โค้งสุดท้ายอบจ. สทร.ขึ้นทุกเวที เหนือยันอีสาน!

แพ้ไม่ได้! เลือกนายก อบจ.โค้งสุดท้าย "ทักษิณ" บุกเหนือยันอีสาน ศรีสะเกษ-เชียงราย-เชียงใหม่ "สรท." ขึ้นเองทุกเวที คู่แข่งแข็งโป๊ก เจอบ้านใหญ่พรรคสีน้ำเงินลุยหาเสียงหนักหน่วง "ยงยุทธ" ชูเชียงฮายโมเดล สู้บ้านใหญ่วันไชยธนวงศ์ ดันสร้างถนนสายเศรษฐกิจและวัฒนธรรม 10 กิโลเมตร 

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ มีการจัดเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งของนายวิวัฒน์ชัย  โหตระไวศยะ ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ  พรรคเพื่อไทย โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงในวันที่ 24 ม.ค.

โดยวันที่ 24 ม.ค. ตามกำหนดการ เดินทางจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินอุบลราชธานี และออกเดินทางไปยังสนามที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นเวลา 09.30-11.30 น. นายทักษิณขึ้นเวทีปราศรัยที่แรก ช่วยนายวิวัฒน์ชัยหาเสียง

จากนั้น เวลา 14.00-15.00 น. นายทักษิณเดินทางไปยังหอประชุมสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ อ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อพบปะพูดคุยกับนักกีฬา  เยาวชน และผู้สนใจกีฬาฟุตบอล "เล่าประสบการณ์จากแมนซิตีถึงศรีสะเกษ" และเวลา 15.30-17.30 น. จะมีการปราศรัยเวทีที่สอง ณ สนามฟุตบอล (บ้านสวน สส.ธเนศ)

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการจัดเวทีปราศรัยบริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ได้นำแผงเหล็กมาเรียงกั้นไว้ คาดว่านำมารักษาความปลอดภัยให้นายทักษิณ หลังถูกสาวอดีตเสื้อแดงปาถุงใส่ขณะปราศรัยที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม

ส่วนความเคลื่อนไหวการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.จังหวัดเชียงราย ที่จะมีการเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ นายทักษิณได้จัดคิวจะไปช่วยหาเสียงและขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อช่วยนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา ในวันที่ 29 ม.ค.นี้ ซึ่งตรงกับวันตรุษจีน โดยจะขึ้นเวทีปราศรัยให้สามเวทีรวดภายในวันเดียว เช่นที่สนามฟุตบอลสโมสรเชียงรายยูไนเต็ดฯ ที่ลูกชายและลูกสาวของนายยงยุทธเป็นผู้บริหารสโมสร

 หลังก่อนหน้านี้ นายทักษิณเคยไปช่วยหาเสียงให้แล้วเมื่อวันที่ 5 ม.ค. เท่ากับเป็นการไปช่วยหาเสียงให้ถึง 2 รอบ ซึ่งมีแค่เชียงรายกับเชียงใหม่เท่านั้นที่มีลักษณะดังกล่าว เพราะนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยเห็นว่าจังหวัดเชียงรายเป็นพื้นที่สำคัญในยุทธศาสตร์การเมืองภาคเหนือของพรรคเพื่อไทย จึงต้องการชนะในศึกเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงรายให้ได้ เพื่อนำไปต่อยอดการเมืองระดับชาติ ซึ่งแม้จะเป็นภาคเหนือที่เป็นฐานเสียงสำคัญของนายทักษิณและพรรคเพื่อไทย

 ทั้งนี้ พบว่าการหาเสียงนายก อบจ.เชียงราย ในพื้นที่ยังสูสีอยู่ เพราะคู่แข่งสำคัญคือ นายอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ หรือนายกนก อดีตนายก อบจ.เชียงราย จากบ้านใหญ่เชียงราย ตระกูลวันไชยธนวงศ์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคสีน้ำเงิน ที่ทางทีมงานหาเสียงของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน กำลังจับตาว่าในช่วงโค้งสุดท้ายคู่แข่งอาจลุยหาเสียงอย่างหนัก และส่วนกลางอาจเข้ามาช่วยสนับสนุนในสัปดาห์สุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง ทำให้ทีมงานของพรรคเพื่อไทยไม่ประมาท และทำให้นายทักษิณต้องขึ้นไปช่วยหาเสียงให้นายยงยุทธและภรรยาเป็นรอบที่ 2 โดยที่บางจังหวัดในภาคเหนือ เช่น ลำพูน แพร่ และลำปาง ที่มีการเลือกตั้งนายก อบจ.เช่นกัน  ไม่มีคิวที่นายทักษิณจะไปช่วยหาเสียงแต่อย่างใด 

 จากนั้นวันรุ่งขึ้น 30 ม.ค. นายทักษิณจะเดินทางไปปิดการเดินสายช่วยหาเสียงที่จังหวัดเชียงใหม่ บ้านเกิดตระกูลชินวัตร โดยอยู่ระหว่างการเตรียมการว่าจะเปิดการปราศรัยใหญ่ที่จุดใดของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่เป็นการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นระหว่างเพื่อไทยกับพรรคประชาชน ที่ส่งคนลงสมัครในนามพรรคอย่างเป็นทางการ

 ขณะเดียวกัน ในช่วงก่อนเข้าโค้งสุดท้ายการหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.ในสัปดาห์หน้า พบว่าในส่วนของนายยงยุทธและนางสลักจฤฎดิ์กับคณะ ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนขอคะแนนอย่างหนักต่อเนื่อง วันละหลายจุด ทั้งปราศรัยย่อย, ปราศรัยใหญ่ โดยเดินสายหาเสียงหลายจุด เช่น  อำเภอเวียงแก่น, อำเภอเชียงแสน, อำเภอแม่จัน, อ.เมืองฯ, อ.แม่ฟ้าหลวง 

 นายยงยุทธ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้นางสลักจฤฎดิ์ กล่าวว่า ประชาชนชาวเชียงรายให้การตอบรับและตื่นตัวอย่างมาก เพราะทางผู้สมัครและทีมได้นำเสนอนโยบาย แนวความคิดหลายอย่างที่ประชาชนจับต้องได้ ทั้งนำเสนอแนวคิดเรื่องการพัฒนาจังหวัดโดยเชื่อมโยงกับส่วนกลาง-รัฐบาล ในรูปแบบเชียงรายโมเดล โดยจะทำให้เชียงรายเป็นโมเดล ให้เห็นถึงการช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ เช่น ปรับจากที่เกษตรกรเป็นต้นน้ำ (ผู้ผลิต) ทาง อบจ.เองต้องเข้ามาอยู่กลางน้ำ หาพื้นที่ตลาดกลาง ลดนายทุนผูกขาดที่เอาเปรียบชาวบ้าน

 นายยงยุทธกล่าวว่า ผู้สมัครนายก อบจ.พรรคเพื่อไทยได้เสนอนโยบายที่จะดำเนินการสร้างถนนสายเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ที่มีแต่รถล้อยางวิ่ง จากหน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงถึงรถไฟสายใหม่ ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร เพื่อจะได้นำสินค้าเกษตรและของดีทั้ง 18 อำเภอจากจังหวัดเชียงราย ต่อยอด OTOP มาวางจำหน่าย ในรูปแบบห้างสรรพสินค้า ตามจุดอำเภอนั้นๆ  เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้จับจ่ายซื้อสินค้า เหมือนกับที่คนไทยเดินทางไปต่างประเทศแล้วซื้อสินค้ากลับมาอย่างไรอย่างนั้น ถนนเส้นนี้ นอกจากจะขายสินค้าและของดีประจำอำเภอทั่วจังหวัดเชียงรายแล้ว ทาง อบจ.ยังได้คิดที่จะจัดงานเนื่องในเทศกาลต่างๆ เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสด้วย

นอกจากนั้น อบจ.จะต้องทำหน้าที่เรื่องการสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง การส่งเสริมเรื่องการศึกษา ที่ต้องสนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่มีโอกาสได้เรียนภาษาที่ 2 ภาษาที่ 3 เพื่อจะได้สื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่นับวันได้เข้ามาสัมผัส สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพิ่มสูงขึ้น อบจ.ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับโลกยุคใหม่ โลกออนไลน์ที่เปลี่ยนแปลงไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดักคอ‘ชิตตู’กุมความลับไทยเทา

เงื้อค้างหมายจับ “ชิตตู” เลื่อนพิจารณาไป 17 ก.พ. “โรม” ดักคอเป็นผู้กุมความลับโยงไทยเทา ตั้งข้อสังเกตรอให้ถ่ายเททรัพย์สินออกไปหมดหรือไม่