าวให้กับหน่วยงานราชการไว้” นายฉัตรชัยกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไฟล์ทบุญ! 'อนุทิน' บินด่วน 'ร้อยเอ็ด นำทีมแพทย์ผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ ต่อบุญคนตาย รักษาชีวิตคนเป็น พร้อมขอบคุณ และให้กำลังใจ ผู้เสียชีวิต และญาติ ที่บริจาคอวัยวะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยทีมแพทย์ จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย นำโดย นพ.พัชร อ่องจริต ได้เดินทางด้วยเครื่องบิน มายังสนามบินร้อยเอ็ด เพื่อผ่าตัดรับอวัยวะจากผู้เสียชีวิตจากภาวะสมองตาย ที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด