ผู้ป่วยวิกฤตเดินปร๋อ! แอ่วเชียงใหม่ไม่นั่งวีลแชร์ เตือนอย่าย่ำยีจิตใจปชช.

อึ้ง! "ผู้ป่วยวิกฤตทักษิณ" หน้าตาสดใส เดินปร๋อไม่ต้องนั่งวีลแชร์   ใส่เฝือกคอไร้ผ้าคล้องแขน ควง "อุ๊งอิ๊ง-ลูกเขย" ไหว้ศาลหลักเมืองแบบ VVIP ตั้งแต่ตี 5 ก่อนบินลงเชียงใหม่ "ธรรมนัส-บิ๊กโจ๊ก-ขรก." รอรับ พาตรวจเยี่ยมหลายโครงการ บอกอาการป่วยดีขึ้นตามลำดับ "ผู้กอง" แจงมาตามภารกิจ ก.เกษตรฯ ไม่กลัวถูกโยงการเมือง "โรม" ข้องใจป่วยจริงหรือรัฐบาลหลอก เสี้ยม "พท." เลือกปฏิบัตินายใหญ่-เศรษฐา "ถาวร" เตือนอย่าย่ำยีจิตใจ ปชช.ซ้ำซาก "หมอวรงค์" จี้ "ทวี" ตอบไหนป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

ความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนักโทษที่อยู่ระหว่างพักโทษ มีกำหนดเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ระหว่างวันที่ 14-16 มี.ค.2567 เพื่อไปทำบุญและเคารพสถูปบรรจุอัฐิบรรพบุรุษตระกูลชินวัตรผู้ล่วงลับนั้น

เมื่อเวลา 05.19 น. วันที่ 14 มี.ค. นายทักษิณพร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) บุตรสาว และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ บุตรเขย สามี น.ส.แพทองธาร เดินทางมาที่บริเวณหน้าศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เข้าสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวไป จ.เชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณพร้อมครอบครัวนั่งรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ สีดำทะเบียน ภษ 1414 กรุงเทพมหานคร เมื่อมาถึงศาลหลักเมืองได้เข้าประตูด้านข้างศาลหลักเมือง บริเวณถนนหลักเมือง  ข้างกระทรวงกลาโหม เข้าไปประกอบพิธี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.สำราญราษฎร์ คอยอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณโดยรอบ

ขณะเดียวกัน ได้มีการนำแผงเหล็กมาปิดกั้นบริเวณทางเข้าถนนหลักเมือง เพื่อไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในศาลหลักเมือง รวมทั้งสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวก็ต้องอยู่โดยรอบศาลหลักเมือง การไหว้ศาลหลักเมืองครั้งนี้มีเพียงนายทักษิณและคณะเท่านั้น เนื่องจากศาลหลักเมืองเปิดให้บริการในเวลา 06.30 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ นายทักษิณได้สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำเงิน สวมเฝือกอ่อนดามคอพร้อมกับใส่แมสก์ แต่ไม่ได้ใส่ผ้าคล้องแขนด้านขวา รวมทั้งสามารถเดินได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องนั่งวีลแชร์ มี น.ส.แพทองธารเดินประกบ รวมทั้งมีทีมรักษาความปลอดภัยส่วนตัวคอยดูแล โดยนายทักษิณได้ไหว้ศาลหลักเมือง 5 จุด คือ จุดที่ 1 หอพระพุทธรูป มีการนำพวงมาลัยดอกดาวเรืองเข้าไปสักการะ จากนั้นไปไหว้จุดที่ 2 คือองค์พระหลักเมืองจำลอง โดยเป็นการผ้าสีเหลืองจีวรผูกกับองค์พระหลักเมืองจำลอง, จุดที่ 3 องค์พระหลักเมืององค์จริง ได้ทำการบวงสรวงองค์พระหลักเมืององค์จริง, จุดที่ 4 หอเทพารักษ์ทั้ง 5  ประกอบด้วย พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าเจตคุปต์ และเจ้าหอกลอง และจุดที่ 5 เป็นการเติมน้ำมันตระเกียงพระประจำวันเกิด เพื่อความสว่างไสวในชีวิตและสะเดาะเคราะห์ เพื่อให้สิ่งไม่ดีออกไป

โดยทำพิธีเสร็จสิ้นในเวลา 05.45 น.  ใช้เวลาทำพิธี 26 นาที จากนั้นนายทักษิณพร้อมครอบครัวได้เดินทางออกจากศาลหลักเมือง ซึ่งสื่อมวลชนได้พยายามเรียกทักทาย สวัสดี โดยนายทักษิณได้หันมายกมือรับไหว้ก่อนขึ้นรถ เดินทางต่อไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัวเพื่อเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่

เวลา 09.28 น. เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับ น.ส.แพทองธารและนายปิฎก รวมทั้งหลานสาว ถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งมีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. มารอต้อนรับด้วย จากนั้นนายทักษิณนั่งรถยนต์เลกซัส สีดำ ทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร เดินทางมาชมพืชสวนโลก ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549

นักโทษเดินตรวจงาน

ทันทีที่เดินทางมาถึงอุทยานหลวงราชพฤกษ์ เวลา 09.50 น. นายภูดิท อินสุวรรณ์ อดีต สส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย นำพระพุทธรูปพุทธบารมี วัดทับคล้อ หน้าตัก 9 นิ้ว มามอบให้นายทักษิณ พร้อมกันนี้นายทักษิณยังกล่าวทักทายคนที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าการมาครั้งนี้นายทักษิณมีสีหน้าสดใส สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าคราม กางเกงยีนส์ รองเท้าลำลอง และเดินกุมมือกับ น.ส.แพทองธารตลอดเวลา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ามาเชียงใหม่ครั้งนี้ เชียงใหม่เปลี่ยนแปลงไปเยอะหรือไม่ นายทักษิณตอบเพียงสั้นๆ ว่า เหมือนเดิม

 สำหรับคณะที่เดินทางมาร่วมกับนายทักษิณ ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ, นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ, นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยตลอดการเดินทางของนายทักษิณมีพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ มาให้การต้อนรับนายทักษิณ พร้อมด้วยนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากนั้นคณะขึ้นรถกอล์ฟไปด้านในอุทยานหลวงฯ

การลงพื้นที่ครั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงได้นัดรวมตัวเพื่อให้กำลังใจนายทักษิณที่วัดโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง ในวันที่ 15 มี.ค. ทำให้บริเวณพืชสวนโลกมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาที่จุดดังกล่าวประปราย โดยเป็นคนเสื้อแดงจากจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ มาชูป้ายสีแดงรูปนายทักษิณ พร้อมข้อความนายกฯ ในดวงใจ และใส่เสื้อที่มีรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับนายทักษิณ รวมทั้งยังมีการถือกระเป๋าผ้าสกรีนรูปนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง พร้อมลายเซ็น

ต่อมา เวลา 11.40 น. นายทักษิณเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับน.ส.แพทองธารและครอบครัว ที่ร้านช้างม่อยกาแฟ ก่อนที่เวลา 12.40 น. นายทักษิณพร้อมคณะเดินทางมาที่อ่างเก็บน้ำหนองเขียว ห้วยหยวก ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ใกล้กับศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ โดยมีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย มาร่วมคณะเพิ่มเติมด้วย

เมื่อมาถึงนายทักษิณรับฟังบรรยายสรุปโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำหนองเขียว ซึ่งองค์บริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ได้มีการบูรณะปรับปรุงให้เป็นแลนด์มาร์กและสถานที่ออกกำลังกายแห่งใหม่ของ จ.เชียงใหม่ จาก ร.อ.ธรรมนัส และนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ โดยนายทักษิณให้ความสนใจโครงการดังกล่าว และพยายามสอบถามการบริหารจัดการน้ำ การผันน้ำจากคลองต่างๆ เพื่อลดผลกระทบเรื่องของน้ำท่วม น้ำแล้ง

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เห็นการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่แล้วรู้สึกอย่างไร นายทักษิณไม่ตอบ โดยชี้ไปที่บอร์ดแผนโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำหนองเขียว ด้วยแววตาที่ยิ้ม ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เป็นโครงการที่นายทักษิณอยากผลักดันใช่หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า เป็นโครงการที่ทางจังหวัดทำไว้ และตนมาดู

จากนั้นนายทักษิณได้กราบนมัสการพระเทพมังคลาจารย์ (สมาน) ฉายา กิตฺติโสภโณ วัดท่าตอน พระอารามหลวง ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ โดยเจ้าคณะได้มอบลูกประคำไม้หอมกฤษณา และสมเด็จวัดปากน้ำปี 2535 คล้องคอ รวมทั้งได้มอบกำไรประคำสีฟ้าให้กับ น.ส.แพทองธาร ก่อนที่นายทักษิณจะถวายปัจจัย 10,000 บาท เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่สวดให้พรพร้อมกล่าวว่า คาถาที่มอบให้เป็นคาถาฮักเน้อ คนฮักคนชอบ และอวยพรว่า ขอให้อยู่กับบ้านกับเมืองไปชั่วชีวิต ไม่ต้องไปไหนแล้วประเทศนี้

ธรรมนัสแจงงาน ก.เกษตร

ก่อนที่นายทักษิณพร้อมครอบครัว ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลากว่า 30,000 ตัว ประกอบด้วยปลาบึก 15 ตัว ปลาแรด 12 ตัว และปลากาดำ ปลากะโห้ ปลาแก้มช้ำ และปลาจาด เป็นต้น โดยมี ร.อ.ธรรมนัส ร่วมปล่อยพันธุ์ปลาด้วย ขณะเดียวกันนายทักษิณและ น.ส.แพทองธารยังร่วมกันปลูกต้นรวงผึ้งอีกด้วย

เวลา 13.20 น. นายทักษิณเดินทางมายังหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สา อำเภอแม่ริม เพื่อตรวจเยี่ยมถึงการจัดการและการบริหารจัดการน้ำ โดยนายทักษิณได้รับฟังการบรรยายสรุปพร้อมแนะนำในเรื่องการนำน้ำต้นทุนมาบริหารและแจกจ่ายให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง รวมทั้งอยากให้มีการบริหารจัดการ การปลูกต้นไม้ให้มีความเขียวขจีมากกว่าที่เป็นอยู่

โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามเรื่องของอาการป่วยของนายทักษิณ อดีตนายกฯ ตอบเพียงสั้นๆ ว่า “อาการดีขึ้นตามลำดับ”

ขณะเดียวกัน ได้มีกลุ่มชาวบ้านมาดักรอเจอระหว่างที่นายทักษิณมาดูเรื่องการบริหารจัดการน้ำที่ต้นน้ำแม่สา โดยชาวบ้านได้เข้ามาจับมือแสดงความดีใจที่ได้เจอนายทักษิณ ซึ่งนายทักษิณได้สอบถามชาวบ้านว่า “เดินทางมาจากไหน”  ชาวบ้านจึงตอบกลับว่า “มาจากน้ำตกแม่สา ห่างจากจุดนี้ประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อมารอเจอ” ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ที่ยืนประคองนายทักษิณพยายามบอกชาวบ้านที่พยายามจะเข้ามาสวมกอดและจับมือว่า “ให้ระวังแขน อย่าดึงแขน เพราะคุณพ่อยังเจ็บแขนอยู่” ชาวบ้านจึงขอให้นายทักษิณสุขภาพแข็งแรง

เวลา 14.10 น. นายทักษิณเดินทางมาที่คลองแม่ข่า อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่กลางเมืองเชียงใหม่ โดยมีนายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และประชาชนมารอต้อนรับ ซึ่งนายทักษิณได้ทักทายประชาชนอย่างเป็นกันเอง โดยประชาชนที่มารอต้อนรับได้กล่าวว่า “ท่านคะ ยินดีที่ได้กลับบ้านเราค่ะ” ก่อนที่นายทักษิณจะเดินไปยังบริเวณสะพาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของถนนคนเดินคลองแม่ข่า

โดย น.ส.แพทองธารได้อธิบายถึงบริเวณดังกล่าวว่าเป็นโอตารุเมืองไทยที่จะมีนักท่องเที่ยวมาเดินเล่นในช่วงเย็น ซึ่งนายทักษิณได้สอบถามเกี่ยวกับการบริหารจัดการและการขุดลอกคลองกับร.อ.ธรรมนัส เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงวัตถุประสงค์ในการลงพื้นที่ดูโครงการต่างๆ ในพื้นที่เชียงใหม่ นายทักษิณตอบว่า เพราะเป็นโครงการพิเศษ

ร.อ.ธรรมนัสให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ร่วมกับนายทักษิณว่า พื้นที่พืชสวนโลกเป็นพื้นที่ในกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรฯ หลังจากไปเดินชมภายในสวนก็เห็นว่าจะต้องดูแลอีกเยอะ ทั้งต้นไม้และอาคาร และวันนี้ที่ตนเองมา เป็นภารกิจของกระทรวงเกษตรฯ แต่ได้แลกเปลี่ยนความคิดและข้อเสนอแนะกับนายทักษิณ ซึ่งวันที่ 15 มี.ค. จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ได้เดินกับนายทักษิณ และทำให้ได้คิดถึงบรรยากาศสมัยที่ได้ทำงานร่วมกัน เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า อย่าไปคิดอย่างนั้น เรามาภารกิจของกระทรวง แต่ยอมรับว่านายทักษิณเป็นคนเก่งด้านพัฒนาบ้านเมือง ขณะที่พื้นที่พืชสวนโลกก็จะใช้เป็นโมเดล ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในภาคอีสาน และการลงพื้นที่ครั้งนี้ตนไม่กลัวว่าจะถูกเชื่อมโยงประเด็นการเมือง เพราะมาภารกิจของกระทรวง มาวันนี้ขออย่าไปเหมารวมกัน เพราะถือว่าเป็นภารกิจของราชการ

ต่อมา เวลา 17.50 น. ที่ภัตตาคารเจี่ยท้งเฮง ฟ้าฮ่าม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านอาหารจีนเก่าแก่ และเป็นร้านประจำของตระกูลชินวัตร นายทักษิณ น.ส.แพทองธาร และนายปิฎก มารับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคาร โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย รุ่น 08 จำนวน 38 คน และครอบครัวชินวัตรทั้งที่อยู่ จ.เชียงใหม่และ กทม.บางส่วน

นอกจากนี้ บุคคลสำคัญที่เดินทางมาร่วมทานอาหารเย็นด้วย อาทิ เจ้าสัว คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอา กรุ๊ป โฮดิ้งส์ จำกัด, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า, นายเกรียง กัลป์ตินันท์, พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และนักการเมืองท้องถิ่นจำนวนหนึ่ง โดยทันทีที่นายทักษิณเดินทางมาถึง มีประชาชนมารอให้กำลังใจและมอบดอกกุหลาบเพื่อแสดงความยินดีที่ได้กลับมา จ.เชียงใหม่

เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงอาการป่วยว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายทักษิณตอบว่า “ดีขึ้นเยอะ เหลืออีกนิดหนึ่ง”

หลังจากนั้นนายทักษิณเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 ของร้าน ซึ่งมีกลุ่มเพื่อน ญาติๆ มารออยู่แล้ว และส่วนมากได้สวมเสื้อสีแดง เมื่อนายทักษิณ เข้าไปด้านในห้องได้มีเสียงปรบมือและเสียงเฮ พร้อมกับป้ายข้อความที่เขียนว่า “ขอต้อนรับเพื่อนปิ๊กบ้าน ดีใจ๋ขนาด” และ “ขอให้ท่านนายกฯ มีความสุข ตราบนิรันดร์” โดยตัวแทนเพื่อนจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยได้มอบช่อดอกไม้กุหลาบสีแดง และร้องเพลงมาร์ชมงฟอร์ต ทำให้นายทักษิณดีใจ พร้อมปรบมือเป็นระยะ ก่อนที่จะเข้าไปสวมกอดตบไหล่ ขอบคุณกลุ่มเพื่อนๆ จากนั้นได้ร่วมรับประทานอาหารเป็นการภายใน

ข้องใจนี่หรือป่วยวิกฤต

ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีไม่มี สส.เพื่อไทยไปรอต้อนรับนายทักษิณที่ จ.เชียงใหม่ ว่า สส.พรรคเพื่อไทยทั้งหมด รวมถึง สส.พรรคร่วมรัฐบาล ต่างอยู่ร่วมการประชุมสภา ไม่ได้มีการเดินทางไปที่ไหนอย่างที่ตนเองเคยบอก เพราะเราเป็นองค์ประชุม หน้าที่ความรับผิดชอบของเราอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎร

ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายทักษิณลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า สิ่งที่คาใจของสังคมคือเรื่องของสุขภาพ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลบอกมาตลอดว่านายทักษิณสุขภาพย่ำแย่ แล้วอยู่ๆ ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน นายทักษิณสามารถเดินทางออกจากโรงพยาบาลได้ และหลังจากอยู่บ้านเพียงไม่กี่วันสามารถเดินทางไปที่ จ.เชียงใหม่ได้ จึงเกิดความคาใจว่าตกลงแล้วรัฐบาลหลอกเราหรือไม่ หากรัฐบาลหลอกไม่ตรงไปตรงมากับประชาชน ก็ถือว่าเป็นรัฐบาลที่ใช้ไม่ได้ ดังนั้นหากนายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง คิดว่า เมื่อรัฐบาลหลอกประชาชนก็ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน

วันเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “นายทวีจะชี้แจงอย่างไร คนไทยไม่โง่” โดยเรียกร้องให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงกรณีที่ก่อนหน้านี้แถลงต่อสภาว่าอดีตนักโทษรายหนึ่งได้รับการพักโทษกรณีพิเศษ เพราะอายุเกิน 70 ปี และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรือได้น้อย มีคะแนนความช่วยเหลือตนเองต่ำกว่า 11  จากคนปกติจะมีคะแนน 20 คะแนน

"ภาพที่เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล ดูแล้วอดีตนักโทษรายนี้เดินเองได้ ไม่ต้องมีคนช่วยเหลือ ภาพรวมน่าจะช่วยตนเองได้ มีศักยภาพทำผิดซ้ำได้ มีโอกาสที่จะเป็นอันตรายต่อสังคม สภาพไม่เหมือนการมาใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว เชื่อได้ว่ามีการโกงการประเมินคะแนน เพื่อให้พักโทษกรณีพิเศษนายทวีจะชี้แจงอย่างไร" นพ.วรงค์กล่าว

ขณะที่ นายถาวร เสนเนียม อดีตผู้ชุมนุม กปปส. กล่าวว่า นายทักษิณเป็นนายทุนเจ้าของพรรคโดยพฤตินัย คนข้างนอกคิดอย่างนั้น ส่วนคนข้างในจะชี้แจงอย่างไรตนก็ไม่ทราบ ตนมองว่าตอนนี้ระบอบทักษิณกลับมาแล้ว นายทักษิณไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว สิ่งเหล่านี้ประชาชนจับตามอง และเจ็บปวด แต่ไม่มีโอกาสสู้รบและปรบมือ การย่ำยี ดูถูกจิตใจประชาชนว่าข้าพเจ้าป่วย คนที่เชื่อว่าป่วยก็มีอยู่ 2 หน่วยงาน คือแพทย์ที่เกี่ยวข้อง กับกรมราชทัณฑ์เท่านั้น แต่ในนาย ก. นาย ข. ที่เขาเห็นอยู่ เขาไม่เชื่อ

ถามว่า มองบทบาทของนายทักษิณต่อไปนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายถาวรกล่าวว่า อย่าย่ำยีประชาชนแบบซ้ำซาก ส่วนจะมีตำแหน่งในรัฐบาลหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งด้วยนิตินัย โดยพฤตินัยก็เป็นได้ ‘ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ’ เคยผ่านมาแล้ว คือโครงการรับจำนำข้าว

นายสุริยะใส กตะศิลา อดีตผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวว่า ทุกก้าวย่างของนายทักษิณจากนี้ต่อไปต้องระวังให้ดี การพักโทษเพิ่งผ่านมาได้ไม่กี่สัปดาห์ นายทักษิณเริ่มขยับเข้าสู่เส้นทางการเมืองเร็วไป เมื่อมีการขยับเข้าสู่เส้นทางการเมืองที่เร็วมากเกินไปนั้น ผู้คนก็จะเริ่มรู้สึกว่าช่วงที่ผ่านมาอาการป่วยของนายทักษิณนั้นเป็นเรื่องโกหกจนส่งผลต่อความความรู้สึกไม่พอใจของผู้คน

"แม้จะมีการขออภัยโทษแล้ว แต่ก็ยังพยายามที่จะมีอิทธิพลเหนือการเมืองไทย ต้องยอมรับว่า คนชอบก็มี แต่ก็ยังมีคนเจ็บแค้นจากปัญหาเก่าๆ อยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ต้องระมัดระวังให้ดี" นายสุริยะใสกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง