กระทรวงมหาดไทยจัดริ้วขบวนอิสริยยศเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ เคลื่อนไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นายกฯ เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล "3 เหล่าทัพ" ยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติ พสกนิกรทั่วไทยพร้อมใจสวมเสื้อเหลือง จัดกิจกรรมแสดงความจงรักภักดี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม เวลา 06.30 น. บริเวณถนนสนามไชย ด้านหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร กระทรวงมหาดไทยจัดพิธีเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีผู้แทนนายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ผู้แทนประธานศาลฎีกา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมพิธี
โดยเมื่อถึงเวลา 06.35 น. ตามหมายกำหนดการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยเชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน บรรจุน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักรจัดทำแล้วส่งให้กระทรวงมหาดไทยประมวลนำไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ที่พระอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2567 แล้วนั้น ออกจากพระอุโบสถ ตั้งขบวนอิสริยยศ มีผู้แทนกรุงเทพมหานคร และ 76 จังหวัด เชิญพุ่มทองพุ่มเงินถวายราชสักการะไว้พร้อมที่หน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ ด้านถนนสนามไชย
จากนั้น เวลา 07.30 น. ขบวนแห่เชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ออกจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ ไปตามถนนสนามไชย เลี้ยวซ้ายถนนหน้าพระลาน เข้าพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรี ประตูพิมานไชยศรี ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน บรรจุน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นประดิษฐานที่พระแท่นบัว พานธูปเทียนแพเชิญไปตั้งที่เสาบัวหน้าที่ยืนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทของนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา ส่วนพุ่มทองพุ่มเงินของแต่ละจังหวัดนำไปตั้งเป็นการถวายราชสักการะ ณ อัฒจันทร์ซึ่งจัดไว้แนวกำแพงพระบรมมหาราชวังด้านทิศเหนือ
สำหรับขบวนอิสริยยศในการเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ประกอบด้วย 9 ตอน ความยาวขบวน 168 เมตร จำนวนผู้เข้าร่วม 1,072 คน ตอนที่ 1 รถตำรวจนำ, ตอนที่ 2 วงดุริยางค์กองทัพเรือ 52 นาย, ตอนที่ 3 นักเรียนนายร้อยตำรวจเชิญธงชาติ และธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 144 นาย, ตอนที่ 4 ผู้แทนนายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐภา ผู้แทนประธานศาลฎีกา อัญเชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน ผู้อัญเชิญพานธูปเทียนแพ 9 คน, ตอนที่ 5 ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย 33 คน, ตอนที่ 6 ผู้เชิญพานพุ่มทอง พุ่มเงิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด 231 คน, ตอนที่ 7 วงดุริยางค์กองทัพอากาศ 52 นาย, ตอนที่ 8 ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย 555 คน และตอนที่ 9 รถตำรวจปิดขบวน
ปลื้มปีติร่วมพิธีทำน้ำศักดิ์สิทธิ์
นายสุทธิพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดพิธีเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ เคลื่อนไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในช่วงเช้าวันนี้ ได้ดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามหมายกำหนดการที่เลขาธิการพระราชวังรับพระบรมราชโองการเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ซึ่งข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนถึงภาคีเครือข่าย ทั้งข้าราชการทุกหมู่เหล่า ผู้นำท้องที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัคร ตลอดจนประชาชนทั่วราชอาณาจักร ต่างมีความปลื้มปีติโสมนัสเป็นล้นพ้น ที่ได้มีส่วนร่วมในการประกอบพิธีจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 108 แหล่งทั่วประเทศ เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อร่วมกันแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ได้ร่วมกันจัดพิธีทำบุญตักบาตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ และในช่วงกลางวันจะเป็นการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ในช่วงเย็นจะเป็นพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ สถานที่ที่จังหวัดและอำเภอกำหนด
"สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ www.royaloffice.th ระหว่างวันที่ 23-29 กรกฎาคม 2567" นายสุทธิพงษ์ระบุ
ที่บริเวณท้องสนามหลวง เวลา 07.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนางพักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมพิธี
เมื่อนายกรัฐมนตรีและภริยาเดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายกรัฐมนตรีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ให้ศีล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
จากนั้น คณะองคมนตรีและภริยา นายกรัฐมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป นายกรัฐมนตรีถวายผ้าไตร จำนวน 10 ไตร กรวดน้ำรับพร กราบลาพระรัตนตรัย แล้วถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยานำผู้เข้าร่วมพิธีร่วมตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 173 รูป เสร็จพิธี
นำ ขรก.ถวายสัตย์ปฏิญาณ
จากนั้น เวลา 07.45 น. นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ เวทีใหญ่ท้องสนามหลวง
โดยนายกรัฐมนตรีนำข้าราชการกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ ตอนหนึ่งว่า "ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดี และเป็นพลังของแผ่นดิน มีความซื่อสัตย์สุจริต เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท มุ่งมั่นแน่วแน่แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน และดำเนินชีวิตโดยยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนแห่งศาสนา ตามแนวทางพระบรมราโชวาทตลอดไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
ต่อมา เวลา 08.00 น. นายกรัฐมนตรีและภริยาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง จากนั้น เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรี เฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเชิญชวนให้ประชาชนคนไทยร่วมแสดงความจงรักภักดีด้วยการเข้าร่วมพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเวลา 19.19 น. ซึ่งมีการจัดพิธีทั่วประเทศ
เหล่าทัพได้ทำการยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยกองทัพบก จัด 1 กองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 วินาที ณ ท้องสนามหลวง ส่วนกองทัพเรือ โดยกองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ยิงสลุตหลวง ณ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ขณะที่กองทัพอากาศ โดยกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ทำการยิงสลุตหลวงเฉลิมพระเกียรติ ณ อุทยานการบินกองทัพอากาศ
ปชช.พร้อมใจใส่เสื้อเหลือง
วันเดียวกัน พสกนิกรทั่วไทยพร้อมใจทำบุญตักบาตร และจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 อาทิ ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประกอบพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ จำนวน 73 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำคณะสงฆ์จากวัดต่างๆ ในพื้นที่เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ออกรับบิณฑบาต โดยประชาชนทุกหมู่เหล่ากว่า 1,000 คน พร้อมใจสวมใส่เสื้อผ้าไทยและเสื้อสีเหลืองร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ที่สนามกีฬาโรงเรียนอุบลรัตน์ อำเภอเมืองนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานเปิดกิจกรรมปลูกต้นไม้ 7,272 ต้น ซึ่งประกอบด้วย ต้นรวงผึ้ง ต้นทองอุไร ต้นคูณ ต้นแคนา เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีคณะบริหารเทศบาล หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประชาชนชาวโคราช จำนวน 2,500 คนเข้าร่วม
ที่หน้าตลาดสดเทศบาลเมือง จ.บึงกาฬ พระอาจารย์สมบัติ สัมปัตติฐาระโก เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านพันลำ พร้อมญาติธรรม ตลอดจนประชาชนจิตอาสา ร่วมกันตั้งโรงทานมังสวิรัติ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ประชาชนทั่วไปที่มาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาด
ที่สนามช้างอารีน่า อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ ทางจังหวัดร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้ชื่องาน "ลมหายใจของแผ่นดิน" โดยนายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า การจัดงานในวโรกาส 72 พรรษา เป็นการจัดงานที่นักแสดงและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดกว่า 99% เป็นคนบุรีรัมย์ ได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำทุกอย่างเพื่อแสดงความจงรักภักดี ซึ่งภายในงานจะมีการจัดการแสดงมิวสิคัลเรื่องลมหายใจของแผ่นดิน เพื่อนำเสนอพระราชกรณียกิจ ให้พี่น้องชาวบุรีรัมย์ได้เห็นว่าพระองค์ได้เสียสละเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างไร ทั้งนี้ งานจะจัด 3 วัน คือ ระหว่างวันที่ 28-30 ก.ค. เวลา 18.00-21.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งการสำรองที่นั่งสามารถจองผ่านคิวอาร์โค้ดได้วันละประมาณ 3 หมื่นที่นั่ง ผู้ร่วมรับชมทุกคนจะได้รับเหรียญที่ระลึกในวโรกาส 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กลับไปเพื่อเป็นสิริมงคลด้วย
ที่วัดท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เจ้าคุณพระญาณวิกรม (อุเทน สิริสาโร) เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ได้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งภายในวัดจัดโรงทานตั้งแต่เช้า พร้อมกับมีการแจกทุนการศึกษา 500 ทุน และถุงยังชีพอีก 500 ถุง นอกจากนี้ ที่สร้างความฮือฮาให้กับประชาชนคือการแจกทุเรียนธรรมะ ทุเรียนธรรมชาติจากสวนที่ชาวบ้านปลูกกันเอง โดยญาติโยมนำมาแจกฟรีถึง 3,000 ลูก
ที่ปะรำพิธีบริเวณสวนลายปีกผีเสื้อ สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา เป็นประธานในพิธีถวายราชสดุดี วางพานพุ่มเงิน-พุ่มทอง และจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยภายในงานมีขบวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ปวงประชาเทิดไท้องค์ราชัน การแสดงถวายพระพรชุด “อาศิรวาทเฉลิมราชจักรีวงศ์” และช้างแสนรู้ 2 เชือก ถวายพวงมาลัย เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ที่สุดยิ่งใหญ่ตระการตา เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีอันมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องในโอกาสมหามงคลเวียนมาบรรจบ
ตั้งโรงทานถวายพระราชกุศล
ที่วัดสนามชัย จ.อ่างทอง พระครูปลัดสมหวัง ญาณสัมปัณโณ เจ้าอาวาส ได้จัดตั้งโรงทานเลี้ยงอาหารฟรีแก่ประชาชนตั้งแต่เช้าถึงเย็น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีพ่อค้าแม่ค้าประชาชนในตลาดอ่างทองช่วยกันนำผักผลไม้มาร่วมกันทำอาหารกับทางวัดด้วย
ที่ศาลาประชาคมและลานหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ 10 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมชมนิทรรศการภาพพระบรมฉายาลักษณ์ในพระราชกรณียกิจสำคัญๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่จังหวัดพิษณุโลก ทั้งนี้ เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ตลอดเดือน ก.ค.นี้ จากนั้น รองผู้ว่าฯ พิษณุโลกเป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 200,000 ตัว บริเวณเชิงสะพานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ที่หอประชุมศาลากลางจังหวัดตาก นายบุญช่วย หอมยามเย็น รองผู้ว่าฯ ตาก เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระประสิทธิศีลคุณ เจ้าคณะจังหวัดตาก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ หลังจากนั้นผู้นำศาสนาอิสลามในจังหวัดตากได้ประกอบพิธีดุอาอ์ขอพร ผู้นำศาสนาคริสต์ ประกอบพิธีอธิษฐานภาวนาขอพร และผู้นำศาสนาซิกข์สวดอัรดาสขอพรจากพระศาสดา เพื่อถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามลำดับ
ที่สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีทําบุญตักบาตรพระสงฆ์และสามเณร จำนวน 72 รูป และพิธีทางศาสนามหามงคล 3 ศาสนา ถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ศูนย์ราชการจังหวัดภูเก็ต นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต เป็นประธานพิธีสวดทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ถวายเป็นพระราชกุศล จากนั้นมีพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พปชร.ขับก๊วนธรรมนัส ตัดจบที่ดิน‘หวานใจลุง’
"บิ๊กป้อม" ไฟเขียว พปชร.มีมติขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัสพ้นพรรค "ไพบูลย์" เผยเหตุอุดมการณ์ไม่ตรงกัน
พ่อนายกฯเคลียร์MOUสยบม็อบ
อิ๊งค์พร้อม! จัดชุดใหญ่แถลงผลงานรัฐบาล ลั่นรอจังหวะไปตอบกระทู้
รบ.อิ๊งค์ไม่มีปฏิวัติ! ทักษิณชิ่งสั่งยึดกองทัพ เหน็บอนุทินชิงหล่อเกิน
"ทักษิณ" โบ้ยไม่รู้ "หัวเขียง" ชงแก้ร่าง กม.จัดระเบียบกลาโหม
ศาลรับคำร้อง ให้สว.สมชาย หยุดทำหน้าที่
ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “สมชาย เล่งหลัก” หยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.
คิกออฟแพ็กเกจแก้หนี้ ลุ้นบอร์ดขึ้นค่าแรง400
นายกฯ เผยข่าวดี ครม.คลอดชุดใหญ่แก้หนี้ครัวเรือน "คลัง-แบงก์ชาติ"
เร่งตั้ง‘สสร.’ให้ทันปี70
รัฐสภาจัดงานวันรัฐธรรมนูญคึกคัก แต่พรรคประชาชนเมินเข้าร่วม