‘เสี่ยหนู’หนุนถก‘MOU44’

“อนุทิน” ชี้เป็นสิทธิ์ “สส.-สว.” ถก MOU 44 ในสภา ยันรัฐบาลพร้อมแจง ย้ำยังไม่มีข้อตกลงอะไรทำให้เสียดินแดน “หมอเชิดชัย” เชื่อเอ็มโอยูจุดไฟม็อบไม่ติดแน่ ถามล้มอุ๊งอิ๊งแล้วใครจะเป็นนายกฯ

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)   ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอให้ใช้กลไกของรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปให้ สส.และ สว. ซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องเอ็มโอยู 2544 เพื่อป้องกันการชุมนุมประท้วงว่า เป็นสิทธิ์ของทุกฝ่าย  ทุกอย่างอยู่บนข้อเท็จจริง ข้อมูลและเจตนารมณ์  เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร หากใครมีข้อมูลคำแนะนำชี้แนะมา รัฐบาลก็ยินดีรับฟังอยู่แล้ว และยืนยันว่าไม่มีที่รัฐบาลของไทยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะยอมเสียประโยชน์ให้ต่างชาติ หรือจะยอมแบ่งดินแดนเพื่อประโยชน์ทางรายได้

 “ผมมั่นใจว่าไม่มี มองว่าเป็นการพูดไปเรื่อยเปื่อย เพราะความจริงแล้วยังไม่มีการทำอะไร ยังไม่มีการเจรจาและตกลงอะไรอย่างเป็นทางการ ที่เรียกว่า Agree to disagree” นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามย้ำว่า จำเป็นต้องถกกันในสภาหรือไม่  นายอนุทินกล่าวว่า ก็แล้วแต่หากสมาชิกรัฐสภาท่านใดต้องการเสนอแนะ ซึ่งความจริงก็มีการถกกันมาในสภาหลายรอบแล้ว หากใครมีประเด็นก็อาจอาจยื่นกระทู้หรือขอเปิดอภิปรายทั่วไป ถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็มีความพร้อมในการชี้แจง

ถามอีกว่า เชื่อว่ารัฐบาลตอบได้ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลตอบได้ แต่เป็นเรื่องที่ต้องอยู่เป็นข้อเท็จจริง บนฐานข้อมูลที่มีอยู่ และที่สำคัญที่สุดคือต้องยึดถือพระบรมราชโองการที่มีไว้ว่า เขตแดนตรงไหนเป็นของไทย ซึ่งตรงนี้มีความชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล

ขณะที่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ถ้าทำได้ก็ได้ เป็นการใช้เวทีสภาหาทางออก เพราะเอ็มโอยู 44 เป็นเรื่องที่มีความเห็นต่างมากมาย ควรนำไปพูดคุยในสภา ใครสงสัยอะไร รัฐบาลจะได้ชี้แจงทำความเข้าใจ เอาความจริงมาพูดกัน รัฐบาลจะได้ชี้แจง ดีกว่าไปปลุกม็อบลงถนน

 “ที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่เห็นด้วย และมองว่าไม่จำเป็นต้องใช้กลไกรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 แก้ปัญหานั้น ถือเป็นความเห็นของนายชูศักดิ์ ที่อยากให้นายนพดลนำเรื่องเอ็มโอยู 44 มาหารือในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เพื่อลงมติว่าควรเปิดเวทีอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 หรือไม่ เพื่อให้รัฐบาลใช้เป็นเวทีชี้แจงทำความเข้าใจยุติปัญหา เพราะเอ็มโอยูเป็นแค่ข้อตกลง ไม่มีผลทางกฎหมาย” นพ.เชิดชัยกล่าว

นพ.เชิดชัยยังกล่าวถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ว่าจะลงถนนเพื่ออะไร ล้มรัฐบาลได้ จะเอาใครเป็นนายกฯ ควรปล่อยให้ประเทศเดินหน้าได้ ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ปรากฏว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในขณะนั้น ก็ไปเจรจาเอ็มโอยู 44 กับกัมพูชา แต่ทำไมนายสนธิเงียบ

“เชื่อว่าปัญหาเอ็มโอยู 44 ไม่ได้เป็นเงื่อนไขให้ม็อบจุดติด เพราะตอนนี้คนเบื่อม็อบ ทะเลาะกันมานาน เศรษฐกิจแย่ ถ้ายังมาปลุกม็อบล้มรัฐบาล ใครจะมาแก้เศรษฐกิจ ผมอยากรู้ว่านายสนธิทำไปเพื่ออะไร ถ้ามีการรัฐประหาร ประเทศจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่” นพ.เชิดชัยกล่าว.