
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาแล้ว โดยคณะทำงานจะสรุปรายละเอียดผลการดำเนินงาน รายงานต่อนายกรัฐมนตรีให้ทราบต่อไป ขณะที่เช้านี้ คณะทำงานในภารกิจ "11 ปีที่เป็นไปได้ในการกลับสู่บ้านเกิด“ (11 Year Mission possible) ได้จัดทำคลิปวิดีโอความยาว 1.52 นาที เพื่อให้เห็นถึงขั้นตอนและวิธีในการทำงาน และผลของการส่งชาวอุยกูร์กลับสู่บ้านเกิดอย่างปลอดภัย
นายจิรายุกล่าวว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้หารือกับคณะทำงาน โดยจะกำหนดวันและเวลาในการเดินทางกลับไปมณฑลซินเจียง ประเทศจีน เพื่อติดตามตรวจสอบถึงสภาพความเป็นอยู่ของชาวอุยกรู์ ที่ไทยส่งกลับบ้านเกิดตามที่รัฐบาลจีนได้ให้พันธสัญญาไว้กับไทยภายในเวลา 15-30 วันนับจากนี้ โดย พ.ต.อ.ทวีมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย และให้ตนไปร่วมกันพิจารณาถึงกำหนดการที่จะเดินทางไปประเทศจีน รวมทั้งขอให้ประสานงาน เพื่อให้สามารถนำสื่อมวลชนของไทยร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 มี.ค.นี้ คาดว่าจะมีการรายงานกรณีส่งชาวจีนถึงมณฑลซินเจียงอุยกูร์ โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม, พ.ต.อ.ทวี และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ
ด้านนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า กรณีที่ก่อนหน้านี้มีผู้ออกมาแสดงความเห็นมีประเทศที่สามยินดีรับชาวอุยกูร์ 40 คนกลับไปนั้น ไม่มีจริง เพราะโดยปกติหากมีประเทศที่สามยินดีรับไปอย่างจริงจัง ประเทศเหล่านี้จะต้องมีหนังสือยืนยันแจ้งความประสงค์มาเป็นทางการต่อรัฐบาลไทย โดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศ หรือผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศนั้นๆ แต่ไม่มีประเทศใดดำเนินการเลย อย่างไรก็ตาม อาจเป็นไปได้ที่มีบางประเทศเคยแสดงความประสงค์ในช่วงเมื่อ 11 ปีที่แล้ว แต่หลังจากนั้นมาสำหรับชาวอุยกูร์ที่ยังตกค้างไม่มีประเทศใดมีหนังสือแสดงความจำนงเป็นทางการมาเลย นอกจากประเทศจีน ทั้งนี้ การส่งตัวชาวอุยกูร์กลับ ต้องเป็นเรื่องการดำเนินระดับรัฐบาลต่อรัฐบาลเท่านั้น
สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ในหลายวันที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามเข้ามาอย่างมาก เกี่ยวกับกรณีการส่งตัวชาวจีน 40 คนกลับประเทศ ผ่านช่องทางการติดต่อของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนฯ ได้รวมคำถามประมวลคำตอบดังต่อไปนี้
ลอบเข้าเมืองไม่ใช่ผู้ลี้ภัย
1.ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศบางแห่งแถลงว่า การที่ประเทศไทยส่งตัวชาวจีนที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจำนวน 40 คน กลับประเทศจีน ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและอนุสัญญาระหว่างประเทศ
คำตอบ: ทางการไทยและจีนมีหลักฐานยืนยันได้ว่า คนจีนทั้ง 40 คนที่ถูกส่งตัวกลับครั้งนี้ไม่ใช่ผู้ลี้ภัย แต่เป็นผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และรัฐบาลไทยได้ปฏิบัติตามคำขอของรัฐบาลจีน โดยเป็นความร่วมมือที่ยึดมั่นในแนวทางการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ ว่าด้วยการปราบปรามผู้ลักลอบอพยพและเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ตามหลักมาตรฐานสากล ต่างเป็นที่ยอมรับกันว่า การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย คือ อาชญากรรมอย่างหนึ่ง ดังนั้น การส่งตัวผู้ลักลอบอพยพและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายกลับประเทศ จึงถือเป็นการบังคับใช้กฎหมายปกติของประเทศที่มีอำนาจอธิปไตย ดังจะเห็นได้ว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา ประเทศใหญ่บางประเทศได้ดำเนินการส่งกลับผู้ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายไปยังประเทศต้นทางมากกว่า 270,000 คน
ดังนั้น การที่ประเทศซึ่งปฏิบัติโดยใช้หลักสากลเดียวกัน กลับกดดันให้องค์กรระหว่างประเทศ กล่าวโทษความร่วมมือในการปราบปรามผู้ลักลอบอพยพและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของรัฐบาลจีนและไทย จึงนับเป็นการใช้สองมาตรฐาน และละเมิดหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและละเมิดอนุสัญญาต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของรัฐที่มีอำนาจอธิปไตยอย่างร้ายแรง ทั้งยังอาจนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติได้อีกด้วย
2.กรณีคำกล่าวอ้างของบางประเทศและกลุ่มบุคคลบางคน ที่ระบุว่า ผู้ที่ถูกส่งตัวกลับอาจถูกทรมานและถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน เมื่อเดินทางถึงประเทศจีน
คำตอบ: สาธารณรัฐประชาชนจีน ยึดมั่นในหลักการปกครองด้วยกฎหมาย และมุ่งให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งด้านการปกป้องสิทธิมนุษยชนตามกฎหมาย และปราบปรามอาชญากรรม ในฐานะที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประเทศแรกๆ ที่ลงนามและให้สัตยาบันในอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน และการกระทำอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (เมื่อ พ.ศ.2529 และ พ.ศ.2531 ตามลำดับ) จีนจึงปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาดังกล่าวด้วยความมุ่งมั่น มีกลไกการทำงานและการกำกับดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ เข้มงวดและครอบคลุม ที่ผ่านมาแม้แต่ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและก่ออาชญากรรม ยังคงได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย
ทางการจีนทราบดีว่าหลายฝ่ายมีความกังวลและห่วงใยถึงสวัสดิภาพของคนจีนทั้ง 40 คน เมื่อเดินทางถึงมาตุภูมิ เราจึงขอยืนยันด้วยภาพปัจจุบันว่า บุคคลเหล่านี้ได้รับการดูแลให้กลับบ้านและรวมตัวกับครอบครัวเป็นที่เรียบร้อย จากนี้รัฐบาลท้องถิ่นจะทำงานร่วมกับครอบครัวของกลุ่มบุคคลดังกล่าว เพื่อสร้างโอกาสในการทำงาน และพัฒนาทักษะวิชาชีพตามความประสงค์ เพื่อช่วยให้พวกเขาเหล่านี้มีชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด หลังถูกคุมขังในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี
3.ไขข้อสงสัยกรณีสถานการณ์ในซินเจียงตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
คำตอบ: นับตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1990 เกิดเหตุรุนแรงขึ้นในเขตปกครองตนเองซินเจียง พื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของจีนอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลจากกลุ่มก่อการร้ายบางกลุ่ม เช่น ขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออก (ETIM) ซึ่งได้รับการขึ้นบัญชีรายชื่อกลุ่มการก่อการร้ายจากองค์การสหประชาชาตินั้น ได้ขยายอิทธิพลเข้ามาในซินเจียง สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน นอกจากนี้ องค์กรต่อต้านจีนและกลุ่มกำลังก่อการร้ายในต่างประเทศบางแห่ง ยังปฏิบัติการหลอกลวงและชักชวนชาวท้องถิ่นให้ลักลอบหนีออกนอกประเทศ โดยใช้คาบสมุทรอินโดจีนเป็นช่องทางหลักในการส่งกำลังคนให้กลุ่มก่อการร้ายต่อต้านจีน
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว รัฐบาลกลางจีนและรัฐบาลเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ นำชาวชนเผ่าต่างๆ ของท้องถิ่น ต่อสู้กับกองกำลังกลุ่มก่อการร้ายจนประสบผลสำเร็จ ซินเจียงไม่เคยเกิดเหตุก่อการร้ายขึ้นอีกเลย นับตั้งแต่ปลายปี ค.ศ.2016 เป็นต้นมา ขณะที่รัฐบาลจีนและรัฐบาลท้องถิ่นร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและการศึกษา ส่งผลให้ประชาชนในท้องถิ่นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เจตนาใส่ร้ายทำลายจีน
ประเทศบางประเทศและกลุ่มกำลังต่อต้านจีนระหว่างประเทศแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นความจริงที่ดีงามในซินเจียง สร้างและเผยแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับซินเจียง บิดเบือนและใส่ร้ายโดยเจตนา รวมทั้งกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างรุนแรงต่อบริษัทและผลิตภัณฑ์ของซินเจียง ซึ่งมุ่งประสงค์ที่จะทำลายเสถียรภาพของซินเจียงและยับยั้งการพัฒนาของจีนโดยใช้ข้ออ้างสิทธิมนุษยชนและศาสนาที่ไม่เป็นจริงทั้งสิ้น ทั้งนี้ เป็นการละเมิดต่อประชาชนชาวจีนและเป็นการหลอกลวงโลก และจะถูกปฏิเสธและต่อต้านจากชาวโลกในที่สุด
4.ในอนาคตรัฐบาลจีนจะยังคงอนุญาตให้ฝ่ายไทย เดินทางไปเยี่ยมบุคคลที่ถูกส่งตัวกลับเพื่อติดตามชีวิตความเป็นอยู่หรือไม่
คำตอบ: จะเห็นได้ว่า ในการส่งตัว 40 ชาวจีนกลับไปยังซินเจียงครั้งนี้ มีผู้แทนระดับสูงจากทางการไทยได้รับเชิญให้เดินทางไปซินเจียงของจีนเพื่อเป็นสักขีพยาน รวมทั้งได้ไปสังเกตการณ์ เยี่ยมเยียนถึงบ้านของผู้ที่ถูกส่งตัวกลับ ตามที่ปรากฏในภาพถ่ายและวิดีโอ ดังนั้น ในอนาคตฝ่ายจีนจึงยินดีอย่างยิ่งที่จะขอเชิญเจ้าหน้าที่ไทย ให้ไปติดตามและตรวจสอบชีวิตความเป็นอยู่ที่เป็นจริงของพวกเขาในวันต่อไป
เมื่อปีที่แล้ว ซีรีส์จีนเรื่อง สู่แดนฝัน อาเล่อไท่ ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย เพื่อนชาวไทยจำนวนมากได้แสดงความสนใจและอยากเดินทางไปเยือนซินเจียง ประตูของซินเจียงเปิดกว้างต่อชาวโลกตลอดเวลา โดยปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวจากที่ต่างๆ มากกว่า 300 ล้านคนเดินทางมาเยือน เรายินดีต้อนรับบุคคลจากทุกประเทศที่ไม่มีอคติมาเยี่ยมชม
ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า หากชาวอุยกูร์สมัครใจจริงทำไมไม่แสดงความจริงใจตั้งแต่ไทยส่งกลับและจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยไม่ต้องไปเสนอภาพครอบครัวกอดกันที่จีนมาโชว์ ดังนั้น ถ้าเริ่มแสดงตัวที่ไทยก่อน จะเกิดผลดีกับประเทศมากกว่า และโลกไม่ต้องโกรธเคืองไทยไร้มนุษยธรรม ปัญหาคือ นายกรัฐมนตรีไปใช้วิธีทำอย่างลึกลับกันทำไม ควรทำอย่างตรงไปตรงมาจะเกิดผลดีกับประเทศมากกว่า ทั้งนี้ หลักคิดการบริหารประเทศต้องไม่นำพาประชาชนไปพบความเสี่ยง และยังไม่แน่ชัดว่า สหรัฐที่เอาแน่เอานอนไม่ได้จะลงทัณฑ์เรื่องการค้ากับเราอย่างไร ส่วนการท่องเที่ยวส่งผลกระทบชัดเจน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท


