สทร.ปูดเจรจาบีอาร์เอ็น! บึ้มชุดคุ้มครองครูเจ็บอื้อ

ปัตตานีคนร้ายกดบึ้มตำรวจ นปพ.ชุดรักษาความปลอดภัยครูบาดเจ็บระนาว 9 นาย  สาหัส 1 นาย คาดเป็นฝีมือกลุ่ม “อับดุลเลาะ มะแด” มทภ.4 ประชุมนัดพิเศษหวังสร้างรอมฎอนสันติ

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 น.   ร.ต.อ.นที มีสุขศรี รอง สว. (สอบสวน) สภ.แม่ลาน  จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดบริเวณสะพานหนองหาร รอยต่อระหว่าง ม.1 กับ ม.2 ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุและปิดเส้นทางดังกล่าวไว้ชั่วคราว โดยพบเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 9 นาย จึงรีบลำเลียงส่งโรงพยาบาลแม่ลาน ประกอบด้วย 1.ส.ต.ท.สหัสวรรษ พลสังข์ บาดเจ็บสาหัสบริเวณดวงตา ส่งต่อ รพ.ปัตตานี 2.ด.ต.ทวีชัย ชูเมือง หูอื้อ แน่นหน้าอก 3.จ.ส.ต.วิชัย แก้วบรรดาน หูอื้อ แน่นหน้าอก 4.ส.ต.ต.ธิติเดช รักษสกูล หูอื้อ แน่นหน้าอก 5.ส.ต.ท.สำราษ ไพจิตจินดา หูอื้อ แน่นหน้าอก 6.ส.ต.ท.ภาณุวัฒน์ ปานแก้ว หูอื้อ แน่นหน้าอก 7.ส.ต.ท.ณัฐภัทร จิตรหมั้น หูอื้อ แน่นหน้าอก 8.ส.ต.ท.นพรัตน์ มณีรัตน์ หูอื้อ แน่นหน้าอก และ 9.ส.ต.ท.ชานนท์ ยอดขวัญ หูอื้อ แน่นหน้าอก

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ รถจักรยานยนต์เจ้าหน้าที่ 3 คันล้มอยู่ริมถนน โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณใต้โคนเสาไฟฟ้าริมทางติดกับคอสะพาน มีร่องรอยถูกแรงระเบิดจนเป็นหลุมกว้าง 30 ซม. นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนระเบิดและสะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวสังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ปัตตานี 22 สภ.แม่ลาน ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังจำนวน 9 นายใช้รถยนต์กระบะหุ้มเกาะ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 3 คัน ออกลาดตระเวนเส้นทาง หลังปฏิบัติภารกิจคุ้มครองครูที่โรงเรียนบ้านคูระ ซึ่งขณะที่ลาดตระเวนเส้นทางรับผิดชอบ มาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนกดชนวนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 10 กก. ที่ซุกไว้ใต้โคนเสาไฟฟ้า จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้เจ้าหน้าที่ต่างกระเด็นคนละทิศคนละทาง และมีเจ้าหน้าที่บางนายหาที่กำบังและคุ้มกันเจ้าหน้าที่เพื่อลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และหลังเกิดเหตุผู้บริหาร รร.บ้านคูระต้องหยุดการเรียนการสอนทันทีและให้ผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับ

เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังร่วมเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 500 เมตร และตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทุกจุด ที่คาดว่าน่าจะเป็นพื้นที่หลบซ่อนตัว ขณะที่ พ.ต.อ.ปัญญา อู่ตะเภา ผกก. ได้กำชับให้ชุดสืบสวนสอบสวนรวบรวมวัตถุพยานในที่เกิดเหตุให้มากที่สุด เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ว่าตรงกับคนร้ายกลุ่มใด โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายที่เกิดเหตุเป็นกลุ่มที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ อ.เมืองฯ และ อ.หนองจิก ซึ่งเป็นกลุ่มของนายอับดุลเลาะ มะแด ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเป็นแกนนำในการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ในพื้นที่

ขณะเดียวกัน ที่สโมสรนายทหารสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (วาระพิเศษ) เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงาน รับฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติในช่วงที่ผ่านมา พร้อมเน้นย้ำนโยบายและข้อสั่งการสำคัญในการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการสร้างรอมฎอนสันติ ที่เป็นความปรารถนาของพี่น้องประชาชน

โดย พล.ท.ไพศาลได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่ โดยเฉพาะการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งจำเป็นต้องดำเนินมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ ส่วนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงบริบทเฉพาะของแต่ละพื้นที่ โดยใช้แนวทางฮูกุมปากัต (ธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี) เป็นกรอบในการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชน

“เจ้าหน้าที่รัฐยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้ช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบสิ่งผิดปกติหรือบุคคลต้องสงสัย สามารถแจ้งหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและดำเนินการต่อไป”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อาลัยรดน้ำศพ 'สามเณรวงศกร' แม่ทัพภาค 4 ประณามผู้ก่อเหตุ

วัดทำเนียบธรรมาราม ตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ “สามเณรวงศกร ชูมาปาน” อายุเพียง 16 ปี