โต้นายสิ้นมนตร์ขลัง พท.โวได้เกินครึ่ง/บัตรเสีย-โนโหวตพุ่ง

เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ. บัตรเสีย-บัตรโหวตโนพุ่งสูง "โคราช" โหวตโนสูงเหยียบแสน   ส่วนเชียงใหม่-สงขลาเกินครึ่งแสน ผลเลือกตั้ง 47  จังหวัด "บ้านใหญ่" ยึดหัวหาดหมด พท.ได้แค่ 10 ที่นั่ง "เครือข่ายสีน้ำเงิน" กวาดไป 9 "รทสช." ได้ถึง 5  "พรรคส้ม" ได้เพียง 1 เดียว ล้านนาสะเทือน “แม้ว” ทรุด “สีน้ำเงิน” ผงาด "สรวงศ์" รับพ่ายศึกนายก อบจ."เชียงราย-ลำพูน" ทำการบ้านไม่พอ ขออย่ามอง "ทักษิณ" หมดมนตร์ขลัง ทุกคนทำเต็มที่แล้ว  "เท้ง" ขอโทษ เสียดายหาก ปชช.มาใช้สิทธิมากกว่านี้จะได้เก้าอี้เพิ่มอีก "เลขาฯ ติ่ง" เผยยื่น "กกต."  ตรวจสอบบัตรเสียแล้ว "วิชิต" ซัก สทร.ทำท้องถิ่นแตกแยก "สมชัย-เทพไท" ประสานเสียงทักษิณสิ้นมนตร์ขลัง

เมื่อวันอาทิตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่าในส่วนของการเลือกนายก อบจ.หลายจังหวัดมียอดของจำนวนบัตรเสียกับบัตรไม่เลือกผู้สมัครคนใดสูงหลักหมื่นหลักแสนจำนวนมาก อาทิ จังหวัดนครราชสีมา มีผู้มาใช้สิทธิ 1,155,142 คน บัตรดี 972,902 ใบ, บัตรเสีย 71,306 ใบ (6.17%), บัตรไม่เลือกผู้สมัครคนใด 110,934 ใบ (9.60%)

จังหวัดมหาสารคาม มีผู้มาใช้สิทธิ 453,567 คน บัตรดี 408,108 ใบ, บัตรเสีย 29,007 ใบ, บัตรไม่เลือกผู้ใด16,452ใบ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้มาใช้สิทธิ 877,640 คน บัตรดี 778,227 ใบ, บัตรเสีย 41,798 ใบ, บัตรไม่เลือกผู้ใด 57,625 ใบ จังหวัดเชียงราย มีผู้มาใช้สิทธิ 605,780 คน บัตรดี 525,928 ใบ, บัตรเสีย 36,446 ใบ (6.02%), บัตรไม่เลือกผู้ใด 43,406 ใบ (7.17%) จังหวัดยะลา มีผู้มาใช้สิทธิ 224,707 คน บัตรดี 176,840 ใบ, บัตรเสีย 18,533 ใบ (8.25%), บัตรไม่เลือกผู้ใด 29,334 ใบ (13.05%) จังหวัดสงขลา ผู้มาใช้สิทธิ 687,944 คน, บัตรดี 572,496 ใบ, บัตรเสีย 28,593 ใบ (4.16%), บัตรไม่เลือกผู้ใด 86,855 ใบ (12.63%) จังหวัดสมุทรปราการ มีผู้มาใช้สิทธิ 569,659 คน บัตรดี 547,604 ใบ, บัตรเสีย 22,055 ใบ, บัตรไม่เลือกผู้ใด 42,142 ใบ

จังหวัดนนทบุรี ผู้มาใช้สิทธิ 432,613 คน บัตรดี 382,782 ใบ, บัตรเสีย 12,268 ใบ, บัตรไม่เลือกผู้ใด 37,562 ใบ (8.68%) จังหวัดสุพรรณบุรี ผู้มาใช้สิทธิ 393,849 ใบ, บัตรดี 353,460 ใบ, บัตรเสีย 16,274 ใบ, บัตรไม่เลือกผู้ใด 24,113 ใบ จังหวัดกำแพงเพชร มีผู้มาใช้สิทธิ 272,278 คน บัตรดี 236,084 ใบ, บัตรเสีย 14,712 ใบ, บัตรไม่เลือกผู้สมัครคนใด 21,482 ใบ จังหวัดลำพูน มีผู้มาใช้สิทธิ 242,381 คน บัตรดี 212,777 ใบ, บัตรเสีย 15,131 ใบ (6.2 4%), บัตรไม่เลือกผู้สมัครคนใด 14,473 ใบ (5.97%)

ทั้งนี้ จำนวนบัตรเสียที่เกิดขึ้นอาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ได้ทำเครื่องหมายกากบาทตามที่กฎหมายกำหนด กาในช่องหมายเลขที่ไม่มีผู้สมัคร การวินิจฉัยบัตรของกรรมการนับคะแนน ส่วนจำนวนบัตรไม่ประสงค์เลือกผู้สมัครคนใดสูง สาเหตุหลักคือไม่มีผู้สมัครรายใดที่โดนใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

สำหรับผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ 47 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ 10 ที่นั่ง ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่, ลำปาง, น่าน, แพร่, นครพนม, นครราชสีมา, มหาสารคาม, สกลนคร, หนองคาย, ปราจีนบุรี

ส่วนค่ายสีน้ำเงิน พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้ 9 ที่นั่ง ประกอบด้วย จังหวัด ลพบุรี เชียงราย พิจิตร บุรีรัมย์ บึงกาฬ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ กระบี่ สตูล

พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) 5 ที่นั่งประกอบด้วย​ จังหวัด สมุทรสงคราม พัทลุง นราธิวาส ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 3 ที่นั่ง ประกอบด้วย จังหวัดระยอง สงขลา ประจวบคีรีขันธ์ พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) 2 ที่นั่ง ประกอบด้วย จังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม พรรคประชาชน (ปชน.) 1 ที่นั่ง คือจังหวัดลำพูน พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 1 ที่นั่ง คือจังหวัดนครนายก

รวมทั้งในนามอิสระและกลุ่มอื่นๆ ประกอบด้วย สมุทรสาคร สิงห์บุรี นนทบุรี สมุทรปราการ สระบุรี แม่ฮ่องสอน มุกดาหาร หนองบัวลำภู จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ปัตตานี พังงา ยะลา ตรัง

สำหรับรายชื่อผู้ได้รับเลือกตั้งนายก อบจ.ทั้ง 47 จังหวัด (อ่านรายละเอียดหน้า 4)

ล้านนาสะเทือน 'สีน้ำเงิน-ส้ม' ผงาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ภาคเหนือ  8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน พิจิตร ผู้สมัครของ พท.และเครือข่าย ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้นำพรรค กวาดมาได้ 4 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ลำปาง น่าน แพร่ ส่วนจังหวัดที่แพ้คือ เชียงราย ที่นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ หรือนายกนก อดีตนายก อบจ.เชียงราย ค่ายสีน้ำเงิน ภูมิใจไทย เอาชนะนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช อดีตนายก อบจ.เชียงราย ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำ พท.ภาคเหนือตอนบน

ทั้งที่นายทักษิณมาช่วยนายยงยุทธและภรรยาหาเสียงให้ถึง 2 ครั้ง คือวันที่ 5 ม.ค. และ 29 ม.ค. ขึ้นเวทีปราศรัยให้ถึง 5  เวที เพื่อเรียกร้องให้คนเชียงรายเลือกนางสลักจฤฎดิ์ และอีกจังหวัดหนึ่งที่เพื่อไทย-ทักษิณแพ้ในภาคเหนือ ก็คือลำพูน ที่ พท.ส่งนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ อดีตนายก อบจ.ลำพูน ลงสมัครในนาม พท. และเมื่อช่วง 30 ม.ค.ที่ผ่านมา นายทักษิณก็ได้แวะไปช่วยนายอนุสรณ์หาเสียงที่ลำพูนด้วย โดยผู้ชนะก็คือ นายวีระเดช ภู่พิสิฐ หมายเลข 1 จากพรรคประชาชน ที่กลายเป็นนายก อบจ.หนึ่งเดียวจาก ปชน.

จังหวัดเชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือนายกก๊อง อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ สายตรงเจ๊แดง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่ไม่ได้ส่งในนามพรรค แต่ลงในฐานะสมาชิก พท. เนื่องจากป้องกันปัญหาเรื่องคดีความส่วนตัว โดยนายพิชัยยังรักษาเก้าอี้เอาไว้ได้ เอาชนะนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ อดีต ผอ.สำนักงานนวัตกรรมฯ จาก ปชน. 

แพร่ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ อดีตนายก อบจ.แพร่สมัยที่ผ่านมา ที่ยังรักษาเก้าอี้เอาไว้อีกสมัย โดยเอาชนะนายประสงค์ ชุ่มเชย หมายเลข 1 ที่ก่อนหน้านี้เคยอยู่กับทีมแม่เลี้ยงติ๊ก ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู อดีต สส.แพร่ ปัจจุบันเป็น สส.บัญชีรายชื่อ รทสช.

น่าน นายนพรัตน์ ถาวงศ์ อดีตนายก อบจ.น่าน สายตรง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และอดีตหัวหน้า พท. ยังรักษาเก้าอี้ไว้ได้, ลำปาง น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร อดีตนายก อบจ.ลำปาง ลูกสาวนายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พท. อดีต สส.ลำปางหลายสมัย ยังคงรักษาเก้าอี้ไว้ได้

ส่วนว่าที่นายก อบจ.ที่ชนะเลือกตั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ในเครือข่ายสีน้ำเงิน โดยเฉพาะตระกูลวันไชยธนวงศ์ นอกจากนางอทิตาธรที่เชียงรายแล้ว ก็ยังมีที่แม่ฮ่องสอน ที่นายอัครเดช วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ.แม่ฮ่องสอน 3 สมัย ก็ยังรักษาเก้าอี้นายก อบจ.แม่ฮ่องสอน ไว้ได้อีก 1 สมัย

และปิดท้ายที่จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นศึกสายเลือดของตระกูลภัทรประสิทธิ์ ที่มีเสี่ยอ๊อด  นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็นหัวเรือใหญ่รอบนี้ ส่งหลานแท้ๆ นายกฤษฏ์ เพ็ญสุภา ที่เป็นลูกพี่สาว เคยเป็นผู้บริหารตลาดสี่มุมเมือง ตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ที่รังสิต ลงสมัครชิงนายก อบจ.พิจิตร โดยแข่งกับ พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายประดิษฐ์ แต่ตอนหลังแตกคอกันเองอย่างรุนแรง นายกฤษฏ์ได้เป็นนายก อบจ.พิจิตร กลางศึกสายเลือดตระกูลภัทรประสิทธิ์

จึงทำให้เท่ากับภาคเหนือ พรรคภูมิใจไทย-เครือข่ายสีน้ำเงิน มีคนของตัวเองเป็นนายก อบจ.ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ 3 คน คือ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พิจิตร

ด้ามขวานแชมป์เก่ายังเหนียว

ส่วนผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส  ปรากฏว่า อดีตนายก อบจ.สมัยที่แล้วทั้ง 3 จังหวัด ยังคงคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งได้แบบไม่ยากเย็น  โดยที่ยะลา นายมุขตาร์ มะทา อดีตนายก อบจ.ยะลาหลายสมัย น้องชายนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา คว้าชัยชนะได้อีก 1 สมัยแบบไม่ยากเย็น ทิ้งห่างคู่แข่งอันดับสอง นายอับดุลลาเตะ ยากัด หลายช่วงตัว, ปัตตานี นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี อดีตนายก อบจ.ปัตตานี 4 สมัย รอบนี้ยังคงรักษาเก้าอี้ไว้ได้ โดยเอาชนะนายอับดุลบาซิม อาบู อดีต สส.ปัตตานี พรรคภูมิใจไทย ไปได้แบบขาดลอย

นราธิวาส นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน อดีตนายก อบจ. 5 สมัย ที่มีลูกชายเล่นการเมืองอยู่ 2 พรรค คือ กูเฮง ยาวอหะซัน อดีต สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ และวัชระ ยาวอหะซัน ที่ได้เป็น สส.เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เลือกตั้งครั้งนี้ถือว่านายกูเซ็งเจอศึกหนัก เพราะสู้กับนายอับดุลลักษณ์ สะอิ นักธุรกิจชื่อดังของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีน้องชายคือ นายซาการียา สะอิ เป็น สส.นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย โดยพบว่านายอับดุลลักษณ์ นอกจากได้แรงหนุนจากพรรคภูมิใจไทยแล้ว ก็ยังได้แรงหนุนจากสอง สส.นราธิวาส พรรคกล้าธรรม คือสองพี่น้องนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ แต่สุดท้ายนายกูเซ็งก็เอาชนะมาได้แบบทิ้งห่าง

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเลือกตั้งซึ่งพรรค พท.ชนะ 10 จังหวัดว่า เรามั่นใจว่าผู้สมัครทุกคนทำเต็มที่ จะสมหวังหรือผิดหวังก็เป็นเรื่องปกติ เพราะประชาชนเป็นคนเลือก ซึ่งเราจะต้องเอาบทเรียนต่างๆ รวมถึงจะต้องเอาคะแนนมาดูอย่างละเอียดมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เมื่อถามว่า มีจังหวัดไหนบ้างที่ไม่เข้าเป้าตามที่เรามุ่งหวังไว้ นายสรวงศ์กล่าวว่า มีที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดลำพูน ที่เราคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา แม้ทั้งสองจังหวัดนี้เราจะแพ้ไปไม่เยอะ แต่ก็คือแพ้ ซึ่งถือว่าเรายังทำการบ้านไม่ดีพอ ต้องมาทำการบ้านกันใหม่

เมื่อถามต่อว่า จะมีผลต่อการเลือกตั้ง สส.ในปี 2570 หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ถามว่ามีหรือไม่ ก็ต้องมีอยู่แล้ว อย่างหนึ่งสำหรับพรรคคือเรามีประสบการณ์ มีบทเรียนว่าเราผิดพลาดตรงไหน เดี๋ยวเราจะตามแก้ไขเอา เพราะยังมีเวลา

เมื่อถามถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เสื่อมมนตร์ขลังแล้ว นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่มี เราอย่าไปมองเช่นนั้น ทำไมไม่มองด้วยว่าจังหวัดที่นายทักษิณไป เราก็ประสบความสำเร็จเกินครึ่ง ซึ่งนายทักษิณก็ไม่ได้สามารถที่จะไปจับปากกาหรือจับมือใครกาได้ แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถทำได้คือการไปพูดให้ประชาชนมาเลือกคนของเรา แต่ในเมื่อไม่ได้เป็นไปตามเช่นนั้น เราก็ต้องยอมรับ

ป้อง'นายใหญ่'ไม่สิ้นมนตร์ขลัง

 “อย่าไปมองว่าหมดมนตร์ขลัง ผมคิดว่ามันไม่ใช่ เพราะก็มีอีกเยอะที่ผู้ใหญ่ในพรรคอื่นไป แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ขออย่าไปมองว่าใครหมดมนตร์ขลัง เพราะทุกคนก็ทำเต็มที่หมด” นายสรวงศ์กล่าว

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.แบบบัญชีรายชื่อ พท. กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาสะท้อนการทำงานอย่างหนักของผู้สมัครทุกคนในการลงพื้นที่สื่อสารผลงานนโยบายต่อประชาชน รวมถึงผลงานของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ผลิดอกออกผลให้ประชาชนรับรู้และสัมผัสได้ ปัจจัยชี้ขาดสำคัญคือการที่ผู้สมัครจาก พท.มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นผู้ช่วยหาเสียงในหลายสนามทั่วประเทศ มนตร์ขลังของนายทักษิณ ผสานพลังกับผลงานของรัฐบาลแพทองธาร รวมถึงการทำงานอย่างหนักของผู้สมัครนายก อบจ. และผู้สมัคร ส.อบจ. ทำให้ผลการเลือกตั้งออกมาประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามตามที่ปรากฏ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.ของ พท. โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.” ระบุว่า ภาพใหญ่ยังชี้ให้เห็นฉากทัศน์เดิมที่เคยเสนอไว้ ว่าการเมือง 3 ก๊ก 1.เพื่อไทย 2.พรรคฝ่ายอนุรักษนิยม (ชั่วโมงนี้ภูมิใจไทยโดดเด่นกว่า รทสช.หรือ ปชป.) และ 3.พรรคประชาชน จะไม่มีใครได้เสียงเกินครึ่งในการเลือกตั้งปี 70 การตั้งรัฐบาลจะจับมือกันระหว่าง 2 ใน 3 ก๊กนี้ พรรคที่จะตอบยากที่สุดว่าจะจับหรือไม่จับมือกับใครอย่างเด็ดขาด คือพรรคประชาชน

นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ เราทำงานกันอย่างหนัก ประชาชนเริ่มเข้าใจหลักการทำงานของ พท. จนทำให้กลับมาเป็นสีแดงเหมือนเดิม ทำให้เชื่อว่าภาพการเมืองใหญ่ที่เหลือเวลา 2 ปีกว่าจะมีการเลือกตั้ง พท.มียุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง แดงที่เปลี่ยนไปเลือกส้มจะกลับมาเป็นแดงเหมือนเดิม แล้วเพื่อไทยจะกลับมาเป็นอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน

นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พท. โพสต์เฟซบุ๊กว่า "อบจ.ต้องเพื่อไทย"  ในการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครลงแข่งขันใน 16 จังหวัด และสามารถคว้าชัยชนะได้ถึง 10 จังหวัด ซึ่งเกินกว่าครึ่งของเป้าหมายที่ตั้งไว้ หากรวมกับผลการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ที่เราชนะ อย่าง จ.อุบลราชธานี จ.อุดรธานี จ.ยโสธร จ.พะเยา จ.สุโขทัย นั่นหมายความว่าขณะนี้เรามีทีม อบจ.เพื่อไทยกว่า 17 จังหวัดขึ้นไป และยังไม่รวมกลุ่มพี่น้องที่ลงสมัครในนามอิสระ ซึ่งสามารถทำงานประสานกันได้

รศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษากลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน และอดีตแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน เปิดเผยว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ผ่านมา ซึ่งพรรคเพื่อไทยคว้าชัย 18 จังหวัดจากการเลือกตั้งทั้งหมด 47 จังหวัด ถือเป็นสิ่งที่คนเสื้อแดงและอดีตแนวร่วม นปช.ภาคอีสานนั้นพอใจ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและ สส.บัญชีรายชื่อ รทสช. กล่าวว่า ในส่วนของ รทสช.มีเครือข่ายลงสมัคร ซึ่งเป็นคนทำงานในพื้นที่มาตลอด และก็ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน 4-5 จังหวัด ก็พร้อมทำงานให้กับท้องถิ่นอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เชื่อว่าในพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เราต่างรู้บทบาทหน้าที่ของตนเองดี ที่จะต้องมุ่งทำงานให้กับประชาชนและประเทศชาติเต็มกำลังในเวลาที่มีอยู่ 

ส้มเสียดาย ปชช.ใช้สิทธิน้อย

ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคประชาชน นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค, นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรค และนายวีระเดช ภู่พิสิฐ ผู้สมัครนายก อบจ.ลำพูน ซึ่งเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวจาก ปชน.ที่สามารถได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งนายก อบจ. ร่วมแถลงข่าว โดยนายณัฐพงษ์กล่าวในฐานะหัวหน้าพรรค ปชน. ว่าอยากแสดงคำขอโทษถึงพี่น้องประชาชน ที่พวกเราอาจจะยังรณรงค์ในการให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น หรือ อบจ. ยังไม่แข็งขันพอ ทำให้ในวันนี้เราอาจจะยังมีนายก อบจ.ที่ไม่มากพอ

นายณัฐพงษ์กล่าวว่า อยากขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดลำพูน ที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งสัดส่วนถือเป็นอันดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับอีก 47 จังหวัดที่เหลือ เรายังรู้สึกเสียดายโอกาสที่อีกหลายๆ จังหวัด หาก ปชน.สามารถรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิมากกว่านี้ เราก็อาจจะสามารถชนะการเลือกตั้งในระดับ อบจ.ได้ ทั้งจังหวัดเชียงใหม่ นครนายก สมุทรปราการ ตราด และสมุทรสงคราม ที่เรายังไม่สามารถเฉือนชนะการเลือกตั้งได้ และแพ้ไปเพียงไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ด้านนายวีระเดชกล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องชาวจังหวัดลำพูนที่ออกมาใช้สิทธิเป็นอันดับหนึ่ง ถือว่าเรารักษาแชมป์ไว้ได้อีกแล้ว ในการตื่นตัวทางการเมือง เพื่อทำให้การเมืองท้องถิ่นทำงานใกล้ชิดกับประชาชน

ขณะที่นายศรายุทธิ์กล่าวว่า อยากให้ กกต.ทบทวน แนวการประกาศวันเลือกตั้งในอนาคต ว่าการเลือกตั้งในวันเสาร์ สอดคล้องกับการดำเนินการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนหรือไม่ เพราะการเลือกตั้งในครั้งนี้ถือว่าเป็นผลพิสูจน์บทหนึ่งว่า การเลือกตั้งในวันเสาร์ไม่ตอบโจทย์ต่อการใช้ชีวิตจริงของประชาชน และไม่เอื้อให้ประชาชนเข้ามาใช้สิทธิได้

"ขณะนี้มีอยู่ 2 จังหวัดที่เรามีความสงสัย คือเชียงใหม่และสมุทรปราการ ซึ่งทีมงานยังจะคงต้องติดตามต่อไป โดยเฉพาะกรณีบัตรที่มีการระบุว่าเป็นบัตรเสียจำนวนไม่น้อย ที่เมื่อนำมาเทียบกับคะแนนแพ้ชนะแล้ว ก็อาจจะมีผลต่อผลการเลือกตั้ง ดังนั้นในช่วงบ่ายของวันนี้เราจะมีการไปยื่น กกต. เพื่อให้มีการตรวจสอบบัตรเสียว่ามีจำนวนถูกต้องตามที่ได้มีการเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่" นายศรายุทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณปราศรัยบนเวทีว่า “แดงกินส้ม” ผลการเลือกตั้งตอนนี้สะท้อนตามวลีที่นายทักษิณพูดหรือไม่ นายณัฐพงษ์ระบุว่า  แล้วแต่การตีความ ว่าการกินส้มหมายถึงยังไง เพราะส้มเองก็เป็นผลไม้มงคล และที่จังหวัดลำพูนเองก็เป็นสนามหลักที่ตนเองคิดว่าเราจะสามารถพิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนเห็น

ที่ จ.ศรีสะเกษ นายวิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ หมายเลข 7 ที่ได้รับชัยชนะการเลือกตั้งและเป็นพื้นที่ที่นายทักษิณไปปราศรัยช่วยผู้สมัครพรรค พท. กล่าวขอบคุณพี่น้องชาวศรีสะเกษทุกคน ไม่ว่าจะเลือกหรือไม่เลือก เราก็พร้อมที่จะทำงานให้กับคนศรีสะเกษทุกคน เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และยินดีที่จะรับฟังทุกปัญหา แก้ทุกปัญหาให้กับจังหวัดศรีสะเกษ

ซัดทักษิณทำท้องถิ่นแตกแยก

"ฝากไปยังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ผมเองก็ตัวเล็กๆ อยู่ในพื้นที่ เราเล่นการเมืองท้องถิ่นมา ในชีวิตก็ไม่เคยเห็นสภา ไม่เคยเป็น สส.อะไรกับเขาหรอก เพียงแต่ว่าถ้าชอบพรรคเพื่อไทยก็เลือกกันไป ก็ฝากถึงท่าน ถ้าลงมายิ่งทำให้แตกแยก แล้วก็ต้องมาสู้กับคนท้องถิ่น ความแตกแยกก็เกิดขึ้นแน่นอน แต่เมื่อจบไปแล้ว ก็ไม่อยากคิดอะไร ปล่อยผมตัวเล็กๆ บริหารจังหวัดของตัวเองเถอะนะครับ" นายวิชิตกล่าว

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า "ทักษิณสิ้นมนตร์ขลัง" ตรวจสอบผลการเลือกตั้งในจังหวัดที่นายทักษิณไปปราศรัย สรุป 10 จังหวัด แพ้ 5 จังหวัด                 "ส่วนที่แพ้ยับเยินคือ ศรีสะเกษ อุตส่าห์ชูไล่หนู ตีงูเห่า ก็ยังแพ้ขาด เชียงราย ที่ปราศรัยหลายเวที ก็ยังแพ้ลำพูน แพ้ส้ม บึงกาฬ แพ้คุณนายของทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย สรุป อบจ.คราวนี้ บ้านใหญ่ชนะพรรคใหญ่ ส่วนทักษิณหลบหน้าไปมาเลเซียแล้ว

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปบทวิเคราะห์สรุปปรากฏการณ์จากการเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด ว่า ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ.ทั่วทั้งประเทศ เกิดปรากฏการณ์ต่างๆ มากมาย ซึ่งพอจะสรุปได้ว่า นายทักษิณสิ้นมนตร์ขลัง ความนิยมลดลง ไม่สามารถสร้างกระแสทักษิณฟีเวอร์ เรียกคะแนนนิยมให้กับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยได้เหมือนเมื่อก่อน

นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงการเลือกตั้ง อบจ.ที่ผ่านมาว่า อาจยังไม่สามารถสะท้อนหรือทับทาบกับการเลือกตั้งสนามใหญ่ให้เห็นได้ชัดเจน เพราะมีหลายปัจจัยที่ไม่เหมือนกัน เช่น กติกาการเลือกตั้ง จำนวนผู้ใช้สิทธิ เรื่องตระกูลการเมืองและการตัดสินใจของประชาชน ขณะที่การเมืองระดับชาติกับระดับท้องถิ่นมีมุมคิดต่างกันของผู้ใช้สิทธิเลือก หรือโหวตเตอร์ เพราะในการเลือกตั้งระดับชาติอาจมองไปถึงตำแหน่ง แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นโยบายพรรคการเมือง และ สส.บัญชีรายชื่อ แต่การเมืองท้องถิ่นโหวตเตอร์มองคนที่จะมาแก้ปัญหา ระดับพื้นที่ประจำวัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม