เริ่ม7วันอันตราย หวังลดอุบัติเหตุ เทียบ3ปีย้อนหลัง

เริ่มแล้ว 7 วันอันตรายหยุดยาวสงกรานต์ ศปถ.ตั้งเป้าลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ-ยอดผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลสงกรานต์เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง “อุ๊งอิ๊ง” ขายฝันอีก ลั่นพร้อมยกระดับเทศกาลสาดน้ำเมืองไทย

เริ่มเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งวันศุกร์ที่ 12 เมษายน คือวันแรกของการหยุดยาว 5 วันช่วงเทศกาลสงกรานต์ตามการทำงานของหน่วยงานราชการ

ในส่วนของการเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 และประธานการประชุมคณะกรรมการ ศปถ.1/2567 โดยมีนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดี ปภ. พร้อมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานภาคีเครือข่าย เข้าร่วมประชุม และประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด 

โดยนายเกรียงกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ ศปถ. โดย ปภ. กระทรวงมหาดไทย บูรณาการทุกหน่วยงานในรูปแบบของ ศปถ. ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 เพื่อขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 ภายใต้แนวคิด "ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ"  และแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567

“ให้บรรลุเป้าหมายในการลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลสงกรานต์เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง โดยในช่วงควบคุมเข้มข้นระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2567 ที่มุ่งลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งคน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและสร้างวินัยจราจรให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน”

นายเกรียงกล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาในประเด็นเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อกำหนดโทษสูงสุดสำหรับผู้ที่ดื่มแล้วขับหากประสบอุบัติเหตุจนส่งผลให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตทั้งในช่วงเทศกาลและช่วงปกติ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาข้อเสนอของมารดาของ "หมอกระต่าย" (พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล) จำนวน 5 ข้อ ได้แก่ 1.ทางม้าลายต้องปลอดภัย 2.หยุดรถให้คนข้าม 3.บังคับใช้กฎหมาย 4.ออกกฎหมายใหม่ 5.ปรับบทลงโทษ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนบริเวณทางข้ามเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และรายงานความก้าวหน้าให้คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนทราบต่อไป

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดี ปภ. ในฐานะเลขานุการ ศปถ. กล่าวว่า ศปถ.จะเป็นศูนย์กลางในการอำนวยการสั่งการและเชื่อมโยงการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน กับศูนย์ปฏิบัติการฯ ระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยตลอด 7 วันของการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนน ตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2567 จะมีการประชุมร่วมกับ ศปถ.จังหวัด ติดตามสถานการณ์ วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุในพื้นที่ เพื่อวางมาตรการและปรับแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละพื้นที่ และจะมีการแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 เป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 12-18 เมษายน 2567 เพื่อให้ประชาชนรับทราบนโยบายและมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของรัฐบาล รวมถึงย้ำเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนตระหนักถึงความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน และมีจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนน

วันเดียวกันนี้ ที่ศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุ กรมทางหลวง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตรวจ เยี่ยมและมอบนโยบายการเตรียมความพร้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรือง รมว.คมนาคม ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมผู้บริหารกระทรวงต้อนรับ

นายสุริยะกล่าวว่า ทางหลวงได้เดินตามแผนป้องกันบูรณาการลดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงคุมเข้ม 7 วัน ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. โดยเตรียมความพร้อมทางหลวง ดูแลซ่อมแซมรักษาเส้นทาง การดูแลความปลอดภัยแก้ไขจุดเสี่ยงที่อันตราย ปิดจุดทางร่วม และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการคืนพื้นผิวจราจรในการก่อสร้าง และย้ำดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มที่ สำหรับเส้นถนนพระราม 2 ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างทั้งหมดหยุดงานเพื่อคืนพื้นผิวการจราจร และเตรียมเปิดช่องทางจราจรเพื่อระบายรถ โดยสภาพการจราจรวันนี้ยังคล่องตัวจากต่างระดับบางขุนเทียนจนถึงหัวหินใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

ด้านนายเศรษฐากล่าวว่า มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาหากสังเกตตอนที่อยู่ภาคเอกชน พาดหัวข่าวที่ขึ้นตามหนังสือพิมพ์จะมีระบุจำนวนคนตายเท่าไหร่ จากกรุงเทพฯ ไปเขาใหญ่เท่าไหร่ ตรงนี้ชัดเจนว่าจำนวนรถติดน้อยลงกว่ามาก จำนวนผู้เสียชีวิตก็น้อยลง เป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความใส่ใจ ตลอดเวลา ถือเป็นเรื่องดี พอไม่มีใครบ่น คนที่ถูกปิดทองหลังพระก็ถูกลืม แต่ตนไม่ลืม และพูดกับรัฐมนตรีตลอดเวลาว่าต้องขยายผล ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาถือเป็นช่วงปีใหม่ที่ดีที่สุดช่วงเวลาหนึ่งและบางเส้นทางจะติดตลอดเวลา แต่บางพื้นที่ที่เปิดการจราจร เช่น เอ็ม 6 จ.นครราชสีมา ก็ทำให้ประชาชนเดินทางเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวโดยไม่ต้องเสียเวลาหลายชั่วโมง ยอมรับว่าช่วงสงกรานต์จะติดมากขึ้น และปริมาณจะสูงกว่าช่วงปีใหม่ รถติดจะมีแน่นอน แต่การบริหารจัดการที่ดีและการใส่ใจการจราจรจะทำให้ไม่ติดมากเท่ากับที่ไม่มีการบริหาร รัฐบาลขอบคุณทุกคน ทั้งกรมทางหลวง การท่าอากาศยานฯ การท่าเรือฯ บขส. รถไฟ รวมถึงตำรวจที่ช่วยดูแล คุณเป็นตัวอย่างที่ดีกับข้าราชการ

ต่อมานายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า  ในช่วงปีใหม่ไทยคาดว่าจะมีรถเพิ่มเกือบ 20% อาจจะมีรถติดบ้าง แต่จะทำให้ดีกว่าปีที่ผ่านมา และขอฝากอย่าให้มีเรื่องดื่มแล้วขับ โดยกำชับทางตำรวจให้เคร่งครัดในเรื่องนี้

วันเดียวกัน ที่ฟาวน์เทนสแควร์ คิง  เพาเวอร์ รางน้ำ ถนนรางน้ำ เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงาน "คิง เพาเวอร์ อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ 2567" โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ​ พันธุ์​เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมงานด้วย

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่พิเศษมากกว่าทุกปี เนื่องจากยูเนสโกได้คัดเลือกให้สงกรานต์ของไทยอยู่ในบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ​ ถือเป็นความภูมิใจของคนไทยทุกคน เทศกาลสงกรานต์ในทุกปีถือเป็นเทศกาลที่สำคัญมากสำหรับคนไทย​ นอกจากจะเป็นวันปีใหม่ของไทยแล้ว​ ยังเป็นวันที่ทำให้ครอบครัวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา และวันปีใหม่ไทยนี้เป็นวันที่เราจะสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่และเริ่มอะไรดีๆ ใหม่ๆ ได้ และขออวยพรให้กับประชาชนเดินทางใกล้หรือไกล ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ พร้อมอย่าลืมว่า เมาไม่ขับ ง่วงไม่ขับ​

น.ส.แพทองธารกล่าวต่อว่า สงกรานต์ถือเป็น Festival Economy ไม่ว่าจะเกิดเทศกาลอะไรขึ้น​ ก็จะทรงพลังอำนาจที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากเข้ามามีส่วนร่วมในประเทศไทย​ เพื่อที่จะได้รู้ว่าประเทศไทยมีดีอย่างไรบ้าง โดยเมื่อเกิดเทศกาลทุกครั้ง ก็จะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมด้านการบิน​ โรงแรม​ อาหาร​ หรือร้านค้า มีนักท่องเที่ยวจำนวนหลักล้านเข้ามายังประเทศไทย ในฐานะที่เป็นรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์​แห่งชาติ​ มองเห็นถึงศักยภาพของสงกรานต์ว่ายังจะไปได้อีกไกล ทำให้สงกรานต์กลายเป็น VIP Address ของเทศกาล แม้ว่าจะติดขัด แต่ก็ได้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดงานสงกรานต์  ปีนี้จะเห็นการพัฒนาศักยภาพของสงกรานต์​ไทยไปสู่อีกระดับอย่างแน่นอน

ด้านนายก​รัฐมนตรี​ ทักทายแขกที่มาร่วมงาน​ พร้อมกล่าวเป็นภาษาจีนว่า   “หนีห่าว” และกล่าวว่า​ ถือเป็นโอกาสอันดีในวันขึ้นปีใหม่ไทยของทุกคนในประเทศ​ รวมถึงเป็นวันที่เราจะต้องดูแลผู้สูงอายุ ดูแลครอบครัว​ แสดงให้เห็นถึงความกตัญญูกตเวทิตา​ต่อผู้มีพระคุณทุกคน ในเทศกาลสงกรานต์​ เป็นเทศกาลที่เราจะมีการสนุกสนาน​ ทั้งประเพณี​ วัฒนธรรม​ อาหาร การสาดน้ำ ถือเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนมีความสุข ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่มาชื่นชมวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทย​

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ซึ่งการจัดงานครั้งนี้​ ถือเป็นเกียรติประวัติ​ ในการจัดงานครั้งแรกตั้งแต่ได้รับการขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้​ แสดงให้เห็นว่าซอฟต์​พาวเวอร์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของไทยคือสงกรานต์ จะต้องยกระดับขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง​ หวังว่าเทศกาลสงกรานต์ทุกคนจะมีความสุข สุขภาพแข็งแรง สนุกสนาน เดินทางกลับภูมิลำเนาและกลับมายังสถานที่ทำงานโดยปลอดภัย และอย่าลืมว่าเมาไม่ขับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง