สารพัดหน่วยงานบี้‘ดิไอคอน’

ตำรวจจ่อออกหมายจับผู้บริหาร  “ดิไอคอน” ปปง.ตั้งชุดพิเศษ เตรียมชงเข้า คกก.ธุรกรรม 17 ต.ค. ระบุ ตร.มีอำนาจอายัดทรัพย์ไว้ก่อนได้ “ดีเอสไอ” ขยับสอบคู่ขนาน ประธาน กมธ.ปปง.ฟันธง เหล่าดารามีความผิดด้วย “มิน พีชญา” ขอยุติรับงานแล้ว “ทนายตั้ม” หอบหลักฐานเอาผิด 6 บอส  

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์  รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.)  กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทำธุรกิจของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ว่าตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ต่อเนื่องถึงวันนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีประชาชนที่ระบุว่าเป็นผู้เสียหายเดินทางมาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประมาณ 120 ราย ความเสียหายรายละ 200,000-500,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท ขณะนี้คณะทำงานได้รับพยานเอกสารของประชาชนในส่วนของหลักฐานการติดต่อ การชักชวนไปร่วมลงทุนธุรกิจ และตัวอย่างสินค้า รวบรวมไว้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเรียบร้อยแล้ว

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า ส่วนจะเป็นการประกอบธุรกิจขายตรงคล้ายกันกับบริษัทใหญ่ที่เป็นที่รู้จักหรือไม่ ส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบการจดทะเบียนขออนุญาตการประกอบกิจการ เพราะธุรกิจขายตรงต้องมีการจดทะเบียนขออนุญาต รวมถึงต้องสอบถามตัวแทนขายว่าลักษณะการไปอบรม การนำทรัพย์สินไปใช้ในธุรกิจดังกล่าวมีลักษณะใด เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายธุรกิจขายตรงหรือไม่

 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวอีกว่า ต้องยอมรับว่าลักษณะธุรกิจขายตรงกับแชร์ลูกโซ่ มีเส้นบางๆ กั้นอยู่ ทางคณะตำรวจที่ทำงานจะต้องพยายามรวบรวมข้อเท็จจริง สรุปวินิจฉัยอย่างรอบคอบ ภายในวันที่ 11 ต.ค. จะพยายามระบุข้อหาความผิดให้ได้ว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องถูกกล่าวหาความผิดเรื่องใดบ้าง ในชั้นแรกจะมุ่งไปที่ตัวผู้ประกอบการก่อนว่ากระทำผิดประเภทไหน จากนั้นจึงเป็นการพิจารณาบุคคลที่เกี่ยวข้องว่าเข้าข่ายลักษณะความผิดของตัวการด้วยหรือเป็นเพียงผู้เข้าร่วม

รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้พูดคุยกับเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยตรง ว่าเรื่องนี้ตำรวจมีหน้าที่สอบสวน แต่ไม่มีอำนาจยึดทรัพย์ใคร เพียงแต่ตำรวจมองว่าพี่น้องประชาชนกำลังเดือดร้อน ดังนั้น ผู้ที่ถูกกล่าวหาอาจจะกระทำความผิด

  เมื่อถามว่า กรณีดาราที่มีส่วนที่จะทำให้ประชาชนตัดสินใจมาร่วมลงทุน และระบุว่าตนไม่ใช่ฝ่ายบริหาร จะมีการพิจารณาดำเนินคดีความผิดใดหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐตอบว่า ถ้าข้อเท็จจริงได้พาดพิงถึงบุคคลใด ยืนยันว่าจะเรียกมาสอบสวนทั้งหมด หากพบว่าพฤติการณ์ดังกล่าวมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด จะต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วย แม้บุคคลนั้นจะไม่มีตำแหน่งในบริษัท แต่มีพฤติการณ์ความผิด ทั้งนี้ ได้มีการเตรียมการป้องกันหากมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการหลบหนีออกนอกประเทศ

คกก.ธุรกรรมประชุม 17 ต.ค.

พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจค้นโกดังของดิไอคอนกรุ๊ป เพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัท ที่มีเพียง 15 รายการ แต่กลับพบว่ามีรายได้ของบริษัทบางปีได้รายได้ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท และได้ส่งสมุดบัญชีธนาคารจำนวนกว่า 120 บัญชีให้ ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งจะเป็นบัญชีตั้งแต่กลุ่มลูกข่ายดาวน์ไลน์  ดารานักแสดง และผู้บริหาร ไปตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างไร และเข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่ ตอนนี้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานกันตลอด นับเป็นรายชั่วโมง เพื่อรวบรวมหลักฐาน และยืนยันภายใน 48 ชั่วโมงจะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า ต้องออกหมายเรียกก่อนหรือไม่ พ.ต.อ.อุเทนกล่าวว่า ความผิดมีโทษเกิน 3 ปี  สามารถออกหมายจับได้เลยทันที และหมายจับที่ออกอาจจะเป็นกลุ่มผู้บริหารหรือดาราที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนที่มีการรวบรวมผู้เสียหายให้ได้ 200 คนขึ้นไปนั้น เป็นการรวบรวมผู้เสียหายให้เข้าหลักเกณฑ์ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับเป็นคดีพิเศษ

นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง.   กล่าวว่า ปปง.ได้รับหนังสือการประสานให้ตรวจสอบกรณีดิไอคอนกรุ๊ป จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) แล้ว และได้สั่งตั้งชุดตรวจสอบเป็นพิเศษทันที โดยหลักการแล้ว เนื่องจากการใช้อำนาจตามกฎหมายฟอกเงินกระทบสิทธิส่วนบุคคล จึงต้องมีขั้นตอนการตรวจสอบที่รอบคอบและเข้าข่ายความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน ตำรวจได้ประสานให้ตรวจสอบในความผิดการกู้ยืมเงิน ซึ่งเป็นการฉ้อโกงประชาชน ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดเดาหรือเปิดเผยจำนวนทรัพย์สินได้ ขั้นตอนหลังรับเรื่องแล้ว ตรวจสอบพฤติการณ์ ธุรกรรมการเงิน และทรัพย์สิน ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการธุรกรรม ในวันที่ 17 ต.ค.นี้

เลขาธิการ ปปง.กล่าวอีกว่า เบื้องต้นได้ประสานธนาคารแล้ว การใช้อำนาจการยึดอายัดทรัพย์สินเป็นรูปแบบคณะกรรมการธุรกรรม  อันดับแรกจึงต้องตรวจพฤติการณ์การกระทำผิดก่อน เมื่อเข้ามูลฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน หรือการกู้ยืมเงินโดยฉ้อโกงประชาชน จึงดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

นายวิทยา นีติธรรม โฆษกสำนักงาน ปปง.  กล่าวว่า กรณีดิไอคอนกรุ๊ป พนักงานสอบสวนมีประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาสามารถอายัดทรัพย์ของกลางไว้ก่อนได้ เพื่อป้องกันการถ่ายเททรัพย์ ระหว่างนี้ ปปง.จะต้องทำการตรวจสอบความสมบูรณ์ครบถ้วนจากรายงานข้อมูลของตำรวจ บก.ปคบ. ว่ามีความเพียงพอที่ ปปง.จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ได้หรือไม่ หากยังมีรายละเอียดใดที่ ปปง.ประสงค์เพิ่มเติม จะต้องทำการสอบถามกลับไปใหม่ เพื่อให้ได้ความถูกต้องชัดเจนมากที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องรายการทรัพย์สิน หรือตัวบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์ ขณะมูลค่าความเสียหาย ทางตำรวจ บก.ปคบ.ได้แจ้งมาทั้งจำนวนผู้เสียหายและจำนวนเงินที่ได้รับคำร้องทุกข์ คือผู้เสียหาย 90 ราย มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ อาจมีมูลค่าความเสียหายและจำนวนผู้เสียหายเพิ่มขึ้นได้อีก ซึ่งเป็นประเด็นที่ตำรวจและ ปปง.เองจะต้องช่วยกันตรวจสอบอย่างเข้มข้นต่อไป

โฆษกสำนักงาน ปปง.กล่าวว่า หากข้อมูลจากตำรวจ บก.ปคบ. ปรากฏข้อเท็จจริงว่าพฤติการณ์ดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมายฟอกเงินของ ปปง. เจ้าหน้าที่ก็จะได้ตรวจสอบว่าผู้สัมพันธ์เกี่ยวข้องแต่ละรายมีการครอบครองทรัพย์สินรายการใดบ้าง และทรัพย์สินต่างๆ ได้มาอย่างไร จึงจะนำไปสู่กระบวนการดำเนินการกับทรัพย์สิน โดยต้องประมวลเรื่องส่งไปยังที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมเพื่อมีมติออกคำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบชั่วคราว

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ส่วนที่เกี่ยวกับสถานะคดีพิเศษ ต้องพิจารณาว่าอยู่ในบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ หากมีเรื่องแชร์ลูกโซ่ มีมูลค่าความเสียหาย 100 ล้านบาทขึ้นไป มีผู้เสียหายมากกว่า 300 คน จึงจะนำเข้าสู่การพิจารณาเพื่อรับเป็นคดีพิเศษได้ ถ้ามีผู้ร้องมาต้องดำเนินการสอบสวนก่อน อำนาจตอนนี้เป็นของตำรวจ โดยดีเอสไอได้ติดตามและจัดชุดตรวจสอบคู่ขนาน เพื่อหาข้อเท็จจริง หากเป็นคดีพิเศษ ดีเอสไอก็สามารถตั้งตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวนร่วมสอบสวนได้ ทั้งนี้ ทาง สคบ.ได้ประสานมายังดีเอสไอ และมีการประสาน ปปง.เพื่อป้องกันการยักย้ายทรัพย์

ยื่นเอาผิด 6 บอส

วันเดียวกัน ที่บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ ถ.รามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. นายวิธิเนศวร์ เนียมมีศรี นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ (สคบ.) พร้อมคณะทำงาน สคบ.,   ตำรวจไซเบอร์ และตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป นานกว่า 2 ชั่วโมง โดยเข้าตรวจผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท และค้นหาเอกสารการทำธุรกรรม เส้นทางการเงิน รวมถึงเอกสารการจดทะเบียนการค้า หลังมีผู้ร้องเรียนว่ามีการชักชวนลงทุนเป็นจำนวนมาก

นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด (ปปง.) กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้อ้างตัวว่าเป็นผู้เสียหายชัดเจน เบื้องต้นจากที่เห็นข้อมูลต่างๆ ที่เข้ามา กมธ.คงจะไม่นิ่งนอนใจ เนื่องจากเรื่องนี้กระทบกับจำนวนคนพอสมควร คงจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ กมธ. เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงาน ปปง., สคบ. รวมถึงอาจจะให้โอกาสผู้บริหารของดิไอคอนกรุ๊ปได้มาชี้แจงด้วย

เมื่อถามว่า ตอนนี้คนเชื่อไปด้วยว่าเหล่าดาราเป็นคนทำกิจการเอง เป็นบอสเอง หากพบว่าทำให้คนหลงเชื่อและคิดแบบนั้นจริง ตัวดาราเองก็มีความผิดใช่หรือไม่ นายเลิศศักดิ์กล่าวว่า แน่นอน จะอ้างว่าไม่รู้ เป็นแค่พรีเซนเตอร์อย่างเดียวไม่ได้ ถ้าเป็นพรีเซนเตอร์อย่างเดียวต้องไปดูเจตนาอีกว่ารู้ข้อเท็จจริงในสินค้าที่ตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์หรือไม่ เพราะดาราถือเป็นบุคคลสาธารณะที่มีคนสนใจ คนอาจจะมีความเชื่อถือ จึงต้องตรวจสอบว่ามีการใช้จริงหรือไม่ เพราะมีการนำเสนอ เป็นการหลอกลวงประชาชนได้เหมือนกัน

ที่โรงแรมสวิสโฮเต็ล กทม. น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ มิน-พีชญา นางเอกสาว พร้อมทนายความ ออกมาแถลงข่าวเปิดใจประเด็นมีชื่อเป็นบอสมิน ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ในเครือดิไอคอนกรุ๊ป ว่า ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหาย ไม่ได้นิ่งนอนใจ อยากใช้พื้นที่ตรงนี้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ตนรับจ้างเป็นพรีเซนเตอร์ และ ผอ.สื่อสารองค์กร หรือพีอาร์ โดยมีสัญญาว่าจ้าง คนในบริษัทจะเรียกตนเองว่าบอส การทำงานพีอาร์ ได้รายได้พอๆ กับพรีเซนเตอร์ เพิ่งร่วมงานกับดิไอคอนเมื่อต้นปี ทำงานร่วมกันมาปีกว่า ตอนนี้ขอยุติรับงานกับดิไอคอนทั้งหมด ขอยืนข้างประชาชน พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบจากทุกหน่วยงาน

ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อมผู้ช่วย เดินหน้าเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้บริหารของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ หลังมีผู้เสียหายหลายรายร้องทุกข์

โดยนายษิทรากล่าวว่า มาแจ้งความดำเนินคดีกับทางบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ รวมไปถึงผู้บริหารทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น บอสพอล, บอสกันต์, บอสปีเตอร์, บอสหมอเอก, บอสมิน, บอสแซม ในเรื่องของ พ.ร.ก.กู้ยืมเงินอันเป็นฉ้อโกงประชาชนหรือแชร์ลูกโซ่ เรื่องของฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และจะเข้าสู่มูลฐานร่วมกันฟอกเงินด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดีเอสไอ'​ แจ้งเพิ่มข้อหา 18 บอส 'ดิไอคอน' คดีแชร์ลูกโซ่-​ขายตรง

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 115/2567 และคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีการดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก