นายกฯชูปฏิรูปตร. ปลื้มสมาร์ทโปลิศ ที่พึ่งประชาชน

"บิ๊กตู่" ประชุม ก.ตร.ส่งท้ายปี 2564 มีมติไล่ออกตำรวจประพฤติผิดวินัยร้ายแรง 26 นาย ปลดออก 2 นาย สรุปรวมทั้งปีมีสีกากีนอกแถวโดนลงโทษ 250 นาย ขอบคุณ ตร.ปฏิรูปตัวเอง ใช้เทคโนโลยีพัฒนาการทำงานทุกมิติ ชื่นชมเป็นสมาร์ทโปลิศ ย้ำต้องอดทนเป็นที่พึ่งให้ประชาชน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 29 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 13/2564 ซึ่งก่อนการประชุม ก.ตร. พล.อ.ประยุทธ์ได้รับชมนิทรรศการของขวัญปีใหม่ 2565 จากใจรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งในปีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบของขวัญปีใหม่ทั้งในเรื่องของการป้องกันอาชญากรรม Smart safety zone 4.0, ฝากบ้าน 4.0, CCTV ระวังภัยเฟส 2, การอำนวยความยุติธรรมคดีออนไลน์แจ้งความได้ทุกท้องที่, การสืบสวน เน้นชุมชนยั่งยืนตรวจสอบประวัติออนไลน์, การใช้ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเปิดบ้านตำรวจให้ส่วนลดโรงแรมที่พักฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้อโควิดฟรี ขณะที่การเดินทางท่องเที่ยวปลอดภัยจัดสุภาพบุรุษจราจร แอปพลิเคชันช่วยเหลือนักท่องเที่ยว Tourist Police

พล.อ.ประยุทธ์ได้เน้นย้ำให้ใช้แอปพลิเคชันนี้ทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งแสดงความพอใจในสิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลมาโดยตลอด โดยการสร้างความเชื่อมั่น สร้างความมั่นใจใช้เทคโนโลยีเข้ามาประกอบปฏิบัติ เพื่อให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปมาก

"วันนี้อาชญากรรมมีหลายประเภทหลายวิธีการ แต่ก็ได้เห็นความพร้อมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดำเนินการงาน จึงทำให้เกิดความภาคภูมิใจในฐานะที่กำกับดูแล ขอขอบคุณที่นำแนวนโยบายไปปฏิบัติ ทุกกิจกรรมที่ทำนั้นขอให้ทำเพื่อประชาชนให้มีความสุข มีความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินคือ งานที่จะต้องทำและปฏิบัติเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส ดังนั้นสิ่งที่ทำไว้วันนี้ทุกคนจะต้องทำงานด้วยความอดทน อดกลั้น เสียสละ และระมัดระวังตัวอย่างเข้มแข็ง และให้ตนเองปลอดภัยไปด้วย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ทุกกิจกรรมที่ทำนั้น ทำเพื่อประชาชนให้มีความสุข มีความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน คืองานที่จะต้องทำและปฏิบัติ เป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส ดังนั้นสิ่งที่ทำไว้วันนี้ทุกคนจะต้องทำงานด้วยความอดทน อดกลั้น เสียสละ และระมัดระวังตัวอย่างเข้มแข็ง ให้ตนเองปลอดภัยไปด้วย สิ่งสำคัญวันนี้ มีแต่เพียงความภาคภูมิใจ มีแต่เกียรติยศที่จะให้กลับมา ดังนั้นต้องรักษาเกียรติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเกียรติตำรวจในยุคใหม่ หรือสมาร์ทโปลิศ

"การปฏิรูปตำรวจไม่ได้มองเรื่องการบริการอย่างเดียว แต่มองถึงการปฏิบัติใช้เทคโนโลยีมาดำเนินการกับเหตุการณ์ปัจจุบัน เพื่ออำนวยความสะดวก เกิดความรวดเร็ว จับกุมดำเนินคดีได้รวดเร็ว พร้อมหลักฐานที่ดีปรากฏอยู่ ซึ่งทั้งหมดจึงขอชื่นชมอีกครั้งหนึ่ง และขอให้ทำงานให้สำเร็จอย่างต่อเนื่อง และมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะตำรวจใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด และเผชิญหน้ากับคนร้ายโดยตรง ดังนั้นต้องระมัดระวังตนเองให้มาก และขอให้ทุกคนปลอดภัย" นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอบคุณการทำงานในช่วงที่ผ่านมา และตลอดช่วงปีใหม่ที่ทุกคนจะเหน็ดเหนื่อย ส่วนตนเองจะขอความร่วมมือประชาชน ให้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกเรื่อง ในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ร่วมแก้ปัญหาทั้งอาชญากรรม ทั้งทางเทคโนโลยี ปัญหาจราจรอีกมากมาย ด้วยด้วยการเป็นหูเป็นตา ช่วยให้งานสำเร็จ ประเทศปลอดภัย เป็นที่เชื่อมั่นของชาวต่างประเทศ ที่กำลังเดินทางมาเยือนประเทศไทย

"ขอขอบคุณในการทำงาน เป็นของขวัญให้กับนายกฯ และนายกฯ มอบให้กับประชาชนเพื่อให้ทุกคนภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจทุกคน ที่จะต้องทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจทุกเรื่อง สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และตรวจสอบได้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เข้าประชุม ก.ตร. โดยมีวาระการประชุมพิจารณาวินัย ตามเรื่องที่มอบหมาย, การพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่ขอลาออก, การเลื่อนเงินเดือนประจำปี 2564 ครั้งที่ 2 ครึ่งปีหลัง แก่ข้าราชการตำรวจผู้รับเงินเดือนในระดับ ส.6, การขออนุมัติเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายในช่วงที่มิได้ปฏิบัติราชการให้แก่ข้าราชการตำรวจ จำนวน 20 ราย, การพิจารณาเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เทียบเท่าอธิบดี, การแต่งตั้งอนุกรรมการ ก.ตร. และแนวทางการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในโลกวิถีชีวิตใหม่ (New Normal)

นอกจากนี้ มีการรายงานผลการดำเนินการของคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจด้านต่างๆ โดยคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจด้านวินัย อุทธรณ์ ร้องทุกข์ และบริหารทรัพยากรบุคคล ได้รายงานข้อมูลการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ของข้าราชการตำรวจ เดือน ธ.ค.2564 มีข้าราชการตำรวจลงโทษทั้งสิ้นจำนวน 28 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ จำนวน 26 นาย และปลดออกจากราชการ จำนวน 2 นาย

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ธ.ค.64 มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น จำนวน 250 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ จำนวน 192 นาย ปลดออกจากราชการ จำนวน 49 นาย และให้ออกจากราชการ จำนวน 9 นาย

พล.อ.ประยุทธ์แถลงภายหลังการประชุม ก.ต.ร.ว่า เป็นการประชุม ก.ตร.ครั้งสุดท้ายของปี 2564 ซึ่งขอชื่นชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการพัฒนาทุกมิติในช่วงที่ผ่านมา นั่นคือการปฏิรูปตำรวจอย่างหนึ่งที่เป็นการสร้างความเชื่อมั่นความไว้วางใจในกระบวนการทางกฎหมายเพื่อความเป็นธรรม ปรับรูปแบบการทำงาน โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมเพื่ออำนวยความสะดวกในการพิสูจน์ทราบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกอย่างมีความก้าวหน้าตามลำดับ

"ผมในฐานะนายกรัฐมนตรี และใฐานะประธาน ก.ตร. ขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอบคุณไปยังกำลังพลชั้นผู้น้อย ฝากเน้นย้ำดูแลสวัสดิการของบุคลากรทุกคน เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เราต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนทุกโอกาส และส่งกำลังใจให้ตำรวจ ทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ ทั้งการรักษาความมั่นคงภายในและการปกป้องอธิปไตยตามแนวชายแดนที่มีภาระหนักยิ่ง แต่รัฐบาลได้เตรียมแผนงานไว้แล้ว มีการเตรียมการเมื่อถึงเวลาปฏิบัติได้ทันที และขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่อวยพรปีใหม่ให้ผมและครอบครัวเช่นเดียวกัน ผมก็ได้อวยพรกลับไปให้ ทุกอย่างกลับไปสู่เข้าเป็นร้อยเท่าพันทวี” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว.