7วันอันตราย เริ่มต้นดับ39 เหตุขับรถเร็ว

ประเดิม 7 วันอันตรายปีใหม่ 65 ดับ 39 ศพ เจ็บ 362 ราย อุบัติเหตุ 362 ครั้ง โคราชแชมป์ตาย ขับรถเร็วสาเหตุหลัก นายกฯ ห่วงขอประชาชนยึดหลัก "3 ม." บิ๊กป๊อกสั่งผู้ว่าฯทั่วประเทศเข้มดูแลความปลอดภัยทางถนนคู่มาตรการสกัดโควิด ถนนมิตรภาพ-เอเชียปริมาณรถหนาแน่น แห่กลับภูมิลำเนา

ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แถลงว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธ.ค.64 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ "ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ" เกิดอุบัติเหตุ 362 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 39 ราย ผู้บาดเจ็บ 362 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 34.60 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.80 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.30 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 83.90 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 36.80 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 34.60 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 15.01- 18.00 น. ร้อยละ 22.70 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.94

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,875 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 5,721 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 360,412 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 62,932 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 18,142 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 7,939 ราย รถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย 5,007 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ราชบุรี (13 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (5 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เลย (14 คน) อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสถานการณ์การเดินทาง พบว่าประชาชนเริ่มเดินทางตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.64 ต่อเนื่องถึงวันที่ 30 ธ.ค.64 ทำให้เส้นทางหลายสายมีปริมาณรถหนาแน่น โดยเฉพาะทางหลวงสายหลักเส้นทางเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่างๆ และเส้นทางเลี่ยงเมือง

"จึงได้ประสานจังหวัดดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ควบคู่กับการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กำชับจุดตรวจเพิ่มความเข้มข้นในการเรียกตรวจยานพาหนะและความพร้อมของผู้ขับขี่ เน้นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วเกินกำหนด ดื่มไม่ขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงเฝ้าระวังถนนทางตรงที่มีระยะทางยาวเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากการขับรถเร็ว ท้ายนี้ ขอฝากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด มีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง เพื่อให้การเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่มีความสุขใจกับชีวิตวิถีใหม่ที่ห่างไกลอุบัติเหตุทางถนน" อธิบดี ปภ.ระบุ

ทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่กำลังจะเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาเพื่อพบปะครอบครัว เยี่ยมญาติผู้ใหญ่ หรือการเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกันแล้ว และบางส่วนกำลังจะเดินทางในช่วงเย็นวันที่ 30 ธ.ค. โดยได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินมาตรการในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเข้มข้น รวมทั้งอำนวยความสะดวกดูแลประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนควบคู่การสกัดกั้นการระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ ได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้ดำเนินการตามแผนและมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ควบคู่ไปกับการสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนน ให้ความสำคัญกับการบูรณาการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านชุมชนเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน การลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อมโดยการปิดจุดเสี่ยงด้านกายภาพบนท้องถนนต่างๆ โดยเฉพาะทางร่วม ทางแยกและทางกลับรถ โดยให้ตรวจสอบสภาพถนน ติดตั้งป้ายให้ชัดเจน และบริเวณจุดตัดทางรถไฟให้มีความปลอดภัย รวมถึงประชาสัมพันธ์ผู้ใช้รถใช้ถนนให้มีการตรวจสอบยานพาหนะให้พร้อมสำหรับการเดินทาง ตลอดจนให้ตรวจสอบสภาพรถโดยสารสาธารณะและรถโดยสารไม่ประจำทางให้มีความปลอดภัย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ก่อนจะเริ่มวันหยุดยาวต่อเนื่องตั้งแต่วันที่่ 31 ธ.ค. นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงประชาชนและขอให้ประชาชนร่วมกันปฏิบัติตามหลัก 3 ม. “ไม่เมา-สวมหมวก-ใส่แมสก์” ดูแลอนามัยส่วนบุคคล ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน ลดการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ป้องกันการแพร่ระบาดจากการเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อพบปะครอบครัวและเครือญาติด้วยความสุขและปลอดภัย

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 พร้อมมอบของใช้จำเป็นในการปฏิบัติงานให้กับเจ้าหน้าที่ รวมถึงได้พูดคุยให้กำลังใจในพื้นที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดปัตตานีว่า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการเดินทางสัญจรไปมาอย่างระมัดระวัง และขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันมีการตรวจเข้มตามด่านต่างๆ โดยเฉพาะด่านในชุมชนหรือหมู่บ้าน ซึ่งผู้นำชุมชนไม่ควรปล่อยให้เมาสุราแล้วขับรถโดยเด็ดขาด 

ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมารายงานว่า ตั้งแต่ช่วงบ่าย สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพช่วงผ่านจังหวัดนครราชสีมา มีปริมาณรถหนาแน่น โดยเฉพาะช่วงทางขึ้นเขาตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงต้องเปิดช่องทางพิเศษ ตั้งแต่ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 47 ไปจนถึงช่วงหลักกิโลเมตรที่ 51 เป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร เพื่อเร่งระบายปริมาณรถที่หนาแน่น ขณะที่ถนนมิตรภาพบายพาสเลี่ยงเมืองนครราชสีมาก็มีปริมาณรถสะสมมากเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ตำรวจทางหลวงยังได้แนะนำเส้นทางการจราจรเลี่ยงปัญหารถติดบนถนนมิตรภาพมุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน จำนวน 3 เส้นทาง เส้นทางที่ 1 ใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ-สระบุรี-เลี้ยวขวาสามแยกพุแค-เข้าถนนพุแคหล่มสัก ทล.21-เลี้ยวขวาแยกม่วงค่อม เข้าสู่ ทล.2256 หรือเลี้ยวซ้ายเข้า ทล.205 เพื่อเข้าสู่ ทล.201-ไปยังจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย เส้นทางที่ 2 ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-ใช้ ทล.304-พนมสารคาม-กบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว-ปักธงชัย-ไปยังจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี และเส้นทางที่ 3 ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-สระแก้ว- อรัญประเทศ-ตาพระยา-โนนดินแดง-ละหานทราย-ไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ขณะที่ถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าสู้จังหวัดทางภาคเหนือ ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 13 ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน ปริมาณรถเพิ่มมากขึ้นหนาแน่น วิ่งเต็มทุกช่องทางการจราจร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง