อิ๊งค์ฟุ้งเยือนจีน ‘ครม.สัญจร’คึก ชงโครงการพรึ่บ

“อิ๊งค์” จ้อผ่านทีวี ฟุ้งจีนพร้อมลงทุนแลนด์บริดจ์ บอกรถไฟความเร็วสูงสำเร็จจะส่งทุเรียนหมอนทองไปให้ “สี จิ้นผิง” ประชุม ครม.สัญจรสงขลาคึกคัก “ปชป.” เตรียมชงสารพัดโครงการให้รัฐบาลเคาะ “นิพนธ์” หวัง รบ.เดินหน้า  “หาดใหญ่โมโนเรล”   

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ก.พ.2568 น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ตอนพิเศษ ถึงการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ในโอกาส 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน   ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT2HD และวิทยุเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ

โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ในการเยือนยังได้พบผู้นำจีนทั้ง 3 ระดับ คือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประธานสภาประชาชนแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน, นายจ้าว เล่อจี้ และนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ซึ่งเป็นเรื่องน่าภูมิใจ เพราะการได้พบผู้นำประเทศจีนทั้ง 3 ระดับในการเยือน 1 ครั้งไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้ง ถือเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย  โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวว่าชอบทุเรียนหมอนทองและมะม่วง พอได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจ

น.ส.แพทองธารยังกล่าวถึงรถไฟความเร็วสูงและโครงการแลนด์บริดจ์ว่า รถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 และ 2 ยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง หากเสร็จแล้วทั้งจีน ลาว ไทย จะสามารถส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถส่งทุเรียนหมอนทองไปมอบให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ ซึ่งจีนให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมาก และขอให้ไทยเร่งดำเนินการ  ซึ่งได้สั่งการกระทรวงที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดเรื่องนี้แล้ว  โดยจีนยังให้ความสนใจโครงการแลนด์บริดจ์มากเช่นกัน และต้องการให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้น

“สรุปผลการเยือนจีนว่า เรื่องแรก ความมั่นคง  ได้ความร่วมมือการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะต้องลดลง และเห็นผลอย่างรวดเร็ว เรื่องที่สองคือการค้า โดยเฉพาะแลนด์บริดจ์ เมื่อเกิดขึ้นช่วยประหยัดพลังงาน มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และสามคือความสัมพันธ์ระดับประชาชน-ประชาชนเชื่อมสัมพันธ์ของไทย-จีน ที่มีต่อไปในอีก 50 ปีข้างหน้า ซึ่งต่างเห็นพ้องว่าจะเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบนี้ให้ยาวนานต่อไป”

ด้าน น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) วันที่ 18 ก.พ.ว่า จังหวัดสงขลาได้เตรียมมอบเสื้อให้ น.ส.แพทองธาร และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้สวมใส่ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าบาติกลายสมิหลา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปปั้นนางเงือกทอง ณ ชายหาดสมิหลา อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสงขลา

ขณะที่ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ ณ ด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อศึกษาข้อมูลแนวทางรองรับรถไฟรางคู่ จากปาดังเบซาร์- หาดใหญ่ และติดตามสถานการณ์การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและชาติอื่นๆ เข้าไทยโดยการท่องเที่ยวทางราง โดยนายอนุกูลระบุว่า  สงขลามีศักยภาพสูงในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางด้วยรถไฟ โดยเฉพาะจากมาเลเซีย

นายอนุกูลยังได้นำคณะสื่อมวลชนในกิจกรรม Press tour เยี่ยมชมศึกษาดูแนวทางการพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่บริเวณอุทยานเขาเล่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ โดยมีจุดชมวิวทะเลหมอก และมีจุดชมวิว 360 องศา คือ ยอดเขาหัวล้าน ยอดเขาเขียว เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว

“โครงการพัฒนาและปรับภูมิทัศน์พุทธอุทยานเขาเล่ ถือเป็นโครงการที่สำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ โดยจากการประมาณค่าก่อสร้าง โครงการฯ พุทธอุทยานเขาเล่ คาดว่าจะใช้งบประมาณ  99 ล้านบาท ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งโครงการสามารถเชื่อมโยงพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย จึงคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามายังพื้นที่โครงการประมาณ 5% ของจำนวนผู้เยี่ยมเยือนทั้งหมดต่อวันเท่ากับ 1,064 คน ดังนั้น ในอนาคตพื้นที่โครงการมีเป้าหมายรองรับนักท่องเที่ยวประมาณ 1,500 คนต่อวัน” นายอนุกูลระบุ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกฯ  กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อรับฟังข้อมูล เพื่อนำเสนอก่อนการประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดสงขลา โดยได้พบปะกับผู้แทนของภาคเอกชน ส่วนราชการด้านความมั่นคงและผู้แทนของปกครองท้องถิ่น และผู้แทนของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ในการพัฒนาพื้นที่ทางเศรษฐกิจ ความมั่นคง และการท่องเที่ยวชายแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งพบว่าชาวอำเภอเบตง  จังหวัดยะลา ขอให้รัฐบาลพิจารณาสนับสนุนให้มีสายการบินพาณิชย์มาลงที่สนามบินเบตงเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง หลังจากยกเลิกเที่ยวบินมาเบตงตั้งแต่ปี 2566 จนถึงปัจจุบัน เพื่อเพิ่มช่องทางการขนส่งทั้งผู้โดยสารและสินค้า

ส่วน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชและพัทลุง เช่นเดียวกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  พร้อมคณะผู้บริหาร ทส. ลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.ตรัง

ขณะที่ นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.สงขลา รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ในฐานะ สส.สงขลา รู้สึกยินดีและพร้อมให้การต้อนรับ ครม. สัญจรทั้งคณะ โดยสงขลายังมีหลายโครงการที่ต้องการเร่งรัด เพราะเป็นโครงการที่ยังไม่แล้วเสร็จ อาทิ โครงการพุทธมณฑลสงขลา ที่เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2555, โครงการเติมทราย ชายหาดสมิหลา-หาดชลาทัศน์ ที่จัดสรรงบประมาณไว้ 269 ล้านบาท แต่คืบหน้าแค่ 10%, โครงการขยายโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงสงขลากับพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษหลักของประเทศ ช่วง อ.หาดใหญ่-อ.สะเดา จังหวัดสงขลา ระยะทาง 46 กิโลเมตร, โครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองหาดใหญ่ (ถนนวงแหวนรอบเมืองหาดใหญ่ ทั้งด้านตะวันตกและด้านตะวันออก) ขนาด 4 ช่องจราจร และการยกระดับสนามบินนานาชาติหาดใหญ่

นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา  กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้นายกฯ เร่งผลักดันโครงการหาดใหญ่โมโนเรล พร้อมเร่งรัดการพิจารณางบประมาณโดยสำนักงบประมาณ เพื่อให้โครงการเกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะถือเป็นโอกาสสำคัญที่รัฐบาลจะขับเคลื่อนโครงการระบบขนส่งสาธารณะของอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งเชื่อมต่อสถานีคลองหวะ-สถานีรถตู้ โดยโครงการดังกล่าวผ่านการศึกษาความเป็นไปได้แล้ว และมีศักยภาพสูงในการพัฒนา

“โครงการต้องรอการพิจารณาจากสำนักงบประมาณว่าจะจัดสรรงบประมาณให้เท่าใด ซึ่งหากกระบวนการเป็นไปอย่างรวดเร็ว จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ ลดปัญหาการจราจร และสามารถควบคุมต้นทุนโครงการได้ แต่หากล่าช้า ต้นทุนก่อสร้างจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความคุ้มค่าและความเป็นไปได้ของโครงการหาดใหญ่โมโนเรล ซึ่งไม่ใช่แค่โครงสร้างพื้นฐาน แต่เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของหาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการจราจร รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเป็นตัวแบบของความร่วมมือระหว่างส่วนกลางกับท้องถิ่น” นายนิพนธ์กล่าว.