นายกฯ อวยพรปีใหม่คนไทย ขอเริ่มต้นสิ่งใหม่ นำปีที่ผ่านมาเป็นบทเรียน ให้มีสติรอบคอบ ตั้งมั่นความสามัคคีปรองดองเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน "สภาล่าง-สภาสูง" ผวา "โอมิครอน" หลังปีใหม่ สั่งงดประชุมตลอดสัปดาห์ "ชวน" หวดองค์ประชุมล่ม ส.ส.อ้างต้องลงพื้นที่พบประชาชนฟังไม่ขึ้น "ธรรมนัส-อดีต รมช.เกษตรฯ" คู่แค้น "บิ๊กตู่" ปิดปากไม่ขอวิจารณ์การทำงานรัฐบาล แต่ยกก้นตัวเองทำงานดีมาก ฝ่ายค้านท้า "ประยุทธ์" ยุบสภาก่อน ส.ค. เส้นตายเดดไลน์อยู่ครบ 8 ปี
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม เวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวคำปราศรัยเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.2565 ว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รัก ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2565 ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยร่วมกันตั้งจิตอธิษฐาน อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและพลานุภาพแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลประทานพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ สถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าพสกนิกรชาวไทยตราบกาลนาน
"ในปีพุทธศักราช 2564 ที่ผ่านมา พวกเราชาวไทยต้องพบกับเหตุการณ์ต่างๆหลายอย่าง เราต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น เราต้องประสบกับอุทกภัยหลายพื้นที่ ผมขอขอบคุณในความร่วมมือร่วมใจของข้าราชการ บุคลากร เจ้าหน้าที่ภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน อาสาสมัครและพี่น้องชาวไทยทุกคน ที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขบรรเทาเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งส่งมอบกำลังใจและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ทำให้ได้เห็นถึงพลังแห่งความรักและความสามัคคีที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในจิตใจคนไทยทุกคน จนวันนี้พวกเราสามารถเดินหน้าก้าวพ้นอุปสรรคต่างๆ มาได้ด้วยดี" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ในศักราชใหม่นี้ ถือเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ โดยนำเอาประสบการณ์ในปีที่ผ่านมา มาเป็นบทเรียนในการปรับวิถีชีวิต เพื่อที่จะได้ดำรงตนอยู่ด้วยความมีสติ รอบคอบ ไม่ประมาท และตั้งมั่นในความสามัคคีปรองดองเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันจะเป็นประโยชน์แก่ตนเองและประเทศชาติโดยรวม ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน จะได้ใช้ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองนี้ร่วมกับครอบครัวและญาติมิตร รวมทั้งปฏิบัติตนให้อยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่สาธารณสุขกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ตลอดจนการเดินทางสัญจรโดยคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น เพื่อทำให้เทศกาลปีใหม่นี้ มีแต่ความสุข ความทรงจำที่ดี และก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ด้วยจิตใจที่เปี่ยมล้นด้วยพลังต่อไป
"เนื่องในวาระวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.2565 ผมขออัญเชิญอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย อีกทั้งเดชะพระบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โปรดดลบันดาลประทานพรให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ประสบแต่สิ่งอันเป็นมงคล ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและภัยอันตรายทั้งปวง มีพลังกายพลังใจที่เข้มแข็ง และสัมฤทธิผลในสิ่งพึงปรารถนาทุกประการโดยทั่วกัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
รัฐสภาผวาโอมิครอนสั่งงดประชุม
วันเดียวกัน นายพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งข้อความในไลน์ของผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (สผ.) ระบุว่า ตามที่มีหนังสือสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แนวปฏิบัติของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐภายหลังเทศกาลปีใหม่ ลงวันที่ 30 ธ.ค.2564 ประกอบกับประธานสภาผู้แทนราษฎรมีดำริงดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 5-6 ม.ค.2565 จึงขอให้ข้าราชการและบุคลากรปฏิบัติงานนอกสถานที่ WFH เต็มรูปแบบ (100%) ตั้งแต่วันที่เสาร์ที่ 1-วันอาทิตย์ที่ 9 ม.ค.2565 ทั้งนี้ บุคลากรสามารถเข้ามาปฏิบัติงานในสำนักงานได้ตามความจำเป็น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้อำนวยการและรองเลขาธิการที่กำกับโดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานและภารกิจของส่วนราชการ
เช่นเดียวกับทางฝ่ายวุฒิสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา มีคำสั่งให้นัดประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 15 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันที่ 4 ม.ค.65 แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับเพื่อเป็นการดำเนินการตามมาตรการของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 40) ข้อ 2 ในการให้ความร่วมมือเพื่อการเฝ้าระวังป้องกันการระบาดของโรคภายหลังช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงมีคำสั่งให้งดการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 15 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันที่ 4 ม.ค.65 สำหรับกำหนดการประชุมวุฒิสภา จะได้มีการปรึกษาหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญกิจการวุฒิสภา และจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป" หนังสือแจ้งจากประธานวุฒิสภาระบุ
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาองค์ประชุมล่มที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงเดือนธันวาคม 2564 ว่าสังเกตว่าองค์ประชุมจะมีปัญหาในช่วงตอนเย็น ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงว่ามีสมาชิกส่วนหนึ่งกลับไปก่อนหรืออยู่ในห้องประชุม แต่ไม่แสดงตน ซึ่งแตกต่างกับสมัยก่อน ที่เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะกรณีฝ่ายค้านถูกรัฐบาลกลั่นแกล้งก่อน แต่ปัจจุบันใช้เกินไปมาก ใช้ฟุ่มเฟือย ใช้มากเกินไป อาจจะทำให้ภาพพจน์สภาเสียหายด้วยกันทุกฝ่าย และเมื่อมีพระราชกิจจานุเบกษาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านแล้ว จะมีการหารือปัญหาดังกล่าวอีกครั้ง
เมื่อถามถึงข้อโต้เถียงเรื่องการเป็นองค์ประชุมของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลนั้น นายชวนกล่าวว่า โดยหลักแล้วการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นเรื่องของทุกฝ่าย ทุกคนมีหน้าที่มาประชุมร่วมกัน ตนย้ำมาตลอดว่ารัฐบาลมีเสียงข้างมาก จึงเป็นภาระเบื้องต้นที่จะต้องนำองค์ประชุมมาให้ครบ ถ้ารัฐบาลมีเสียงข้างน้อยก็อยู่ไม่ได้ แต่ถ้ามองว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล บอกได้เลยว่าเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะทำให้องค์ประชุมครบ บางทีบางเรื่องถ้ามีการหารือกันก่อนก็จะจบด้วยดี เช่น เรื่องระเบียบวาระ หากต้องการสลับก็ควรหารือกันก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น เพราะจะทำให้เสียเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินแล้วปีหน้าอาจจะเกิดปัญหาเรื่ององค์ประชุมไม่ครบมากกว่าปี 2564 เพราะ ส.ส.จะลงพื้นที่มากขึ้นโดย นายชวนกล่าวว่า จากเดิมที่จะนัดประชุมเพิ่มเติมในวันศุกร์ แต่ ส.ส. บางคนติดนัดหมายลงพื้นที่ ดังนั้นจึงเสนอว่าการประชุมในวันพุธและพฤหัสบดีจะต่อเวลาการประชุมจากเดิมไปอีก 2-3 ชั่วโมง หากเป็นเช่นนี้ได้ ก็จะพยายามไม่นัดประชุมพิเศษในวันศุกร์ แม้ทุกคนลงพื้นที่มากขึ้น แต่หน้าที่หลักของ ส.ส.ก็คือต้องมาประชุมสภา ทำหน้าที่อนุมัติกฎหมาย รวมถึงเห็นชอบหรือคัดค้านญัตตินี้คือหน้าที่โดยตรง ไม่อาจจะอ้างได้ว่าต้องอยู่กับชาวบ้าน คิดว่าสามารถทำความเข้าใจเรื่องนี้ได้ด้วยดีและเป็นความรับผิดชอบที่แต่ละพรรคการเมืองควรจะได้แจ้งลูกพรรคได้ทำหน้าที่
ลั่นเอาแน่ยื่นตีความวาระบิ๊กตู่
สำหรับกรณีปัญหาข้อกฎหมายเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นกรณีข้อสงสัยวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ที่บางฝ่ายมองว่าจะครบ 8 ปี ในเดือนสิงหาคมปี 2565 ว่า เป็นเรื่องที่ถกเถียงว่าเริ่มนับวาระในช่วงใดจะนับย้อนหลังสมัยที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่ หรือนับหนึ่งตั้งแต่การเลือกตั้งใหญ่ทั่วไปเมื่อปี 2562 คงไม่มีใครตอบได้ชัดเจนเต็มร้อย คนที่จะตอบได้คือศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็จะต้องมีผู้ยื่นไปถามก่อน
ประเด็นเดียวกันนี้ มีความชัดเจนจากพรรคฝ่ายค้าน โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังคงดำรงตำแหน่งอยู่ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2565 เป็นต้นไป ถือว่ามีเหตุอันควรที่จะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะพรรคเพื่อไทยมองว่านายกฯ ดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ในวันที่ 23 ส.ค.65 เพราะเริ่มนับหนึ่งวันที่ 24 ส.ค.57 ที่ฝ่ายค้านต้องรอให้ถึงช่วงเวลาดังกล่าว เพราะถือว่าครบองค์ประกอบตามลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 และ 264 เพราะหากยื่นไปก่อนหน้านั้น จะยังไม่เข้าเงื่อนไข ทางที่ดีเมื่ออยู่ครบวาระ 8 ปีแล้ว นายกฯ ควรประกาศลาออกหรือยุติการดำรงตำแหน่งเพื่อให้มีการแต่งตั้งบุคคลที่สมควรเป็นนายกฯ คนใหม่มาทำหน้าที่ หรือจะเลือกคืนอำนาจให้ประชาชนก่อนครบวาระก็ได้ด้วยการยุบสภา ถือเป็นการลงจากตำแหน่งที่สวยงาม คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
ด้านความเห็นทางการเมืองอื่นๆ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวตอบถึงข้อซักถามว่ามีการวิเคราะห์หรือไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะนำพาประเทศให้หลุดพ้นปัญหาต่างๆ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้หรือไม่ว่า เราต้องเข้าใจผู้บริหารเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี ที่บริหารบ้านเมืองในภาวะสถานการณ์ที่บ้านเมืองไม่ปกติ ไม่ว่าจะบริหารดีอย่างไร ถ้าไม่มีเงินก็ไปไม่รอด อารยประเทศประสบปัญหาตอนนี้คือเรื่องเงินหรือรายได้เข้าประเทศ รายได้เราจากการบริหารประเทศปีละประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท แต่พอมาเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 คนตกงานเยอะ ภาษีได้น้อยกว่าปกติ เป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลชุดนี้บริหารงานย่างเข้าปีที่ 3 ปีแรกไปได้ดี ปีที่ 2 เริ่มมีโควิด-19 เข้ามา และมีสารพัดปัญหาเข้ามา โดยส่วนใหญ่คือเรื่องกับแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องใช้งบประมาณในการแก้ปัญหา ลองผิดลองถูก
"ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลบริหารมาไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ขอให้ดูตอนที่ผมเป็นรัฐมนตรี ทำงานเต็มที่ นำปัญหาของชาวบ้านมาศึกษาและไปแก้ไขอย่างทันท่วงที เป็นสิ่งที่ทำมาตลอด และเมื่อได้รับมอบหมายงานจากนายกฯ และรองนายกฯ ผมทำอย่างเต็มที่ ติดตามให้บรรลุผลโดยเร็ว เพื่อนำนโยบายภาครัฐไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับประชาชนที่สุด" เลขาธิการพรรค พปชร.กล่าว
พท.โวแลนด์สไดล์กวาด 253 เก้าอี้
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี ร.อ.ธรรมนัส แสดงความมั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคพลังประชารัฐจะได้ ส.ส.เข้ามาอีกจำนวนมากว่า เป็นความเห็นของเลขาฯ พรรคพลังประชารัฐ คงไม่มีใครบอกว่าจะได้ ส.ส.น้อยลง แต่จะเป็นไปเช่นนั้นหรือไม่ต้องดูบริบทในการเลือกตั้งทั้งหมด ต้องถาม ร.อ.ธรรมนัส ว่ามีเหตุผลอะไรสนับสนุนความเชื่อนี้ ไม่ขอก้าวล่วงความเห็นของพรรคการเมืองใดๆ แต่มองว่าสิ่งที่ร.อ.ธรรมนัสพูด เป็นประเด็นให้เราหันกลับมามองตัวเองว่าทำงานหนักพอแล้วหรือยัง ที่จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
"พรรคเพื่อไทยตระหนักตลอดเวลาว่าถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม ต้องลบล้างภาพจำที่เกิดขึ้นตลอด 7 ปีที่ผ่านมาออกจากความทรงจำของประชาชน และให้ประชาชนช่วยลบสิ่งที่เกิดขึ้นใน 7 ปีให้ได้ เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นโอกาส เป็นความหวัง เป็นอนาคตให้ประชาชนในการเลือกชีวิตใหม่ที่ดีกว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้เราต้องได้เสียงประชาชนอย่างถล่มทลายไม่ต่ำกว่า 253 เสียง ซึ่งมั่นใจว่าเราจะต้องทำให้ได้" นพ.ชลน่านกล่าว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมตัวของพรรคในการเลือกตั้งใหญ่ ที่หลายคนคาดการณ์ว่าจะมาเร็วกว่ากำหนดว่า การเลือกตั้งจะมาถึงเมื่อใดคาดการณ์ยาก ส่วนจะเกิดอุบัติเหตุการเมืองในปี 2565 หรือไม่ ตอบยาก ไม่มีใครตอบได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลอยู่ครบเทอม เส้นขีดชัดเจน ต้องมีเลือกตั้งในเดือนมีนาคม ปี 2566 ทั้งนี้ อุบัติเหตุการเมืองที่จะเกิดขึ้นได้ตามวิถีประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาเกิดได้ 2 ทาง คือ 1.รัฐบาลลาออก และ 2.ยุบสภา พรรคเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งไว้แล้วทั้งตัวผู้สมัครและนโยบาย โดยตัวบุคคลมีทั้งอดีต ส.ส. ส.ส.ปัจจุบัน และมีเลือดใหม่คนรุ่นใหม่จำนวนมาก โดยสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลง ภาคต่างๆ ไม่มีพรรคใดได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จึงเป็นเรื่องธรรมดาในการแข่งขันของบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อุ๊งอิ๊ง' ดูไว้! นักการเมืองต้องรักษาสัจจะเหมือน 'อภิสิทธิ์' เคยหาเสียงไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์
เมื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวในงานอีเวนต์ ”10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10“ ว่า พรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกตั้งรัฐบาลผสม
ระลึกถึงคำปฏิญาณ พระราชดำรัสแก่12รมต. พิชิตนัดแจงทุกปม7พ.ค.
"ในหลวง" พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกฯ นำรัฐมนตรีใหม่เข้าเฝ้าฯ
‘เพื่อไทย’เปิดตัวชิงเก้าอี้‘อบจ.’
เพื่อไทยจัดงาน "10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10" “สรวงศ์” ประกาศความพร้อมสู้ศึกนายก
‘พท.’รับเดิน2ขาแก้รธน. ก.ก.ขีด1ด.รื้อประชามติ
“เพื่อไทย” ประกาศยุทธศาสตร์เดิน 2 ขา ฝ่าด่านรัฐธรรมนูญ
‘อิ๊งค์’ซัด‘ธปท.’ฉุดฟื้นเศรษฐกิจ
“อุ๊งอิ๊ง” กร้าวฉะแบงก์ชาติเป็นปัญหาแก้เศรษฐกิจ ยึดติดแต่คำว่าอิสระ
นิดตามแม้ว‘นายกฯพบปชช.’
ถึงคิว "เศรษฐา" โคลนนิงนายกฯ พบประชาชน ขอจ้อส่งตรงกับชาวบ้านเดือนละครั้ง