อำนาจรัฐเอื้อเลือกตั้ง ปชป.โวยอีก‘ป้อม’ไม่หวั่น กกต.ขนทีมลงใต้คุมเข้ม!

“บิ๊กป้อม” เมิน “จุรินทร์”    อัดใช้คนละครึ่งปล้นกลางแดด ออกตัวพูดชัดเป็นผลงานรัฐบาล มั่นใจหาเสียงไม่กระทบสัมพันธ์พรรคร่วม ไม่หวั่นปม “ธรรมนัส” ถูกร้องสัญญาจะให้ “เด็ก พปชร.”ซัดกลุ่มการเมืองเก่าเอาเวลาคิดวาทกรรมทางการเมืองมาช่วยแก้ปัญหา ปชช. “ปชป.” โวยผู้มีอำนาจหยุดใช้อำนาจรัฐเอื้อเลือกตั้งซ่อม จี้ กกต.เอาผิดพวกโชว์รวยปราศรัยสัญญาจะให้ “กำนันสุเทพ” ชี้เลือกตั้งซ่อมชุมพร “ลูกหมี” เหนื่อย รับที่สงขลาอ่านใจ “ถาวร” ไม่ออกเชียร์ใคร “ปธ.กกต.” ขนทีมลงใต้คุมเข้มการเลือกตั้ง “กทม.” หาเสียงเดือด “มาดามหลี”ร้องฟัน "อรรถวิชช์" จงใจใส่ร้าย “พท.” ขนแกนนำปราศรัยใหญ่ช่วย “สุรชาติ” 14 ม.ค.นี้

เมื่อวันที่ 13 มกราคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ปราศรัยตอนหนึ่งระหว่างช่วยผู้สมัครพรรค ปชป.หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 6 จ.สงขลา ระบุโครงการคนละครึ่งเป็นของรัฐบาล พรรคการเมืองใดนำไปใช้หาเสียงเป็นผลงานตัวเองถือเป็นการลักวิ่งชิงปล้นกลางแดดว่า โครงการคนละครึ่งตนบอกว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล และปราศรัยไปว่ารัฐบาลทำอะไรไปบ้าง เช่น นโยบายคนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ได้บอกว่าเป็นผลงานของพรรค พปชร.

พล.อ.ประวิตรยืนยันการปราศรัยหาเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลกันเองจะไม่ทำให้เกิดปัญหาในรัฐบาล ขอสื่ออย่ามาถามเรื่องนี้ ส่วนเรื่องที่พรรคก้าวไกลไปยื่นร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงการปราศรัยของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคที่ จ.สงขลา อาจเข้าข่ายทำนองสัญญาว่าจะให้นั้น เรื่องนี้ก็แล้วแต่กกต. ตนไม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว และ ร.อ.ธรรมนัสก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา พูดเรื่องคนจนคนรวยไม่เห็นจะมีสัญญาอะไรเลย และทางพรรคก็ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคดูแล้วก็ไม่เป็นอะไร

ซักว่า ร.อ.ธรรมนัสปราศรัยและแสดงท่าทีตบกระเป๋าพร้อมถามว่าประชาชนจะเอาหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ผมไม่รู้ สื่อต้องไปถาม ร.อ.ธรรมนัส

ถามว่าโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งจะมีหมัดเด็ดอะไรทำให้พรรคชนะเลือกตั้ง หัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่า ไม่มี แล้วแต่ประชาชนจะไปเลือกใคร ส่วนหมัดเด็ดอะไรนั้นไม่มี  มีแต่หมัดที่ทำงาน เพราะทำงานทุกวันอยู่แล้ว

หัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 กทม.ว่า จะลงช่วยหาเสียงและปราศรัยหรือไม่ แล้วแต่ทางพรรคจะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ตนก็พร้อมปฏิบัติ

ส่วนนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร. กล่าวว่า กรณีที่มีกลุ่มการเมืองเก่าแก่กล่าวอ้างถึงนโยบายลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนและฟื้นฟูเศรษฐกิจ พร้อมกับอ้างอิงว่าเป็นส่วนหนึ่งของผลงานที่กลุ่มการเมืองของตนเองมีส่วนร่วมนั้น ตนขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งใช้มาตลอดเวลากว่า 30 ปี โดยเฉพาะการคิดประดิษฐ์สร้างสรรค์วาทกรรมทางการเมืองเพื่อยกตนข่มผู้อื่น

 “หากใช้เวลาในช่วงที่คิดเรื่องการสร้างวาทกรรมทำลายผู้อื่น เปลี่ยนแปลงเป็นวิธีการคิดสร้างสรรค์เพื่อบริหารกระทรวงที่รับผิดชอบ ทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพตามที่ได้รับมอบหมายมีผลงานที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนน่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมกว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือพรรคไม่เคยเคลมนโยบายผลงานของพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันมาเป็นผลงานของตัวเอง” ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร.ผู้นี้ระบุ

ขณะที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประสานงานส่วนกลาง พรรค ปชป. กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จังหวัดชุมพร และเขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดสงขลา ว่าขณะนี้อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อมในทั้งสองเขต ในพื้นที่ผู้สมัครจะเน้นการเดินพบปะประชาชนควบคู่ไปกับการจัดเวทีปราศรัย ซึ่งจะมีการจัดเวทีปราศรัยในวันที่ 14 ม.ค.นี้พร้อมกันทั้งสองเขต จะมีแกนนำพรรคไปร่วม เช่น เวทีที่จังหวัดชุมพร จะมีนายจุรินทร์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรัฐมนตรี ร่วมขึ้นเวทีปราศรัย ทั้งสองเวทีก็ต้องถือว่าเป็นเวทีใหญ่ปิดท้าย

‘สุเทพ’ชี้สงขลา-ชุมพรเดือด

 นายราเมศกล่าวว่า พรรคการเมืองบางพรรคยังใช้อำนาจในการแทรกแซงเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ เพื่อบังคับข่มขู่ทั้งตัวเจ้าหน้าที่รัฐและครอบครัวให้มีการเลือกผู้สมัครของพรรคตน ทั้งสองเขตเรากำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด เหมือนกรณีที่มี ส.ส.ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคขึ้นปราศรัยที่จังหวัดสงขลา แล้วมีการปราศรัยในลักษณะสัญญาว่าจะให้ ชัดเจน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 73 ที่ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนน ด้วยวิธีการสัญญาว่าจะให้ เพราะมีการพูดชัดว่าหากเลือกผู้สมัครในวันข้างหน้าจะมีการดูแลประชาชนในเรื่องเงินทองเพราะมีเงิน เรื่องนี้ กกต.สามารถสอบสวนได้ทันที เพราะมีข่าวปรากฏอยู่ทั่วไป และวินิจฉัยไม่ยาก เพราะผิดกฎหมายชัดเจน หากไม่ผิดนั่นแสดงว่าต่อไปก็สามารถพูดจาในลักษณะว่าจะให้เงินในวันข้างหน้าได้เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิ์ ก็ต้องฝากความหวังไว้กับ กกต. การได้มาซึ่งประชาธิปไตยสุจริตทุกคนต้องช่วยกัน

 “ที่มีคนปราศรัยว่าให้เลือกชาติตระกูลดีและมีเงิน ต้องยอมรับว่าประชาชนในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดสงขลา มีความรู้สึกกับเรื่องนี้มาก การใช้เรื่องชาติตระกูลและความร่ำรวยมาพูดเสมือนเป็นการดูถูกประชาชน แบ่งชนชั้น นี่คือความปวดใจของประชาชน ถ้าเป็นแบบนั้น เชื่อว่าลูกชาวบ้านอย่างนายชวน หลีกภัย ไม่มีทางได้เป็น ส.ส. ไม่มีทางได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนรวยที่บอกว่าเข้ามาจะไม่โกง  มีมากมายที่เข้ามาแล้วโกงสุดท้ายแม้แผ่นดินก็ไม่มีอยู่ พรรคมีความมั่นใจในเขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดสงขลา รวมถึงเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดชุมพร ช่วงสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียงบุคลากรของพรรคลุยเต็มที่จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 15 ม.ค.” โฆษกพรรค ปชป.กล่าว

อย่างไรก็ดี น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 จังหวัดสงขลา พรรค ปชป. ชี้แจงกรณีที่มีการหาเสียงให้เลือกผู้สมัครที่มีฐานะร่ำรวยว่า ตนไม่ขอพูดถึงจะดีกว่า เนื่องจากแนวทางการหาเสียงของแต่ละพรรคแตกต่างกัน ตนก็มีแนวทางหาเสียงตน คือการแสดงความจริงใจ ไม่โอ้อวด และให้เกียรติประชาชนทุกคน และไม่อยากให้ต้องมาแบ่งชนชั้นกัน

 “การหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนจะถึงวันเลือกตั้งในวันที่ 16 ม.ค. ยังคงเน้นการเข้าถึง พบปะพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งให้มากที่สุด การลงพื้นที่เราเอาหัวใจไปมอบให้ประชาชน เราแสดงให้เขาเห็นว่าเราจริงใจ อาสาเข้ามาทำงาน และที่ผ่านมาก็มีประสบการณ์การทำงานด้านการเมืองมาพอสมควรแล้ว และเชื่อว่าหากได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน เขต 6 จ.สงขลา ก็จะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง” น.ส.สุภาพรกล่าว

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ปฏิเสธจะแสดงความเห็นถึงการหาเสียงของพรรค พปชร.และ ปชป.ที่มีการตอบโต้กันเรื่องการใช้โครงการคนละครึ่งมาเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคตัวเอง

ส่วนนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า รักกันไว้เถิด

วันเดียวกัน เฟซบุ๊กเพจ "Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)" ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย(มปท.) ได้เผยแพร่รายการ "คุยกับลุง" EP14 โดยนายสุเทพ กล่าวช่วงหนึ่งถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลาและชุมพรว่า เป็นวันสำคัญของพี่น้องชาวชุมพรและสงขลา เพราะเป็นวันที่มีการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ จ.ชุมพร เขต 1 และที่ จ.สงขลา เขต 6 ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใจจดใจจ่อว่าสถานการณ์ทั้ง 2 จังหวัดที่จะมีการเลือกตั้งซ่อมจะเป็นอย่างไร ฟังว่าที่ จ.ชุมพร สถานการณ์หนักหนาสาหัสเอาเรื่องอยู่ เพราะว่านายชุมพลได้ส่งหลานชายคือนายอิสรพงษ์ มากอำไพ (ตาร์ท) เป็นคนที่มีความรู้ จบปริญญาโทมาจากอังกฤษ ก่อนมาสมัคร ส.ส.ครั้งนี้เป็นเลขานุการของนายกองค์การบริหารส่วน จังหวัดชุมพร เป็นคนหนุ่ม มีความรู้ มีความสามารถ นายชุมพลรับรองคุณภาพว่าสามารถที่จะทำงานการเมืองรับใช้พี่น้องชาวชุมพรแทนนายชุมพลได้

“แต่ที่เป็นเรื่องยาก ก็เพราะพรรคพลังประชารัฐได้ส่งคนเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย สถานการณ์ที่หนักหนาสาหัสสำหรับนายชุมพล เพราะปรากฏตามข่าวว่าหัวหน้าและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่ลุยเอง ระดมสรรพกำลังประกาศครึกโครมว่าแพ้ไม่ได้นั้น ไม่ทราบว่าที่บอกว่าแพ้ไม่ได้นั้นเขาจะใช้วิธีการอย่างไร ทำได้แต่เพียงส่งเสียงเชียร์ว่า ลูกหมีสู้ๆ คิดว่าพี่น้องเขต 1 จ.ชุมพรที่รักและสงสารนายชุมพล คงต้องออกแรงกันมากเป็นพิเศษ"

นายสุเทพกล่าวว่า ในพื้นที่เขต 6 จ.สงขลา ที่เป็นการต่อสู้กันระหว่างพรรค พปชร.และพรรค ปชป. โดยพรรคประชาธิปัตย์ส่งนางสุภาพร กำเนิดผล ส่วน พรรคพลังประชารัฐส่งนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ สถานการณ์รุนแรงดุเดือดไม่น้อยกว่าจังหวัดชุมพร เขต 1

"ผมไม่ทราบว่าในใจลึกๆ ของนายถาวร เสนเนียมนั้น ตั้งใจจะให้ใครมาทำหน้าที่เป็น ส.ส.ในเขต 6 เพื่อสืบสานอุดมการณ์งานทางการเมืองของนายถาวร แต่เชื่อว่าพี่น้องประชาชนในเขต จ.สงขลาที่เคยทำงานร่วมกับนายถาวรมา คงเข้าใจได้ รู้กันในทีว่านายถาวรตั้งใจที่จะสนับสนุนใครมาทำงานการเมือง" นายสุเทพกล่าว

กกต.ลงคุมเลือกตั้งเข้ม

ที่จังหวัดสงขลา นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), นายสยุมพร ลิ่มไทย ที่ปรึกษาประจำกรรมการการเลือกตั้ง, นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้เชี่ยวชาญประจำกรรมการการเลือกตั้ง และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง ส.ส.สงขลา เขต 6 เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง สถานการณ์การแข่งขันของผู้สมัคร

นางพะเยีย ศิริโชติ ผอ.กกต.ประจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ขณะที่ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบ 1 เรื่องคือ กรณีที่พรรคก้าวไกลขอให้ตรวจสอบว่า ร.อ.ธรรมนัส มีการปราศรัยเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งกระบวนการหลังจากนี้ จะดำเนินการตรวจสอบคำร้องก่อนพิจารณาว่าจะรับไว้เป็นคำร้องหรือไม่

 ที่จังหวัดชุมพร นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (ประธาน กกต.) พร้อมคณะ ไปตรวจเยี่ยมสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชุมพร เพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 จังหวัดชุมพร ซึ่งทาง กกต.ชุมพร รายงานการหาเสียงแม้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่มีการแข่งขันดุเดือด โดยเฉพาะการแข่งขันของ 2 พรรคใหญ่ พรรคปชป.และพรรค พปชร. แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม แต่เชื่อว่าหลังการเลือกตั้งแล้วเสร็จน่าจะมีการยื่นคำร้องเข้ามาเรื่อยๆ 

ส่วนความคืบหน้าการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร กทม.นั้น นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.พรรคกล้า ลงพื้นที่หาเสียงตลาดและชุมชนย่านชินเขต เขตหลักสี่ ตั้งแต่ช่วงเช้าเดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าและพี่น้องประชาชนที่ออกมาจับจ่ายใช้สอย พร้อมปราศรัยให้ความรู้ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นจุดเด่นของพรรคกล้า

ด้านนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มอบหมายให้นายสิระ ขาวนุ่น ผู้ช่วยเดินทางมาร้องเรียนต่อ กกต.จากการให้สัมภาษณ์ของนายอรรถวิชช์ ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทยทางช่อง 9 ว่า พรรคพลังประชารัฐน่าจะส่งคนที่มีคุณภาพมากกว่านี้มาลงสมัคร เข้าข่ายการหาเสียงด้วยลักษณะโจมตี ใส่ร้าย ป้ายสี ที่ถือกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งกรณีหาเสียงเลือกตั้ง ว่าด้วยการหลอกลวงใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง ตามมาตรา 73 (5) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่

นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชน์ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. พรรคไทยภักดี พร้อมทีมงานลงพื้นที่หาเสียงตลาดบางเขน แนะนำตัวเองและขอกำลังใจให้สนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่

พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 14 ม.ค. จะเป็นการปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของนายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.พรรค พท. ในหัวข้อ “ผู้แทนฯ ในยุควิกฤต ความสำคัญของหลักสี่-จตุจักร บทบาทของผู้แทนฯในสภา-นอกสภา 17 ปีแห่งความหวัง ทำไมต้องเพื่อไทยเท่านั้น” มี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค, นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค, นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม., นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พร้อมด้วยนายจาตุรนต์  ฉายแสง สมาชิกพรรค เข้าร่วมการปราศรัยในครั้งนี้ ที่ชุมชนเสนานิคม 2 ซอยพหลโยธิน 34 ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป

 “นับตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ พี่น้องประชาชนจมอยู่กับความทุกข์มาโดยตลอด หากนับรวมกับการรัฐประหารในปี 2557 รวมกว่า 7 ปีที่พวกเราทุกคนต้องตกทุกข์ได้ยาก มาร่วมกันเพิ่มเสียงในสภา เพิ่มผู้แทนจากฝั่งประชาธิปไตยให้มากขึ้น ทวงอำนาจของประชาชนที่ควรได้กลับคืนมาผ่านการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ด้วยกัน” โฆษกพรรค พท.กล่าว.