“ในหลวง-พระราชินี” เสด็จฯ พิธีบายศรีทูลพระขวัญตามประเพณีล้านนาเป็นครั้งแรกในรัชกาลปัจจุบัน เจ้านายฝ่ายเหนือ-ชาวเชียงใหม่ถวายพระเกียรติสูงสุดในโอกาสมหามงคล 72 พรรษา
เมื่อเวลา 17.52 นาฬิกา วันที่ 26 มกราคม พุทธศักราช 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีบายศรีทูลพระขวัญ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ ถนนพระปกเกล้า อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าวงศ์สักก์ ณ เชียงใหม่ ประธานสายสกุล ณ เชียงใหม่ คณะกรรมการมูลนิธินวราชดำริอนุรักษ์ฝ่ายเหนือ ข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
การนี้ ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ ทรงกราบ เสร็จแล้ว เสด็จเข้าพลับพลาพิธี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ต.เจ้าวัฒนัน ณ ลำพูน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเจ้าแสงตะวัน ณ เชียงใหม่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตรแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาของพิธีบายศรีทูลพระขวัญ พร้อมทั้งขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตประกอบพิธีบายศรีทูลพระขวัญ ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรริ้วขบวนฟ้อนเชิญบายศรีทูลพระขวัญ พร้อมเครื่องราชสักการะ และพุ่มดอกไม้ของเจ้านายฝ่ายเหนือ ประกอบด้วย กังสดาล วงกลองชุม ขบวนตุงช่อ ฟ้อนเจ้านายฝ่ายเหนือ ฝ่ายชายและฝ่ายหญิง นำหน้าพานพระขวัญและบายศรีต้นแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ขบวนหัวหมู เครื่องคาว เครื่องหวาน ขบวนเครื่องสักการะล้านนา และขบวนพานพุ่มดอกไม้ 5 สกุล ได้แก่ ณ เชียงใหม่, ณ ลำพูน, ณ ลำปาง, ณ น่าน และ ณ เชียงตุง เมื่อผู้เชิญบายศรีทูลพระขวัญพร้อมเครื่องราชสักการะและพุ่มดอกไม้ฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าฯ ถวาย ณ โต๊ะบริเวณมุขพลับพลาพิธีแล้ว เจ้าศรีรัตน์ ณ ลำปาง ร่ายนำคำทูลพระขวัญ ซึ่งเป็นทำนองของเจ้านายฝ่ายเหนือ ที่เคยปฏิบัติถวายมาแต่ในอดีต นายสนั่น ธรรมธิ สำนักศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขับลำนำทูลเชิญพระขวัญ เจ้าวงศ์สักก์ ณ เชียงใหม่ ประมุขสายสกุล ณ เชียงใหม่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ผูกข้อพระหัตถ์ขวาและซ้ายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย กับทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือเจ้าหลวงเชียงใหม่ เจ้าวรเทวี ณ ลำพูน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ผูกข้อพระหัตถ์ขวาและซ้ายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือเจ้าหลวงลำพูน เจ้าธวัชวงศ์ ณ เชียงใหม่ และเจ้าประภารัตน์ ณ ลำพูน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าฯ ถวายของที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
จากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงชุดเฉลิมรัชทศราชา บรมราชจักรีวงศ์ ประกอบด้วย ชุดที่ 1 ปฐมพงศ์วงศ์พิงคนคร, ชุดที่ 2 สานสัมพันธไมตรีทิพย์จักรจักรีวงศ์, ชุดที่ 3 สายใยรักสองแผ่นดิน และชุดที่ 4 ร่มฟ้าบารมี ทศมราชา บรมราชจักรีวงศ์ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร
ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนิน จ.เชียงใหม่ครั้งนี้ มีราษฎรจำนวนมากต่างพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จและส่งเสด็จ เพื่อชื่นชมพระบารมีด้วยความจงรักภักดี ระหว่างเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินผ่านมีราษฎรแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง พร้อมใจกันฟ้อนเทียนและฟ้อนเล็บด้วยท่วงท่าการฟ้อนที่มีความอ่อนช้อยและงดงาม ซึ่งเป็นวัฒนธรรมและประเพณีโบราณของชาวล้านนา เพื่อถวายพระเกียรติและถวายการต้อนรับ
พิธีบายศรีทูลพระขวัญเป็นประเพณีและวัฒนธรรมพื้นเมืองของเจ้านายฝ่ายเหนือที่ปฏิบัติสืบทอดมาแต่โบราณ ตั้งแต่เมื่อครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎร ณ มณฑลพายัพ เมื่อปี 2469 และต่อมาได้มีการจัดพิธีบายศรีทูลพระขวัญขึ้นอีก 2 วาระ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2501 และในโอกาสที่เสด็จฯ ไปในพิธีสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เนื่องในโอกาสมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2539
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเคยเสด็จฯ ไปในพิธีบายศรีทูลพระขวัญ เนื่องในโอกาสที่ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยดันทรูน ณ สนามกีฬาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2519 และในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ณ สวนสาธารณะหนองดอก อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2525 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงให้ความสำคัญและทรงตั้งพระราชปณิธานที่จะสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมอันดีที่มีมาแต่โบราณ
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นับเป็นโอกาสมหามงคลอันดียิ่ง ที่มูลนิธินวราชดำริอนุรักษ์ฝ่ายเหนือ ร่วมกับเจ้านายฝ่ายเหนือและจังหวัดเชียงใหม่ จัดพิธีบายศรีทูลพระขวัญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ซึ่งเป็นการจัดพิธีนี้ขึ้นเป็นครั้งแรกในรัชกาล เพื่อความเป็นสิริมงคล แสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ ที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรและทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่ภาคเหนือมาโดยตลอด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยึดเนิน350ได้แล้ว! ร่าง2ทหารกล้ากลับมาตุภูมิ/ส่งสัญญาณเตือนชนชั้นนำเขมร
ข่าวดี! ทหารไทยควบคุมเนิน 350 ได้แล้ว อยู่ระหว่างการสถาปนาความมั่นคง นำร่าง 2 วีรบุรุษกลับมาตุภูมิ ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ ตรวจพบการปะทะเป็นระยะ
พท.ผวา ‘มันนีโพลิติกส์’
พรรคประชาชนเดินหน้าฝันแลนด์สไลด์ได้ สส. 250 ที่นั่ง จัดตั้งรัฐบาลประชาชน ดูจากตัวเลขผู้บริจาคให้พรรคมากกว่าแสนคน ขณะที่เพื่อไทยต้อนรับทีมสุวัจน์
แฉ‘สแกมเมอร์’ เล็งหลอกคนแก่ ดูดเงินในมือถือ
ตร.เตือนภัย สแกมเมอร์พุ่งเป้าข้าราชการบำนาญ ลวงอัปเดตข้อมูล รับสิทธิ์ ติดตั้งแอปควบคุมโทรศัพท์ดูดเงิน
เตือน!ใช้สิทธิประชามติ 8ก.พ.เท่านั้นไม่ล่วงหน้า
"กกต." แจงลงทะเบียนใช้สิทธินอกเขต “เลือกตั้ง สส.” ล่วงหน้า 1 ก.พ. แต่ “ประชามติ รธน.”
ฝุ่นตลบ!นักเลือกตั้งย้ายพรรค
เลขาฯ กกต.รับเลือกตั้งหนนี้เหนื่อยแน่นอน “อนุทิน” การันตี ถ้าชนะ “เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์” เ
‘ยธ.’จ่อคุ้ยMOUสิงคโปร์
“รุทธพล” รับกำลังตรวจผลการลงนามเอ็มโอยูสแกนม่านตากับสิงคโปร์

