‘ไหม’จี้เปิดแผนจ่ายหนี้ธ.ก.ส.

นายกฯ รีบปัดข่าวคนแห่ถอนเงิน ธ.ก.ส. ย้ำให้กฤษฎีกาตรวจสอบแล้วเรื่องกู้มาแจก “จุลพันธ์” ลั่นสภาพคล่องธนาคารเพียงพอ “ศิริกัญญา” จี้เปิดแผนชำระหนี้หลังยืมแล้วรวมกว่าแสนล้านบาท “กรณ์” ย้ำกฎหมายจัดตั้งธนาคารไม่เปิดช่องให้ใช้

เมื่อวันศุกร์ที่ 12 เม.ย.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวประชาชนแห่ถอนเงินออกจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธ.ก.ส.) หลังมีข่าวจะใช้เงิน ธ.ก.ส.ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ ว่าไม่จริง ไม่มี เพราะ ธ.ก.ส.มีการแถลงแล้วว่าพร้อม ตรงนี้ทุกอย่างดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบเรื่องของการใช้เงิน ธ.ก.ส.หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า มีการตรวจสอบอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องตรวจสอบได้ โปร่งใส ยืนยันทุกขั้นตอนต้องตรวจสอบได้และโปร่งใส ไม่ใช่แค่เรื่อง ธ.ก.ส. แต่เป็นทุกเรื่อง ต้องตรวจสอบได้และต้องโปร่งใส

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลังยืนยันว่า การใช้เงิน ธ.ก.ส. 1.7 แสนล้านบาทนั้น เป็นการใช้สภาพคล่องของทาง ธ.ก.ส. ที่ธนาคารบริหารจัดการได้ ไม่ใช่การกู้ที่กระทรวงการคลังต้องค้ำประกันอย่างแน่นอน

ขณะที่ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รมว.การคลัง โพสต์เฟซบุ๊กย้ำถึงผู้มีสิทธิ์ได้เงิน 10,000 บาท ในโครงการดิจิทัลฯ ว่า อายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน ทั้งอยู่ในระบบภาษีและไม่อยู่ในระบบภาษี ทั้งที่ยื่นแบบและไม่ยื่นแบบ โดยตัดผู้ที่มีรายได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาท/ปีออก และตัดผู้ที่มีเงินฝากในสถาบันการเงินพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐรวมกันทุกบัญชีเกิน 500,000 บาทออก ที่เหลือได้ทุกคน ซึ่งมีคนผ่านเงื่อนไขนี้ราว 50 ล้านคน

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การใช้เงินจาก ธ.ก.ส.มาทำเป็นนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตนั้น เป็นดีเอ็นเอเดียวกันกับโครงการรับจำนำข้าวในอดีต ว่า นายจุรินทร์ยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆ มากว่า 10 ปี เสมือนพายเรืออยู่ในอ่าง จึงไม่แปลกใจว่าทำไมความนิยมของพรรคต้นสังกัดของนายจุรินทร์ถึงไม่พัฒนาไปไหนเลย อีกทั้งยังดูตกต่ำลงด้วยซ้ำ

น.ส.เกณิกากล่าวว่า การมีข้อกังวลว่าจะใช้เงินของเกษตรกรจาก ธ.ก.ส.มาใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ นายกฯ ได้ย้ำแล้วว่าจะให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ ทุกอย่างต้องถูกต้องตามกฎหมาย รัฐบาลเข้าใจว่าหลายฝ่ายมีความกังวลเรื่องการกู้เงิน รัฐบาลก็พยายามหาทางลดความเสี่ยง และนายกฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินโครงการที่จะต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องเป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

“นายจุรินทร์สามารถท้วงติงและเสนอแนะข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลและการบริหารประเทศไทยได้ แต่ไม่ใช่เอาผลประโยชน์ของประชาชนมาเป็นเครื่องมือตีกินเพื่อหวังผลทางการเมือง ขอฝากให้นายจุรินทร์มองไปที่ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ มากกว่าการเปรียบเทียบหรือสร้างวาทกรรมใดๆ เพื่อด้อยค่าโครงการที่มีเป้าประสงค์หลักคือประชาชนมาเป็นอันดับแรก” น.ส.เกณิกากล่าว

ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวในเรื่องนี้ว่า การยืมเงินจาก ธ.ก.ส.มีเรื่องน่ากังวล 2 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกพระราชบัญญัติ ธ.ก.ส. ระบุวัตถุประสงค์ไว้ชัดเจน และจะตีความได้อย่างไรต้องให้กฤษฎีกาตีความ แม้ว่าตอนแถลงข่าวปลัดกระทรวงการคลังยืนยันว่ากระทรวงการคลังตรวจสอบแล้ว และถูกต้องตามกฎหมาย แต่วันนี้นายกฯ ก็รับลูกในสิ่งที่ได้เสนอแนะไปว่าควรส่งให้กฤษฎีกาตีความก่อน เพื่อความถูกต้องในการทำโครงการ เพราะหากเป็นคนทั่วไปตีความก็อาจทำให้โครงการไปต่อไม่ได้

น.ส.ศิริกัญญากล่าวต่อว่า เรื่องที่สองความพร้อมของ ธ.ก.ส.ที่ต้องเตรียมเงินเพื่อรองรับโครงการ แม้รัฐบาลยืนยันสภาพคล่องว่ามีเพียงพอ แต่อาจยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขว่าตัวเลขสภาพคล่องอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ แล้ว ธ.ก.ส.จะมีความสามารถนำเงินในสภาพคล่องนั้นมาใช้ได้หรือไม่ ในเมื่อรัฐบาลก็ได้หยิบยืมเงิน ธ.ก.ส.ไป 8 แสนล้านบาทแล้ว หากรวมก้อนใหม่ที่จะใช้ทำโครงการต่อก็ทะลุ 1 ล้านล้านบาท ขอเรียกร้องแทน ธ.ก.ส. เจ้าของเงินฝากและเจ้าของสลาก ธ.ก.ส.ทั่วประเทศว่า ขอให้รัฐบาลเปิดเผยแผนการชำระหนี้ ว่าจะใช้หนี้ก้อนนี้อย่างไร จะใช้หมดภายในกี่ปี และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายมีจำนวนเท่าไหร่ อย่าใช้เงินของรัฐวิสาหกิจ โดยคิดประหนึ่งว่าเป็นเงินของรัฐบาลเอง เพราะมีหลายภาคส่วนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือได้รับผลกระทบจากการที่ใช้เงินของ ธ.ก.ส.เป็นจำนวนมาก และไม่ชำระหนี้คืนให้ตรงต่อเวลา

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว.โพสต์เฟซบุ๊กถึงแหล่งที่มาของเงินในโครงการเติมเงิน 10,000 บาทว่า รัฐบาลอาจทำผิดกฎหมาย 3 ฉบับ ทั้งกฎหมายงบประมาณ กฎหมายวินัยการเงินการคลัง และกฎหมาย ธ.ก.ส. โดยก้อนที่ 1.ผิดกฎหมายงบประมาณ เพราะวงเงินปี 2567 ที่ผ่านสภา ไม่มีมาตราใดกำหนดให้หน่วยงานใดมาใช้จ่ายเรื่องนี้ได้ หากเป็นเงินเหลือจ่ายก็ต้องส่งคืนคลัง หรือแม้เป็นงบกลางก็ต้องเป็นกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นซึ่งกรณีนี้ไม่เข้าข่าย ก้อนที่ 2 ยังไม่มีหน่วยงานใดตั้งงบประมาณก้อนนี้ไวัในร่าง พ.ร.บ.ปี 2568 และอาจไม่ผ่านสภาก็ได้ การจ่ายโดยไม่มีกฎหมายรองรับก็ผิดกฎหมายงบประมาณ และก้อนที่ 3 ใช้เงิน ธ.ก.ส.เพื่อหลีกหนีการกู้เงิน วงเงินหนี้สาธารณะและความผิดวินัยการเงินการคลัง แต่ก็ผิดกฎหมาย ธ.ก.ส.และเกินกรอบวงเงินงบประมาณทั้งปี 67-68 อยู่ดี ซึ่งสุดท้ายรัฐบาลอาจต้องกู้มาใช้หนี้ให้ ธ.ก.ส.ก็ไปผิดกฎหมายวินัยการเงินฯ ได้ อย่าดันทุรังทำผิดกฎหมายเลย สุ่มเสี่ยงติดคุกทั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีได้

ส่วนนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. กล่าวตอบโต้นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค พท. ระบุว่าพรรค ปชป.ในรัฐบาลชุดที่แล้วได้ใช้เงินของ ธ.ก.ส.ทำนโยบายประกันรายได้เกษตรกร แต่เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไม่ได้ ว่าพรรค พท.ต้องสำเหนียกในการรับฟัง การทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายค้าน และข้อท้วงติงของนายจุรินทร์ที่บอกว่ารัฐบาลอย่าทำอะไรสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย และขอให้ดำเนินโครงการแจกเงินให้ประชาชนผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ตอย่างตรงไปตรงมา ส่วนเงินกู้จาก ธ.ก.ส. นั่นคือภาระของรัฐบาล และเป็นภาระของประชาชนและประเทศ ส่วนกรณีนายดนุพรกล่าวหา ปชป.มีดีเอ็นเอที่ไม่เคยดำเนินนโยบายใดประสบความสำเร็จและเป็นที่จดจำของประชาชนนั้น เชื่อว่าไม่ได้ใช้สมองคิดก่อนพูด เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พรรค ปชป.มีผลงานเป็นที่ปรากฏมากมายและเกิดประโยชน์ต่อประชาชน

“ความจริงก็คือความจริง พี่น้องประชาชนเลือกพรรค ปชป. เพราะออกนโยบายที่คิดทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อประชาชนและประเทศให้เกิดความยั่งยืน ตั้งแต่การวางโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม รถไฟทางคู่ ถนน 4 ช่องจราจร พัฒนารายจังหวัดให้มีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยว ลูกหลานไปโรงเรียนได้ดื่มนม มีอาหารกลางวัน ได้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เรื่องสาธารณสุข เบี้ยผู้สูงอายุ ที่มีหลายพรรคนำไปขยายผลหาเสียงเกทับเรื่องจำนวนเงิน”นายราเมศกล่าว

นายราเมศกล่าวอีกว่า ปชป.ไม่มีนโยบายเลือกปฏิบัติ ไม่มีนโยบายที่คิดขึ้นมาเพื่อคดโกงงบประมาณแผ่นดิน ไม่มีความคิดเรื่องทุจริตเชิงนโยบาย และไม่มีดีเอ็นเอสายกรรมพันธุ์แบบโกงบ้านเมือง ทั้งนี้โฆษกพรรคเพื่อไทยทราบดีว่าคดีมหากาพย์โกงชาติที่มีจำนวนมากที่สุด และศาลมีคำพิพากษาให้ถึงที่สุดแล้วนั้น เกิดขึ้นในรัฐบาลใด ดังนั้นอย่ามาแถลงให้ตัวเองดูดี แต่สวนทางความเป็นจริง ซึ่งเป็นการชี้นิ้วว่าคนอื่น แต่อีกสี่นิ้วชี้เข้าหาตัวเอง ถ้าคิดว่าใครในพรรค ปชป.ทำผิด ก็ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอย่าละเว้น และถ้าคิดว่าโครงการรับจำนำข้าวดีจริง ไม่มีทุจริต ขอท้าให้พรรคเพื่อไทยหยิบยกเอาโครงการนี้กลับมาเป็นนโยบายหลักอีกรอบได้เลย

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า จากการพูดคุยกับพ่อค้าแม่ขายพบว่า ผู้ค้าภายในตลาดที่เข้าเกณฑ์มีสิทธิ์รับเงิน ระบุในทิศทางเดียวกันว่า ยินดีรับเงินที่รัฐบาลนำมาแจก แต่อยากให้แจกเป็นเงินสด ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับคนตัวเล็กมากกว่า และยังมีเสียงสะท้อนจากผู้ค้ารายเล็กอีกไม่น้อยที่ระบุว่า ต้องการให้รัฐบาลทบทวนเกณฑ์ผู้มีสิทธิ์ได้รับเงิน โดยเฉพาะเงื่อนไขของผู้ที่มีเงินฝากเกิน 500,000 บาท จะไม่มีสิทธิ์ได้รับการเติมเงิน10,000 บาท ทั้งที่คนตัวเล็ก พ่อค้าแม่ขายรายย่อยจำนวนไม่น้อยต้องเก็บหอมรอมริบ ทำงานค้าขายด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาตลอดชีวิต

นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.การคลัง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ปชป.ออกมาตำหนิแผนการกู้จาก ธ.ก.ส.เพื่อมาแจกเงินดิจิทัล บอกว่าซํ้ารอยจำนำข้าวในการสร้างหนี้สะสมมหาศาล จนถึงวันนี้รัฐบาลยังไม่ได้ชำระคืนให้ ธ.ก.ส. ส่วนพรรคเพื่อไทยสวนกลับทันทีว่าทีพวกคุณแจกเงินโครงการประกันรายได้ คุณก็ใช้เงิน ธ.ก.ส. วันนี้ใช้เงินคืนหรือยัง ซึ่งถูกทั้งคู่แต่ไม่ตรงประเด็น เพราะจะผิดจะถูกอย่างไร ทั้งจำนำข้าว และประกันรายได้ ล้วนเป็นเรื่องโครงการที่ตรงกับภารกิจตามกฎหมายของ ธ.ก.ส. ถึงแม้จะมีปัญหาอื่นตามมา เพราะตามกฎหมาย ธ.ก.ส.นั้นในหมวด 2 มาตรา 9 ได้ระบุวัตถุประสงค์ไว้ถึง 17 ข้อ ซึ่งทั้งจำนำและประกันรายได้ เข้าเกณฑ์ตั้งแต่ข้อที่ 1 คือการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกรสำหรับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม และเป็นวัตถุประสงค์หลัก แต่ไม่มีข้อไหนเปิดให้ ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ให้รัฐบาลนำมาแจกประชาชนได้ แม้บางคนมีอาชีพเป็นเกษตรกรก็ตาม เพราะวัตถุประสงค์การแจกเงินดิจิทัลประกาศไว้ชัดว่าเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเพื่อการบริโภค ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการเกษตร

 “ตั้งแต่ปี 2561 มี พ.ร.บ.วินัยทางการคลังยํ้าประเด็นชัดเจนในมาตรา 28 ว่า รัฐบาลใช้เงินของรัฐวิสาหกิจโดยขัดหรือไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ ไม่ได้ ทำให้ผมกลับไปอ่านกฎหมายจัดตั้ง ธ.ก.ส.อีกรอบ ซึ่งเรื่องนี้ต้องดูให้ดี ประเด็นนี้ตรงกับที่แบงก์ชาติได้ออกมาเตือน” นายกรณ์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก

โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก

‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่

ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน

‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง

"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12

พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา

พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น

นายกฯ สั่งตั้ง 'กองบัญชาการปภ.แห่งชาติส่วนหน้า' ลดความรุนแรงน้ำท่วมใต้เหลือระดับ​ 3

นายก​ฯ ขอบคุณ​ทุกภาคส่วน​ร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมใต้​ บอกความทุ่มเททราบถึงพระเนตร​พระกรรณ ขอกรมโยธาฯเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนเยียวยาไม่ใช่รายหัว​ พร้อมกำชับ​ สธ.​ ดูแลสุภาพจิต -​โรคติดต่อ​ สั่ง​ ตั้งกองบัญชาการและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า หลังลดระดับความรุนแรงเหลือระดับ​ 3 มอบ ‘ศักดิ์ดา’ บัญชาการพื้นที่

นายกฯ ปฏิเสธตอบปมนายก อบจ.สงขลาด้อยค่า อส.-คนไทยบาดเจ็บสู้รบเมียนมา

นายกฯปฎิเสธให้สัมภาษณ์กรณี นายก อบจ.หาดใหญ่ กล่าวด้อยค่า อส. และกรณีคนไทยในแม่สอดบาดเจ็บจากการสู้รบในเมียนมา