โพล-โหร สว.เห็นตรงกัน “เศรษฐารอด-ไร้ยุบพรรคก้าวไกล-ทักษิณไม่โดน 112” ป.ป.ช.รับลูก กสม. คุ้ยปมวีวีไอพีชั้น 14 แต่ไม่รับปากเสร็จเมื่อไหร่ “เทพไท” ข้องใจวันพักโทษ “นายใหญ่” เริ่มเมื่อไหร่แน่
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “Believe It or Not! ทางการเมืองไทย ตอน เดือนพิพากษา” โดยสำรวจประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ รวม 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยในเดือน ส.ค. ซึ่งเมื่อถามถึงความเชื่อของประชาชนเกี่ยวกับการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีในเดือน ส.ค.นี้ พบว่า 45.42% ระบุว่าไม่เชื่อเลย รองลงมา 29.62% ไม่ค่อยเชื่อ, 15.27% ค่อนข้างเชื่อ, 8.63% เชื่อมาก และ 1.06% ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ
เมื่อถามตัวอย่างที่ระบุว่า เชื่อมากและค่อนข้างเชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนนายกฯ ในเดือน ส.ค.นี้เกี่ยวกับบุคคลที่จะได้เป็นนายกฯ คนใหม่จากพรรคร่วมรัฐบาล พบว่า 31.95% ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย รองลงมา 30.99% นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย, 11.82% พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ, 8.31% นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค พรรครวมไทยสร้างชาติ, 2.23% นายชัยเกษม นิติสิริ พรรคเพื่อไทย และ 14.70% ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านความเชื่อของประชาชนเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมืองในเดือน ส.ค.นี้ พบว่า 32.44% ระบุว่าไม่เชื่อเลย, 27.94% ไม่ค่อยเชื่อ, 24.20% ค่อนข้างเชื่อ, 13.44% เชื่อมาก และ 1.98% ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ โดยเมื่อถามตัวอย่างที่ระบุว่า เชื่อมากและค่อนข้างเชื่อว่าจะมีการยุบพรรคการเมืองในเดือน ส.ค.นี้ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ สส.จากพรรคการเมืองที่ถูกยุบจะไปสังกัดกับพรรคร่วมรัฐบาล พบว่า 40.97% ค่อนข้างเป็นไปได้, 27.99% เป็นไปได้มาก, 16.84% เป็นไปไม่ได้เลย และ 14.20% ไม่ค่อยเป็นไปได้
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความเชื่อของประชาชนเกี่ยวกับการพ้นโทษของนายทักษิณ ชินวัตร จะทำให้รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พบว่า 41.83% ไม่เชื่อเลย, 26.87% ไม่ค่อยเชื่อ, 19.01% ค่อนข้างเชื่อ, 11.45% เชื่อมาก และ 0.84% ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ขณะเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “เดือนสิงหา เศรษฐาต้องมากับทักษิณ” ระบุว่า อะไรจะช่างเหมาะเจาะเคราะห์ดีขนาดนั้น เดือน ส.ค.ปีที่แล้วเขาโหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ และ ส.ค.ปีนี้ก็จะโหวตให้นายเศรษฐาหลุดพ้นคดี ทั้งปลายเดือน ส.ค. นายทักษิณก็จะพ้นโทษ เป็นพญามังกรที่จะแผลงฤทธิ์ และเป็นพญาอินทรีที่จะสยายปีก ดังที่ประกาศไว้เมื่อวันเกิดว่าพรรคเพื่อไทยต้องเป็นพรรคอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า ปัญหาความเชื่อมั่นและปัญหาเศรษฐกิจจะต้องเร่งแก้ไข เป็นสัญญาณชัดว่านายทักษิณต้องออกมาขยับขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นพรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคอันดับหนึ่งไม่ได้
“รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำ จะมาเป็นอันดับหนึ่งได้หรือไม่ อยู่ที่ว่าพรรคร่วมยังแน่นปึ้กแข็งขันไปด้วยกันได้หรือไม่ ทั้งผลงานที่โดนใจจะออกมาหรือยัง ก็อย่างที่เห็นว่ารอยปริในพรรคร่วมเริ่มจะเกิดขึ้น คงจะต้องรีบอุดรอยรั่วโดยปรับ ครม.และพรรคร่วมในเร็วๆ นี้แน่นอน ทั้งหมดต้องคุณทักษิณเท่านั้น เมื่อพ้นโทษแล้วจึงไม่มีอะไรที่ต้องพะวงหน้าพะวงหลังกันอีกต่อไป ต้องเดินหน้าเพื่อมาเป็นที่หนึ่งให้ได้ สิงหานี้จึงเป็นเดือนแห่งการเริ่มต้นที่ทั้งคุณเศรษฐาหลุดคดีและคุณทักษิณพ้นโทษ ต้องมาขับเคลื่อนไปด้วยกัน ไม่อย่างนั้นเพื่อไทยก็ไปไม่รอด” นายวันชัยกล่าว
ด้านนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีพิจารณาเรื่องที่มีผู้ร้องเรียนผู้เกี่ยวข้องขบวนการเอื้อประโยชน์นายทักษิณเข้าพักรักษาตัวที่ห้องพิเศษชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐานของคณะทำงานไต่สวนที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและทบทวนพยานหลักฐาน ซึ่งสุดตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ส่งรายงานการพิจารณาของ กสม.มาให้ ป.ป.ช.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็จะถูกนำมาพิจารณาประกอบด้วยเช่นกัน ส่วนจะใช้เวลาพิจารณาเรื่องนี้นานแค่ไหนนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นอำนาจของคณะทำงานฯ แต่ยืนยันว่าการทำงานของ ป.ป.ช.ไม่ล่าช้า และการพ้นโทษของนายทักษิณ ไม่มีผลต่อการพิจารณาในเรื่องร้องเรียนที่เข้ามายัง ป.ป.ช. หากมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ป.ป.ช.จะดู ณ วันที่เกิดเหตุ
“ยืนยันว่าเราไม่ได้มีการถ่วงเวลา ทุกอย่างอยู่ที่ข้อเท็จจริง พยานหลักฐานต่างๆ ที่มีการรวบรวม ส่วนความเห็นของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน และมองว่า ป.ป.ช.ถ่วงเวลานั้น ก็ต้องยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ป.ป.ช.ทำเต็มที่ องค์กรถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องปกติ” นายนิวัติไชยระบุ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ถ้านับวันพักโทษทักษิณผิด ใครรับผิดชอบ” ระบุว่า จากกรณีนายทักษิณ ซึ่งอยู่ระหว่างการพักโทษ ณ บ้านจันทร์ส่องหล้า ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.2567 และจะพ้นโทษได้รับใบบริสุทธิ์ภายใน 365 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้ นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า นายทักษิณจะได้รับการพ้นโทษในวันที่ 22 ส.ค.2567 นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ออกมายืนยันว่านายทักษิณ ได้รับการพระราชทานอภัยลดโทษเหลือเพียง 1 ปี เเละเมื่อนับโทษไป 365 วัน วันพ้นโทษที่แท้จริงจะตรงกับวันเสาร์ที่ 31 ส.ค.2567 ดังนั้นถ้าหากนายทักษิณจะพ้นโทษในวันที่ 31 ส.ค.2567 จริง การพักโทษของนายทักษิณที่ผ่านมาน่าจะไม่ถูกต้อง ถ้าจะให้ถูกต้องการพักโทษของนายทักษิณต้องนับย้อนหลังไป 180 วัน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 5 มี.ค.2567 แต่ที่ผ่านมาทำไมนายทักษิณได้รับการพักโทษในวันที่ 18 ก.พ.2567 ซึ่งคลาดเคลื่อนกับข้อเท็จจริงที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ยืนยันมา
“อยากให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์และผู้เกี่ยวข้อง ได้ตอบคำถามว่า นายทักษิณได้รับการพักโทษจริง ในข้อมูลที่ถูกต้อง คือวันไหนกันแน่ ระหว่างวันที่ 18 ก.พ.กับวันที่ 5 มี.ค. ถ้าหากข้อเท็จจริงปรากฏว่า นายทักษิณจะต้องได้รับการพักโทษในวันที่ 5 มี.ค. แสดงว่า การพักโทษในวันที่ 18 ก.พ. เป็นการพักโทษก่อนครบกำหนด ผิดระเบียบของกรมราชทัณฑ์ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง เป็นการเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ให้ได้รับการพักโทษก่อนกำหนด ต้องมีผู้รับผิดชอบ จะมีความผิดตามมาตรา 157 หรือไม่” นายเทพไทระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พปชร.ขับก๊วนธรรมนัส ตัดจบที่ดิน‘หวานใจลุง’
"บิ๊กป้อม" ไฟเขียว พปชร.มีมติขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัสพ้นพรรค "ไพบูลย์" เผยเหตุอุดมการณ์ไม่ตรงกัน
พ่อนายกฯเคลียร์MOUสยบม็อบ
อิ๊งค์พร้อม! จัดชุดใหญ่แถลงผลงานรัฐบาล ลั่นรอจังหวะไปตอบกระทู้
รบ.อิ๊งค์ไม่มีปฏิวัติ! ทักษิณชิ่งสั่งยึดกองทัพ เหน็บอนุทินชิงหล่อเกิน
"ทักษิณ" โบ้ยไม่รู้ "หัวเขียง" ชงแก้ร่าง กม.จัดระเบียบกลาโหม
ศาลรับคำร้อง ให้สว.สมชาย หยุดทำหน้าที่
ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “สมชาย เล่งหลัก” หยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.
คิกออฟแพ็กเกจแก้หนี้ ลุ้นบอร์ดขึ้นค่าแรง400
นายกฯ เผยข่าวดี ครม.คลอดชุดใหญ่แก้หนี้ครัวเรือน "คลัง-แบงก์ชาติ"
เร่งตั้ง‘สสร.’ให้ทันปี70
รัฐสภาจัดงานวันรัฐธรรมนูญคึกคัก แต่พรรคประชาชนเมินเข้าร่วม