ไฟเขียวพ.ร.ฎ.เลือกสว. สมัคร13พ.ค.รู้ผล2ก.ค.

ครม.คลอดร่าง พ.ร.ฎ. เลือก สว. เปิดรับสมัคร 13 พ.ค. ประกาศผล 2 ก.ค. พร้อมไฟเขียวงบกลางเพิ่มให้ กกต.อีก 227 ล้าน ค่าใช้จ่ายเลือกสภาสูงชุดใหม่ “ธนกร” ซัด “ธนาธร” เดินสายเปิดแคมเปญชวนคนสมัคร สว. มีนัยแอบแฝง

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23   เมษายน นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ..... ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการให้ดำเนินการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตามมาตรา 107 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เนื่องจากอายุของวุฒิสภาสิ้นสุดลง โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 269 (4) บัญญัติให้อายุของวุฒิสภาตามมาตรานี้มีกำหนด 5 ปี นับแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง และได้มีพระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2562 อายุของวุฒิสภาจึงครบกำหนด 5 ปี และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 10 พ.ค.2567 แต่ยังอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีสมาชิกวุฒิสภาขึ้นใหม่  

ทั้งนี้ เพื่อให้การเลือก สว.เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 107 วรรคห้า และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 21 จึงได้จัดทำร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ..... ขึ้น โดยมีสาระสำคัญเป็นการให้ดำเนินการเลือก สว. และจัดทำร่างแผนการจัดการเลือก สว. ซึ่งภายใน 5 วันนับตั้งแต่ที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว.ใช้บังคับ กกต.จะกำหนดวันเริ่มดำเนินการเพื่อเลือกไม่ช้ากว่า 30 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ซึ่ง กกต.คาดว่าพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 ประกาศกำหนดวันเลือกและวันรับสมัครในวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 กำหนดวันเลือก สว.ระดับอำเภอในวันที่ 9 มิถุนายน 2567 กำหนดวันเลือก สว.ระดับจังหวัดในวันที่ 16 มิถุนายน 2567 กำหนดวันเลือก สว. ระดับประเทศในวันที่ 26 มิถุนายน 2567 และกำหนดวันที่จะประกาศผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในวันที่ 2 กรกฎาคม 2567

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยด้วยว่า ครม.เห็นชอบการขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา  รวมทั้งสิ้น 227,105,500 บาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายที่สำนักงาน กกต.ดำเนินการเอง จำนวน 100,949,700 บาท และเป็นค่าใช้จ่ายของหน่วยงานสนับสนุน 5 หน่วยงานจำนวน 126,155,800 บาท

โดยสำนักงาน กกต.ได้รับจัดสรรงบประมาณในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา  ตามร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เป็นจำนวนเงิน 1,198,866,800 บาท แต่เนื่องจากสำนักงาน กกต.มีค่าใช้จ่ายในภารกิจที่จำเป็นต้องดำเนินการก่อนมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา เช่น การเผยแพร่ความรู้ รณรงค์ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัคร การเตรียมความพร้อมในเรื่องต่างๆ ที่จำเป็นเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาอีกจำนวน 317,551,300 บาท รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา จำนวนเงินทั้งสิ้น 1,516,418,100 บาท แต่สำนักงาน กกต. มีเงินนอกงบประมาณคงเหลือเพียง 90,445,800 บาท ซึ่งเมื่อนำมาสมทบกับงบประมาณที่ได้รับจัดสรรในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ยังคงไม่เพียงพอต่อการดำเนินการดังกล่าว โดยยังขาดอยู่อีกจำนวน 227,105,500 บาท ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปด้วยคามเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ กกต.จึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณฯ จำนวน 227,105,500 บาท

ทางด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินสายจัดเสวนาในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัด และเปิดแคมเปญชวนคนสมัคร สว. เพื่อจะเลือกกันเองเข้าไปในสภา โดยอ้างว่าที่ผ่านมายังไม่เป็นประชาธิปไตย ทั้งที่เราผ่านการเลือกตั้งกันมาแล้วเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 จึงตั้งข้อสังเกตว่า การเดินสายเชิญชวนให้ประชาชนบางกลุ่มลงสมัคร สว.ของนายธนาธร คณะก้าวหน้า รวมถึงแกนนำ และ สส.ของพรรคก้าวไกลในครั้งนี้ มีนัยแอบแฝงบางอย่างที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นวิธีการจัดตั้งในการเลือก สว. หรือการฮั้วเลือกกันเองหรือไม่ ซึ่งขอให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง