เผ่าภูมิยอมรับ ไร้‘สมาร์ทโฟน’ ใช้ดิจิทัลยาก!

“เผ่าภูมิ” ยันเคาะใช้จ่ายเงินหมื่นไม่เกินไตรมาส 4 แนะควรลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟน เพราะทำง่ายส่วนคนไม่มีและผู้ป่วยติดเตียงยุ่งยาก อ้างเพื่อป้องกันทุจริตโอนสิทธิ์ “เอกชนเชียงใหม่” ชี้ผลโครงการอาจไม่เข้าเป้า

เมื่อวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2567 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า  จะเปิดให้มีการใช้จ่ายในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตภายในไตรมาส 4/2567 ส่วนกระบวนการทั้งหมดยังคงเดินหน้าไปตามกำหนดการ โดยเฉพาะการลงทะเบียนของกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 16 ก.ย.นี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าการลงทะเบียน การยืนยันตัวตน ตลอดจนการใช้จ่ายในโครงการจะมีเงื่อนไขมากกว่ากลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน โดยอาจมีความยากลำบากมากกว่า

“รัฐบาลจึงอยากสนับสนุนให้ประชาชนมาลงทะเบียนในกลุ่มคนที่มีสมาร์ทโฟนมากกว่า โดยมองว่าไม่มีประโยชน์อันใดที่จะรอลงในกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน เพราะ 1.ลงยากกว่า และ 2. ใช้จ่ายยากกว่า ส่วนประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการและมีความคิดที่จะย้ายทะเบียนบ้านเพื่อให้ง่ายต่อการใช้จ่ายนั้น จะตัดสิทธิ์ในวันที่ปิดรับลงทะเบียน” นายเผ่าภูมิกล่าว และว่า คนไม่มีสมาร์ทโฟนไม่ได้เยอะ โดยตัวเลขสถิติพบว่าคนหนึ่งคนมีมือถือ 1.4 เครื่อง หมายความว่าคนเกือบทั้งหมดมีสมาร์ทโฟน ส่วนกลุ่มที่ไม่มีเป็นส่วนน้อยเท่านั้น แต่ตรงนี้ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะวางกรอบแนวทางให้ตอบสนองกับประชาชนทุกคน ซึ่งต้องยอมรับว่าต้องมีเงื่อนไขเพิ่มเติม

สำหรับกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงนั้น นายเผ่าภูมิระบุว่า ต้องมีการออกแบบระบบให้สามารถใช้งานได้ โดยยืนยันว่ารัฐบาลพยายามตอบสนองคนทุกกลุ่ม แต่ต้องไปชั่งดูเรื่องความเสี่ยงของกรอบและการเกิดทุจริตด้วย เช่น กรณีผู้ป่วยติดเตียงหากมีการอนุญาตให้โอนสิทธิ์ได้ จะมีคนแกล้งป่วยติดเตียงเยอะมาก และจะโอนสิทธิ์ไปมาเยอะมาก ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องชั่งในเรื่องของความครอบคลุมกับประชากรให้ครบทุกส่วน กับเรื่องกรอบและวิธีการใช้เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตเกิดขึ้น ซึ่งจะมีการประกาศรายละเอียดต่อไปว่าจะมีการใช้จ่ายอย่างไร

“ร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ เบื้องต้นนับรวมร้านสะดวกซื้อลงมา โดยตัดสิทธิ์ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ โดยรายละเอียดทั้งหมดกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้ชี้แจงต่อไป” นายเผ่าภูมิระบุ

วันเดียวกัน สภาอุตสาหกรรมภาคเหนือจัดเวทีวงเล็กในการหารือทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยนายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) ระบุว่า  เห็นด้วยที่รัฐบาลจะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงนี้ที่ถือว่าอยู่ในภาวะที่กำลังป่วย แต่การกระตุ้นที่ไม่ปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจจะทำให้ส่งผลลบในระยะยาวที่อาจเกิดภาวะถดถอยลงเรื่อยๆ ได้ กลุ่มเปราะบางที่ยังมีรายได้ไม่พอรายจ่าย มีภาระหนี้สูง มาตรการเยียวยาอาจต้องมีเพื่อสร้างฐานของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันต้องมีนโยบายที่เสริมการเติบโตไปข้างหน้า ผ่านการวางโครงสร้างและปรับพื้นฐานเศรษฐกิจให้สามารถเชื่อมโยงสายพานการผลิตโลกใหม่ได้ ประเทศจึงจะอยู่รอดระยะยาว

“อย่าลืมว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนี้ไปเพิ่มภาระหนี้ของประเทศผลลัพธ์ก็อาจไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่มองว่าจะช่วยขยับอัตราการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจได้เกิน 1.2% ตามที่คาดไว้ได้หรือไม่ เพราะขณะนี้โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศอย่างไม่แข็งแรง ยอมรับว่า เวลานี้เศรษฐกิจของประเทศมีความเปราะบางสูง” นายองอาจระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง