เว็บพนันเขย่าตร.! ‘โจ๊ก’ซัดเหิมเกริมกดดันปปช.‘รองเต่า’ยันหลักฐานมัดแน่น

สีกากีเดือด! "บิ๊กโจ๊ก" แจงยิบไม่มีเส้นทางเงินเกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ ยันไม่เคยถูกแจ้งข้อหา เตือนสื่อลบข้อความก่อนส่งทนายทำหน้าที่ ซัด "รอง ผบช." ยศอะไรไปกดดัน  ป.ป.ช.เหิมเกริม-ออฟไซด์เรียกส่งสำนวนคดีกลับ ท้าให้ "ยศใหญ่" ออกมาพูด อย่าเป็นอีแอบ "รองฯ เต่า" มั่นใจพยานหลักฐานมัดแน่น ยันไม่ปรักปรำแต่งเติมเสริมให้ถึงใคร ลั่นไม่กลัวถูกฟ้องให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน เหน็บโปรดอย่าทำร้ายองค์กรเหมือนเคยทรยศเจ้านายหลายคนมาแล้ว  "นายกฯ" ย้ำต้องให้ทุกฝ่ายพิสูจน์ความจริง

ที่สโมสรตำรวจ วันที่ 22 ก.พ. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) แถลงข่าวกรณีออกมาระบุตนเองเกี่ยวพันคดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่ โดยเริ่มต้นย้อนไทม์ไลน์คดีตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านของตน มีการปกปิดข้อเท็จจริงศาล มีเพียงการบอกบ้านเลขที่ แต่ไม่บอกว่าเป็นบ้านของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ การขอศาลออกหมายจับลูกน้องของตนทั้ง 8 คน ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยใช้คำนำหน้าชื่อ นาย ประกอบอาชีพรับจ้าง ซึ่งเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงศาลทั้งหมด เพราะถ้าเป็นข้าราชการต้องไปขอหมายที่ศาลทุจริตกลางเท่านั้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เมื่อค้นบ้านตนแล้วมีการออกหมายจับลูกน้องตนทั้งหมด จากนั้นมีการสั่งสำนวนคดีดังกล่าวแจ้งข้อกล่าวหาส่งไปที่พนักงานอัยการ ไม่มีการแจ้งข้อข้อกล่าวหาตน วันดีคืนดีอาทิตย์ที่แล้วสื่อมวลชนโทร.มาถามเขาจะเรียกตนไปแจ้งข้อกล่าวหาวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้บอกไปว่าไม่มี แล้วก็มีเอกสารการสอบสวนในสำนวนที่มีชื่อตนหลุดออกมาทีละนิดทีละหน่อย เพื่อให้เสียชื่อเสียง ป่านนี้ยังไม่มีการเรียกไปแจ้งข้อหาเลย

"สำนวนเมื่อส่งไปยังพนักงานอัยการแล้วพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว จะสอบสวนได้อย่างเดียวคืออัยการสั่งสอบเพิ่มเติม ถ้าอัยการไม่สั่งสอบเพิ่ม พนักงานสอบสวนสอบไม่ได้ แจ้งข้อกล่าวหาไม่ได้ แต่มีบางสื่อนำเสนอว่าอัยการสั่งสอบเพิ่มในประเด็นคือ ตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางผู้ถือบัญชีม้าว่าสอดคล้องกันหรือไม่ และสิ่งสำคัญคือข้อมูลจากการตรวจสอบยืนยันการกระทำความผิดของผู้ต้องหารายใด สรุปง่ายในฐานะนักกฎหมาย ประเด็นที่เขาแทงมาสอบเพิ่มเพราะอัยการเขางงว่าผิดตรงไหน ไม่ได้ให้ฉกฉวยโอกาสเอาไปอ้างว่าอัยการให้แจ้งข้อหาเพิ่ม" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า กรณีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติออกมาแถลงเรื่อง ป.ป.ช. และสื่อก็นำเสนอมีการแจ้งข้อกล่าวหาตน ม.157 และ 149 และอยากให้ ป.ป.ช.ส่งสำนวนกลับมาให้ตำรวจทำ เพราะทำไปเยอะแล้ว ขออธิบายว่าท่านน่าจะสำคัญผิดหรือเหิมเกริม หรือน่าจะออฟไซด์  เพราะต้องเข้าใจว่าสำนวนนี้ส่งไป ป.ป.ช.ตั้งแต่ปีที่แล้ว แน่นอนท่านกล่าวหาตนและลูกน้องอีก 4 คน ต้องเรียนว่า ป.ป.ช.เป็นหน่วยงานตรวจสอบทุจริตโดยตรง  เป็นระบบไต่สวน ซึ่งรอบคอบกว่าระบบกล่าวหาของตำรวจ และสำนวนคดีนี้ส่งไป ป.ป.ช.ตั้งแต่ปีที่แล้ว อยู่ๆ วันนี้คึกคักอยากไปเอากลับมา มีการทำหนังสือไปถึง ป.ป.ช.จะเอาสำนวนกลับแล้วไปแถลงบอกว่า ป.ป.ช.ต้องส่งมาให้

"ตำรวจ คุณยศอะไร ไปแถลงข่าวกดดัน ป.ป.ช.เขาได้อย่างไร คุณเป็นใคร ระบบไต่สวน ป.ป.ช.เขามีความน่าเชื่อถือมากกว่า หรือไม่มากกว่าระบบกล่าวหาตำรวจ คุณใหญ่โตมายังไงไปกดดัน ป.ป.ช. แล้วพูดได้อย่างไรส่งมาให้ตำรวจ ตำรวจทำเร็วกว่า พูดอย่างนี้ไปดูถูกการทำงาน ป.ป.ช.หรือเปล่า ใหญ่โตมาก เขาเรียกว่าออฟไซด์ ป.ป.ช.เขามีองค์คณะถึง 9 คน มีทั้งศาล อัยการ แสดงว่าคุณไม่เชื่อมั่นการไต่สวนของ ป.ป.ช.หรือเปล่า" รองผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ฝากไปยังสื่อมวลชนที่เสนอข่าวตามที่เขาพูดว่าแจ้งข้อหาตน ให้ไปลบออก เพราะหลังจากแถลงข่าวครั้งนี้ถือว่าท่านรับรู้แล้ว ถ้ายังไม่ลบออกทนายต้องทำหน้าที่ เราต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือของคนไม่ดี ตนไม่ได้เอ่ยชื่อใครพูดไปเรื่อยเปื่อย

บิ๊กโจ๊กท้าอีแอบเปิดหน้า

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวมีประมาณกว่า 200 คน ดำเนินคดีคน 8 คน จะมากี่คนไม่ว่า ต้องย้อนไปดูดีๆ เดียวจะติดคุกกันหมด ตนสอนให้ฟัง วันนี้ตนขุดหลุมไว้ตอนนี้เริ่มตกไปครึ่งตัวแล้ว ท่านรู้หรือเปล่าว่าสำนวนที่ท่านกำลังทำท่านมีอำนาจหรือเปล่า อย่างที่รองผู้บัญชาการทรงพลังบอกว่ามีเงิน 300-400 ล้าน จะบอกว่าคดีมูลฐานที่มีเงิน 300 ล้านขึ้นไปมันเป็นอำนาจของดีเอสไอ เขาเรียกเป็นคดีพิเศษไม่มีอำนาจสอบสวนจะติดคุกกันหมด

 “การที่รองผู้บัญชาการมาแถลงเรื่องนี้วานนี้ ถ้าผมเป็น ป.ป.ช. ก็ต้องมองว่าออฟไซด์ ลากองค์กรไปทะเลาะกับเขาด้วย วิงวอนว่ากรุณาอย่าให้ยศน้อยๆ ออกมาพูด ให้ยศสูงออกมาพูดบ้าง ต้องแมนๆ แบบผม ไม่ใช่เป็นอีแอบ ฝากถึงตำรวจทุกคน วันนี้มาแข่งกันทำงานดีกว่า อย่าอิจฉาริษยา ยศตำแหน่งเป็นเรื่องของบุญวาสนา เป็นการทำงานให้แผ่นดิน”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า สำนวนการสอบสวนที่หลุด หลุดออกมาได้อย่างไร ตนเคยทำมาคดีมาเยอะ แต่ไม่เคยทำแบบนี้ ทำแบบนี้ผิดข้อมูล พ.ร.บ.ข่าวสารและระเบียบเรื่องความลับของราชการ หัวหน้าพนักงานสอบสวนต้องรับผิดชอบ เช้านี้ลูกน้องตนก็ไปยื่นฟ้อง พล.ต.อ.ท่านหนึ่ง

ช่วงท้าย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยืนยันว่า ไม่มีเส้นทางการเงินพนันออนไลน์สักเส้นเข้ามาที่ตน มีแต่ตนจบดำเนินคดีตามเรื่องร้องเรียน

ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะรองหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่ โต้ตอบถึงอำนาจหน้าที่ในการทำคดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่ว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ลงความเห็นให้แต่งตั้งตนเป็นโฆษกชี้แจงในคดีดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำอะไรไปบ้าง และจะทำอะไรต่อ ซึ่งในส่วนของการสอบสวนเรื่องนี้ เป็นเรื่องของคณะกรรมการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่เกี่ยวกับตำรวจสอบสวนกลาง การตั้งคณะพนักงานสอบสวน ผบ.ตร.เป็นคนตั้ง อำนาจการสอบสวนเป็นอำนาจของคณะสอบสวน ตนเป็นเจ้าหน้าที่ที่คณะตั้งมาเพื่อสอบสวนเรื่องดังกล่าว เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย มีอำนาจมีหน้าที่ จะเป็นพนักงานสอบสวนคนใดก็ได้ที่ได้รับมอบหมายมาดำเนินการก็สามารถดำเนินการแทนหัวหน้าได้

ถามว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบุคดีที่มีมูลค่า 300 ล้านขึ้นไป ตำรวจไม่มีสิทธิ์ดำเนินการ ต้องให้ดีเอสไอรับผิดชอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า คดีนี้เงินที่เข้ามา 200 กว่าล้าน หรือ 300 ล้าน มาจากหลายเว็บ เว็บแรก

มาจากเว็บของมินนี่ มีตัวเงินประมาณ 2-3 หลัก 70 กว่าล้าน และยังมีเว็บอื่นอีกที่เรากำลังสืบสวนพบเส้นทางการเงินรวมกันแล้ว 200-300 ล้าน คนละเรื่อง คนละกรณี ไม่ใช่เคสของมินนี่คนเดียว

"ยืนยันว่ายังเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะพนักงานสอบสวน จริงๆ ไม่อยากจะพูด อยากจะพูดในศาล ศาลเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าผิดหรือถูก ไม่ต้องเอาไปที่ดีเอสไอหรือที่ ป.ป.ช. เพราะอย่างไรก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเหมือนกัน ในการตรวจสอบของกรม เมื่อคดีมาก็เข้าสู่ศาลทุจริตเหมือนกัน มีการไต่สวนเหมือนกันไม่ได้แตกต่างกันเลย" พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว

ถามถึงกรณีรอง ผบ.ตร.ระบุตำรวจต้องการดึงคดีกลับมาดำเนินการเอง รองหัวหน้า พงส.คดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่กล่าวว่า ที่ต้องการดึงคดีกลับมาเป็นเรื่องเดียวกัน แต่เจอผู้ต้องหาเพิ่มเติมในสำนวนที่ 2 และเป็นเรื่องของมินนี่ด้วยกัน ที่ส่งไปพร้อมความเห็นเป็นหนังสือฉบับเดียวกัน บอกว่า "ในการนี้ถ้าเห็นสมควรเพื่อประโยชน์ต่อรูปคดีในการสืบสวนสอบสวนต่อเนื่องจะขอความเมตตาโปรดส่งเรื่องนี้กับมาดำเนินการ” แต่ถ้าท่านไม่ให้ก็เป็นสิทธิ์ของ ป.ป.ช.ที่จะไม่ให้ เราจะไปก้าวล่วงอำนาจไม่ได้

เต่ามั่นใจหลักฐานไม่ปรักปรำ

เมื่อถามถึงเส้นทางการเงินสามารถเชื่อมโยงไปถึงนายตำรวจระดับสูงหรือไม่ รองหัวหน้า พงส.คดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่กล่าวว่า อยากจะบอกไปยังทีมงานที่ถูกดำเนินคดี เราไปคุยกันในศาลดีกว่า ศาลจะให้ความเป็นธรรม เราไม่มีสาเหตุโกรธเคือง เราไม่มีการกลั่นแกล้ง ดำเนินการไปตามพยานหลักฐานที่มี ไม่ทำนอกเหนือหลักฐานที่มี ไม่ปรักปรำ ขอให้มั่นใจในชุดสอบสวน โดยเฉพาะ พล.ต.อ.ธนา เป็นคนตรงไปตรงมา ทำอะไรละเอียดรอบคอบ ไม่ต้องกลัว เราไม่ได้กลั่นแกล้งใคร นโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. ก็ให้ว่าไปตามตัวบทกฎหมาย ใครผิดก็รับไป ใครไปกลั่นแกล้งก็ถูกฟ้องร้อง

 “ผมไม่เอาชีวิตราชการไปเสี่ยง อีก 6-7 ปี ก็เกษียณแล้ว ไม่เอาเรื่องไปพันหัว แต่จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด เราต้องการรักษาองค์กรให้ดีที่สุด ถ้ากลุ่มผู้ต้องหาไม่มาข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ข่มขู่ว่าจะฟ้อง ทำให้เจ้าหน้าที่หวั่นไหว หรือไม่มาทำร้ายองค์กร ทำร้ายพวกผมอย่างเดียวไม่เป็นไร แต่ถ้าทำร้ายองค์กรผมไม่ยอม จะเดินหน้าชนทุกรูปแบบ แต่จะชนด้วยหลักฐาน ด้วยความถูกต้อง โปรดอย่าทำร้ายองค์กร ทรยศองค์กรเหมือนที่ท่านทรยศเจ้านายมาแล้วหลายคน ยืนยันไม่มีการกลั่นแกล้งใคร ตรวจสอบประวัติได้ ไม่นิยมเรื่องการกลั่นแกล้ง" พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว

ซักว่านายพลคนดังกล่าวบอกทำไมโดนแต่เขาคนเดียวตั้งแต่ปลายปี พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ไม่รู้ว่าทำไมโดนกับเขา เขารู้ดีที่สุด ต้องขอบคุณน้องๆ ที่โดนคดีด้วย ที่เก็บพยานหลักฐานไว้ทุกขั้นตอนละเอียดยิบ สงสารน้องๆ ทุกคนที่เข้ามายุ่งในคดีนี้แล้วต้องพันไปด้วย ตนว่าเขาขึ้นเรือลำผิด ถ้าขึ้นเรือลำถูกเขาจะเจริญก้าวหน้า ตนไม่อยากทำร้าย เชื่อว่าลูกน้องกลุ่มนี้ต้องทำตามผู้บังคับบัญชาไม่กล้าบิดพลิ้วแม้แต่เล็กน้อย ทำงานเป็นขั้นเป็นตอน ค่าใช้จ่ายต้องเป๊ะ เป็นการบันทึกข้อมูลการกระทำความผิดไว้ชัดเจนทุกขั้นทุกตอนทุกเดือน

"ที่มีการฟ้อง 'พล.ต.อ.' 2 ท่าน ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะฟ้องใคร เราทำตามพยานหลักฐาน ไม่ได้แต่งเติมเสริมแต่งต่อเป็นงานถึงใคร ฟ้องไปแล้วศาลจะให้ความเป็นธรรมเรา ปล่อยไปตามกระบวนการ" พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว

 ถามต่อว่า นายพลคนดังกล่าวตั้งคำถามมีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ถึงให้ลูกน้องออกมาพูดแทน พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ไม่มี ถึงจะมีไม่มีตนไม่รู้ แต่ตนเข้าไปเห็นหลักฐานมีตำรวจเกี่ยวข้อง จึงร่วมไปด้วยบอกว่าจะไม่ปล่อยผ่าน เอาให้เต็มที่สุดทาง ฟ้องก็ฟ้องไม่เป็นไร

ซักว่าแล้วเหตุใดหัวหน้าพนักงานสอบสวนยศ พล.ต.อ. ไม่มาชี้แจงบ้าง พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ท่านเป็นคนไม่ชอบให้ข่าว ชอบทำงาน มีความละเอียดในเนื้องานใครที่สามารถให้ข่าวรู้เรื่อง สื่อมวลชนมีความเชื่อถือคนที่เหมาะสมคือตน ในที่ประชุมยกมือยินยอมให้ตนเป็นโฆษก จริงๆ แล้วไม่อยากมา เพราะมาเดี๋ยวก็โดนฟ้องอีก แต่เมื่อพี่น้องทุกคนอยากให้มาก็มา เพราะถ้าไม่มาตำรวจมันแกว่ง กลัวถูกฟ้อง ถูกขู่ทุกวัน เราไม่สบายใจ เขาจะได้รู้ว่าเจ้านายไม่ละทิ้งปกป้อง เรื่องนี้ พล.ต.อ.ธนายืนยันจะทำข้อมูลตรงไปตรงมา เชื่อมั่นในการทำงาน

"เราเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน แต่สุดท้ายศาลจะเป็นคนตัดสินว่าใครผิดใครถูก  ถ้าพวกผมผิดไปกลั่นแกล้งก็สามารถฟ้องร้องได้ ยืนยันว่ามั่นใจพยานหลักฐานที่เราตรวจค้นได้มันชัดเจน เพราะเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เป็นหลักฐานที่ถูกบันทึกไว้เราตรวจสอบทุกขั้นตอน เจ้าหน้าที่ยังทำงานอยู่ทุกวันถึงแม้สำนวนนี้ ป.ป.ช.จะไม่ส่งกลับมาให้ตำรวจทำ แต่หลักฐานที่มีเชื่อว่า ป.ป.ช.สามารถชี้มูลความผิดได้ แต่ที่อยากนำกลับมาก็อยากให้จบเร็วๆ" พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กล่าวถึงคดีเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ที่มีการกล่าวอ้าง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เข้าไปพัวพันว่า ฟังจากสื่อ ก็เป็นห่วงอยู่เหมือนกันเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐถูกกล่าวโทษ ก็เป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์ทราบให้ชัดเจน เพราะเป็นเรื่องขวัญและกำลังใจประชาชน ซึ่งไม่ต้องพูดอะไรมาก เรื่องเว็บพนันออนไลน์ก็ผิดอยู่แล้ว ถ้าเกิดมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการ แต่ก็ต้องให้เกียรติ เพราะที่จริงแล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ก็ต้องให้เกียรติมาชี้แจง ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุย และยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คณะสอบวินัย"บิ๊กโจ๊ก"ส่อเค้าวุ่นไม่จบ “สราวุฒิ”จ่อเกษียณโยนเผือกร้อนสีกากี

สู้กันทุกกระบวนท่าเต็มสรรพกำลังอภิมหาศึก “สีกากี” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนพัวพันคดีเว็บพนันออนไลน์ ระบุว่า “การสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

รมต.ใหม่ถวายสัตย์ เศรษฐานำเข้าเฝ้าฯ3พ.ค. แม้วควงสุวัจน์ทัวร์ภูเก็ต

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ "มาริษ" เป็น รมว.ต่างประเทศ "นายกฯ" เตรียมนำ รมต.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ 3 พ.ค.นี้