โวยขรก.ชี้นำทหารเลือกซ่อมกทม.

รองหัวหน้า พท.โวย ขรก.ระดับสูงชี้นำเหล่าทหารลงคะแนนเลือกตั้งซ่อม กทม. ร้อง "บิ๊กตู่" กำชับวางตัวเป็นกลาง จี้ กกต.ลงพื้นที่เก็บข้อมูล ปูดเก็บบัตร ปชช.แลกเงิน 1,500 บาท "นิพนธ์" ย้ำ ปชป.ยึดมารยาททางการเมืองไม่ส่งผู้สมัครลงแข่งเขตหลักสี่ "นาถยา” ยื่นใบลาออกจาก ปชป.ดอดซบอก "หญิงหน่อย" ตามคำเชิญ "หมอสุกิจ" แจงงดประชุมสภากันโควิดระบาด สอนฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบต่อสังคมประเทศ  

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 มกราคม นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร เบอร์ 3 พรรคเพื่อไทย  พร้อมด้วยนายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมเขต 9 กทม.ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณตลาดจัดสรรรถไฟ และสำรวจคุณภาพชีวิตประชาชนในชุมชนหลังแฟลตร่วมพัฒนา เลียบคลองเปรมประชากร เขตหลักสี่

"ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงจะมีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ในวันที่ 14 ม.ค.ที่ชุมชนเสนานิคม 2 เขตจตุจักร และอีกครั้งในวันที่  28 ม.ค.ที่เคหะทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่" นายสุรชาติกล่าว

ที่ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เขต 9 (หลักสี่-จตุจักร) พรรคเพื่อไทย  นายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ได้รับรายงานผู้พักอาศัยในบ้านพักทหาร เขตหลักสี่และจตุจักร ว่ามีข้าราชการบางท่านพยายามชี้นำผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งให้ลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครจากพรรคการเมืองหนึ่ง หากคะแนนไม่เข้าเป้าจะมีมาตรการพิเศษกับบุคคลที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้นๆ เรื่องนี้ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง อาจเป็นไปได้ที่ข้าราชการระดับสูงบางคนอาจนิยมชมชอบพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ จึงชี้นำกำลังพล ครอบครัวและทหารกองประจำการ หรืออาจเอื้อประโยชน์ให้หัวคะแนนของพรรคการเมืองนั้นเข้าไปหาเสียงได้อย่างเสรี  แต่อยากขอร้องให้ผู้บังคับบัญชาอย่าปิดกั้นพรรคการเมืองอื่นๆ เมื่อเปิดโอกาสให้พรรคใดแล้วก็ต้องเปิดโอกาสให้ทุกพรรคการเมืองสามารถเข้าไปหาเสียงในบ้านพัก และหน่วยงานราชการได้อย่างเท่าเทียมกันด้วย

 “ขอใช้โอกาสนี้เรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ท่านเป็น รมว.กลาโหม ว่าขอให้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้วางตัวเป็นกลางและปฏิบัติให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด  โดยเฉพาะข้าราชการระดับสูงไม่ควรลงมาชี้นำหรือสั่งการใดๆ ที่อาจทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม หากมีใครที่มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง  อยากเชิญชวนให้กำลังพล ครอบครัว และทหารกองประจำการที่รักในประชาธิปไตยได้ช่วยบันทึกคลิปเหล่านั้นไว้ด้วย เพื่อเผยแพร่ให้สังคมได้ทราบ และจะได้นำส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป” นายสรวงศ์กล่าว

ถามว่า มีเรื่องผิดปกติที่อาจเข้าข่ายทุจริตเลือกตั้งในกรณีอื่นๆ อีกหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ได้รับรายงานจากบางพื้นที่โดยเฉพาะในชุมชนแออัดและในกลุ่มเปราะบาง ว่ามีพฤติกรรมของการเก็บบัตรประชาชนโดยจ่ายให้หัวละ 1,500 บาท อยากให้ กกต.ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างใกล้ชิดด้วย หวังว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกคนจะช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องการกระทำที่ทุจริตต่างๆ เพื่อให้การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้บริสุทธิ์ยุติธรรมและไร้คำครหา อย่าได้เหมือนการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเด็ดขาด

ที่วัดวังปริง อ.สะเดา จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ ลงพื้นที่ช่วยรณรงค์หาเสียงให้ น.ส.สุภาพร กำเนิดผล หรือน้องน้ำหอม ผู้สมัคร  ส.ส.สงขลา เขต 6 พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมขึ้นปราศรัยบนเวทีชั่วคราวในบริเวณวัด

โดยนายนิพนธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า กว่า 76 ปีที่พรรคเราตั้งอยู่จนเป็นสถาบันทางการเมือง ยึดถืออุดมการณ์ สะสมความรู้ ความคิด  ประสบการณ์ ความเหมาะสม รวมทั้งมารยาททางการเมือง และทางสังคมเพื่อให้พรรคเป็นหลัก ที่พึ่งหวังของประเทศชาติและประชาชน   เรายึดถือมารยาททางการเมืองที่จะไม่ส่งผู้สมัครลงแข่งขันในพื้นที่ของ  ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันที่ต้องพ้นจากตำแหน่ง เช่นกรณีเขตหลักสี่ที่เราไม่ส่งผู้สมัครของพรรคลงแข่งขัน ส่วนพรรคการเมืองอื่นจะทำอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของเขา ไม่ว่าเพื่อนร่วมรัฐบาลพรรคไหนต้องหมดสภาพการเป็น ส.ส. หากร่วมรัฐบาลด้วยกันเราไม่ส่งลงแข่งขัน หรือวันไหนที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มารยาททางการเมืองที่เคยเป็นบรรทัดฐานเราก็จะปฏิบัติต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของการย้ายพรรคของอดีต ส.ส.ว่า เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.64 นางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ หรือนาถยา  แดงบุหงา อดีต ส.ส.กทม. เขตสะพานสูง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)  ให้ทีมงานของตนเองไปยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป.ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีรายงานว่า นางนาถยาไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ที่มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นประธานพรรคเรียบร้อยแล้ว โดยในการเลือกตั้งใหญ่ ส.ส.ครั้งหน้า พรรคไทยสร้างไทยวางตัวให้ไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตสะพานสูง ซึ่งเป็นเขตเดิมตั้งแต่อยู่กับพรรค ปชป.

ขณะที่นางนาถยาให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้วเมื่อไม่นานมานี้ โดยย้ายไปอยู่พรรคไทยสร้างไทย แต่ตนยังทำงานในพื้นที่และจะลงสมัคร ส.ส.ในเขตสะพานสูงต่อไป สำหรับเหตุผลการไปสังกัดพรรคไทยสร้างไทยนั้น เป็นเพราะที่ผ่านมาตนทำงานในพื้นที่ มักได้เจอกับคุณหญิงสุดารัตน์ที่มาลงพื้นที่นี้ประจำ ซึ่งเป็นฐานเสียงเดิมของคุณหญิงสุดารัตน์ โดยก่อนหน้านี้คุณหญิงสุดารัตน์เคยชักชวนตนหลายครั้งว่าเมื่อไหร่จะมาทำงานด้วยกัน กระทั่งคุณหญิงสุดารัตน์ได้ตั้งพรรคดังกล่าว และเมื่อหลายๆ อย่างลงตัวตนจึงย้ายสังกัดมาร่วมงานด้วย ซึ่งตอนนี้ได้เปิดตัวการทำงานการเมืองในฐานะสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยเต็มตัวแล้ว

ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า สืบเนื่องจากนายชวน หลีกภัย ประธานสภา มีคำสั่งงดประชุมสภาสัปดาห์นี้ และมี ส.ส.ฝ่ายค้านอย่างน้อย 3 คนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย นายชวนตัดสินใจบนพื้นฐานของการรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งโควิดไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และสภาไม่ได้อยู่เป็นเอกเทศ เรายังอยู่ในสังคมและสิ่งแวดล้อมเดียวกับคนทั้งประเทศ ลองคิดดูว่าถ้ามีการระบาดของโควิดในสภาจะกระทบต่อสังคมและประเทศชาติเพียงใด และใครต้องรับผิดชอบ ทุกคนก็ต้องโทษประธานสภา

นพ.สุกิจกล่าวต่อว่า ก่อนที่นายชวนจะตัดสินใจสั่งงดประชุมได้โทรศัพท์คุยกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่ง นพ.ชลน่านก็ยินดีน้อมรับการตัดสินใจของนายชวน แต่คงไม่ได้แจ้งให้นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านทราบ จึงทำให้ยังติดใจอยู่ นอกจากนี้นายชวนก็ได้ปรึกษากับอธิบดีกรมควบคุมโรค ซึ่งท่านได้ขอความกรุณาขอให้นายชวนงดประชุมไว้ก่อน แสดงถึงความห่วงกังวลของท่านเป็นอย่างมาก

 “ท่านประธานสภามีความเป็นห่วงงาน ผมคิดว่าห่วงกว่าทุกคนที่ออกมาพูดเสียอีก และท่าน ส.ส.ไม่ต้องกลัว เมื่อกลับมาประชุมตามเดิมได้ ประธานสภาจะเพิ่มวันประชุมพิเศษชดเชยให้ และจัดเตรียมมาตรการโควิด-19 ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข” ที่ปรึกษาประธานสภากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง