ซื้อเสียงเลือกตั้งซ่อม บี้กกต.นครฯจะจับกี่โมง ‘ธรรมนัส’ลุยช่วย‘บิ๊กโอ’

โค้งสุดท้ายเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ กกต.จัดกิจกรรม Road Show ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง "มาดามส้ม” บุก กกต.นครศรีฯ ถือเครื่องขยายเสียง-ชูป้ายจี้ถาม “จับซื้อเสียงกี่โมง?”  แฉบางพรรคแจกเงินก่อนเลือกตั้งแล้ว "บิ๊กโอ" ควง "ธรรมนัส" ขึ้นรถแห่หาเสียง “ไผ่” ลั่นเขต 8 เมืองคอนไม่ใช่สนามมวยแทนคนทำผิด กางโพล “ก้องเกียรติ” เข้าวินแน่ แจงคนใต้ไม่ได้เป็นพรรคลูกใคร  “ธรรมนัส” อ้อนขอคะแนน เลือกคนมีคอนเนกชันเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ โวเป็นผู้จัดการรัฐบาลชุดที่แล้วพา “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ 

เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่บริเวณด้านหน้าที่ว่าการอำเภอฉวาง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายวิทยา เขียวรอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าร่วมกิจกรรม และให้การต้อนรับนายวีระ ยี่แพร รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในโอกาสเดินทางมาเป็นประธานเปิดกิจกรรมโรดโชว์ (Road Show) "ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง การเลือกตั้ง สส. แทนตำแหน่งที่ว่าง" เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์ในช่วงโค้งสุดท้ายเชิญชวนผู้มีสิทธิออกไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 8 (อ.นาบอน อ.ช้างกลาง อ.ฉวาง และ อ.พิปูน)  แทนตำแหน่งที่ว่าง 

โดยนายวิทยากล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ตื่นตัวและมีส่วนร่วมในการออกไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 8 แทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2568 อย่างมีคุณภาพ ไปทำหน้าที่อย่างอิสระ ปราศจากการครอบงำ เพื่อประโยชน์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชและประเทศชาติเป็นสำคัญ

ด้านนายธนกฤต นาคจารุพงษ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและประชาชนทั่วไปได้ตระหนักรู้ในสิทธิ หน้าที่ และมีความรับผิดชอบด้วยการไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างอิสระ โดยในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะมีจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 233 หน่วยเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 117,717 คน ครอบคลุม 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอฉวาง ช้างกลาง พิปูน และนาบอน โดยจากข้อมูลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิคิดเป็นร้อยละ  76.52 ขณะที่มีการตั้งเป้าหมายว่าการเลือกตั้งในวันที่ 27 เมษายน 2568 นี้ จะมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่าครั้งที่ผ่านมา

การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัคร 6 คน ประกอบด้วย นายไสว เลื่องสีนิล สังกัดพรรคภูมิใจไทย หมายเลข 1, นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 2, นายณัฐกิตติ์ อยู่ด้วง สังกัดพรรคประชาชน หมายเลข 3, ว่าที่พันตรีกวี ไกรทอง สังกัดพรรคพร้อม หมายเลข 4, นายก้องเกียรติ เกตุสมบูรณ์ สังกัดพรรคกล้าธรรม หมายเลข 5 และนายพิษณุ รสมาลี สังกัดพรรคทางเลือกใหม่ หมายเลข 6

ขณะที่ ดร.พิมไหมทอง ศักดิพัตโภคิน หรือ “มาดามส้ม” หัวหน้าพรรคพร้อม ได้เดินทางมายังสำนักงาน กกต.จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมใช้เครื่องขยายเสียงประกาศเชิญชวนเจ้าหน้าที่ กกต.ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 8 นอกจากนี้ ยังมีการนำป้ายไวนิลขนาดใหญ่ไปติดไว้บริเวณหน้าสำนักงาน กกต.นครศรีธรรมราช โดยมีข้อความว่า “จับการซื้อสิทธิ์ขายเสียงกี่โมง?” ซึ่งสร้างความสนใจแก่ผู้ที่ผ่านไปมาและผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวอย่างมาก

แฉบางพรรคแจกเงิน

ดร.พิมไหมทองกล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในเขต 8 หลายราย ซึ่งยืนยันว่าไม่เคยขายเสียง แต่กลับพบว่ามีการแจกเงินจากบางพรรคการเมืองตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการปราศรัยแล้ว

 “การซื้อสิทธิ์ขายเสียงควรจะเป็นเรื่องของคนที่ล้าหลังเท่านั้น พรรคพร้อมของเราไม่หิวแสง เพราะเรามีนโยบายที่ยุติธรรมและจับต้องได้ วันนี้มาที่นครศรีธรรมราช อยากชวน กกต.ลงพื้นที่เขต 8 ไปจับการทุจริตด้วยกันค่ะ”  ดร.พิมไหมทองกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลเรื่องทุจริตการเลือกตั้งซ่อมในเขต 8 นครศรีธรรมราชของ 2 พรรคการเมืองอีกแล้ว  จ่ายหัวคะแนนใหญ่คนละ 30,000 บาท หัวคะแนนระดับหมู่บ้านคนละ 20,000 บาท หัวคะแนนที่ทำบัญชีรายชื่อคนละ 10,000 บาท เพื่อให้ไปจ่ายซื้อเสียง 50 คน คนละ 1,000 บาท ตนมีหลักฐานระดับหนึ่งแล้ว ขอให้นักการเมืองที่เป็นผู้สมัครทุกคนสู้กันด้วยอุดมการณ์ ไม่อยากเห็น กกต.และศาลพิพากษาให้ใบแดงรอบสอง

เวลา 14.40 น. นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ ผู้สมัครเลือกตั้งพรรคกล้าธรรม (กธ.) หมายเลข 5 ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อมตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีแกนนำพรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมด้วย สส.พรรคกล้าธรรม อาทิ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรค, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา ร่วมลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง

บรรยากาศการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย นายก้องเกียรติพร้อมด้วยแกนนำได้ขึ้นรถแห่รอบเขต 8 ในพื้นที่ อ.ฉวาง อ.นากลาง ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสได้พบปะและดื่มน้ำชากับชาวบ้านเพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ เมื่อขบวนผ่านไปชุมชนต่างๆ ได้มีพี่น้องประชาชนออกมายืนรอให้กำลังใจและสนับสนุนนายก้องเกียรติเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก

ต่อมาเวลา 18.00 น. ที่สนามโรงเรียนพิปูนสังฆรักษ์ประชาอุทิศ ต.เขาพระ อ.พิปูน พรรคกล้าธรรมเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยนายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ หรือบิ๊กโอ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมฯ โดยมีแกนนำพรรคกล้าธรรม นำโดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค, นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรค, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา ในฐานะนายทะเบียนพรรค รวมถึง สส. และสมาชิกพรรค กธ. มาร่วมปราศรัย โดยมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาฟังการปราศรัยท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตั้งแต่ช่วงเย็น

นายไผ่ขึ้นกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า เราหวังเต็มที่อยากจะมีตัวแทนของชาวนครศรีธรรมราชเพื่อไปสะท้อนปัญหา เข้ามาที่นี่รู้สึกแปลกใจอย่างหนึ่ง ที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก มีทิวทัศน์ที่สวยงาม  ตอนนั่งมากับคนขับรถเขาบอกมาว่าที่นี่มีโรงแรมราคาเป็นหมื่น แต่ทำไมพี่น้องยังจนอยู่ ยังเป็นหนี้อยู่ ทำไมยังไม่อยู่ดีกินดี ตนเชื่อว่าครั้งนี้นายก้องเกียรติชนะแน่ 

กธ.ยกโพล 'ก้องเกียรติ' ชนะ

"สนามเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมาก ไม่ใช่สนามสำหรับใครที่ทำความผิดแล้วส่งใครมาลงแทน หรือไม่ใช่สนามที่ใครผิดหวังตกจากที่อื่นแล้วมาลงที่นี่ แต่นายก้องเกียรติรอที่จะลงจากที่นี่ ครั้งที่แล้วผิดหวังไป แต่เขาก็รอที่จะลง คนนี้คนจริง พรรคกล้าธรรมเราไม่ใช่พรรคลูกของใคร เราจะทำตามแนวทางของเรา เราจะทำทุกอย่าง ต่อสู้ทุกอย่างเพื่อประชาชน เชื่อว่าชนะแน่นอน โพลทุกอย่างก็ชนะ" นายไผ่กล่าว

ขณะที่ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรค กธ. ปราศรัยว่า คู่แข่งชอบพูดเสมอว่า นายก้องเกียรติไม่มีทางชนะเขาได้แน่นอน พวกเราทำให้เขาเห็นได้หรือไม่ เอาไปตบปากพวกเขา พวกที่คอยดูถูกพวกเรา มันเป็นปมในใจที่ทำให้ตนรู้สึกมีความแค้น รู้สึกว่าเราต้องสู้ เวลาพูดในหลายที่มักจะให้เราเป็นตัวรองเสมอ แต่ด้วยความใจสู้ของเรา ต่อให้เป็นรองขนาดไหนเราก็จะสู้จนนาทีสุดท้าย คนอื่นมักบอกว่าเราเป็นพรรคลูกของพรรคการเมืองหนึ่งในรัฐบาล ซึ่งตนรู้ว่าพี่น้องชาวใต้ยังไม่ประทับใจในเรื่องนี้ จึงอยากมาการันตีพี่น้องประชาชนว่า พวกเราไม่ใช่พรรคลูกของพรรคใด

จากนั้นนายก้องเกียรติขึ้นปราศรัยว่า ตนเป็น สจ.ได้แค่ 2 ปี ก็มีการเปิดรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต จึงลาออก แต่ไม่ได้รับความไว้วางใจให้ลงสมัคร สส. ตนตั้งหน้าตั้งตารอ และประเมินดูแล้วว่าถ้าอยู่ที่เดิมคงไม่ได้ลงสมัคร สส. ก็เดินออกมา ซึ่งมีผู้คนหลายคนถามว่าทำไมมาลงพรรคนี้ ตนก็ถามกลับว่าแล้วจะให้อยู่กับใคร บางพรรคเขาก็มีคนของเขาอยู่แล้ว บางพรรคเขาก็มีทายาทอยู่แล้ว มันมีพรรคพรรคเดียวที่เปิดให้คนมีความสามารถ มีความตั้งใจที่อยากจะเป็น สส. คือพรรคกล้าธรรม ตนไม่ได้มาเป็นตัวแทนของใคร และไม่ได้ถูกหลอกให้มาลง ตนมีความตั้งใจมาลง

ต่อมา ร.อ.ธรรมนัสปราศรัยตอนหนึ่งว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชมี สส.ตั้ง 10 คน แต่ทำไมนครศรีธรรมราชไม่มีรัฐมนตรีสักคน ทั้งที่จังหวัดนี้คือเมืองหลวงของชาวใต้ เราต้องคิดแล้วอันนี้ เป็นศักดิ์ศรีของคนนครศรีธรรมราชใช่หรือไม่ การเลือกคนไปเป็น สส.ต้องเป็นขี้ข้าประชาชน ไม่ใช่เจ้าคนนายคน ก่อนหาเสียงก้มกราบชาวบ้าน พอได้เป็นแล้วก็ต้องก้มกราบเหมือนเดิม ปัญหาในพื้นที่มีหลายเรื่อง ต้องหาคนที่ใจถึงพึ่งได้ ถนน 4189 จาก อ.พิปูนไป อ.ท่าศาลา หลายคนเป็น สส.รับปากแล้วรับปากอีก แต่ไม่ได้ทำ เพราะเลือกคนที่ไม่มีคอนเนกชัน ถ้าได้นายก้องเกียรติเป็น สส. เป็นน้องธรรมนัส มีพลัง มีมือในการสร้างถนนสายนี้

"ผมเป็นผู้จัดการรัฐบาลตั้งแต่ชุดที่แล้วเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา เป็นนายกฯ และถ้าท่านได้เป็นนายกฯ ต้องทำอย่างไรให้ประชาชนได้รับความสุข ขออย่างเดียวการเป็นนักการเมืองขอให้คนในพื้นที่รัก ประชาชนมีความสุข วันนี้ขอคนพิปูนเข้าคูหาเลือกนายก้องเกียรติ" ร.อ.ธรรมนัสกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง