ประธาน กกต.เผยยังไร้เหตุผิดปกติเรื่องร้องเรียนแม้มีข่าวซื้อเสียง ผลเลือกตั้ง “บิ๊กโอ” ค่ายกล้าธรรมปักธงได้ คะแนนนำห่างเจ้าของเก้าอี้เดิม “ธรรมนัส” ประกาศขอบคุณคนเมืองคอน จะจำไว้ตลอดชีวิต “ทักษิณ” ช่วยหาเสียงนายกเล็กเมืองเชียงใหม่ มั่นใจกวาดเก้าอี้ “เท้ง” เชื่อมั่นส่งแข่งก็หวังชนะ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 เม.ย.2568 มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เขต 8 ซึ่งประกอบด้วย อำเภอนาบอน, อำเภอช้างกลาง, อำเภอฉวาง และอำเภอพิปูน แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงพื้นที่สังเกตการณ์ลงคะแนนเลือกตั้งระบุว่า ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงเช้าวันนี้ยังไม่มีรายงานข่าวว่ามีเหตุผิดปกติ และเมื่อคืนนี้ก็ได้รับการประสานงานจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่ายังไม่มีการยื่นคำร้องเกี่ยวกับการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้งหรือพรรคการเมืองเข้ามา แม้จะมีข่าวเรื่องการซื้อเสียงในบางพื้นที่
เมื่อถามว่า ชาวบ้านรู้ว่ามีการซื้อเสียงแต่เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าไม่พบการซื้อเสียง นายอิทธิพรกล่าวว่า บางครั้งผู้กระทำผิดก็หลบไม่ให้เห็น แต่หากชาวบ้านพบเห็นก็ขอให้ออกมาให้ข้อเท็จจริง เป็นพยานบุคคล หรือถ้ามีหลักฐานเป็นอย่างอื่น เช่นคลิปก็สามารถทำได้ เพราะเป็นสิ่งสำคัญต่อการรับเป็นคำร้อง เพราะอย่างที่เคยบอก บางครั้งเราได้ยินข่าว ก็เชื่อว่ามีการกระทำผิด แต่พอถึงขั้นแสวงหาข้อเท็จจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งพยานหลักฐานมันไม่ปรากฏ ซึ่งในกระบวนการยุติธรรมหากมันไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนก็ทำต่อไม่ได้
นายอิทธิพรกล่าวว่า การเลือกตั้งของเขตนี้ครั้งก่อนมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ 76.52% ครั้งนี้ตั้งเป้าอยากให้ออกมาใช้สิทธิ์ให้ได้ 78% ส่วนผลการนับคะแนนคาดว่าทั้ง 233 หน่วยเลือกตั้งจะทราบอย่างไม่เป็นทางการไม่เกิน 22.00 น.
สำหรับการเลือกตั้ง สส.ครั้งนี้มีผู้สมัคร 6 คน ประกอบด้วย นายไสว เลื่องสีนิล พรรคภูมิใจไทย (ภท.) หมายเลข 1 โดยเป็นสามีของนางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล อดีต สส.นครศรีธรรมราช ที่ถูกศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง, นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หมายเลข 2, นายณัฐกิตติ์ อยู่ด้วง พรรคประชาชน (ปชน.) หมายเลข 3, ว่าที่พันตรีกวี ไกรทอง พรรคพร้อม หมายเลข 4, นายก้องเกียรติ เกตุสมบูรณ์ พรรคกล้าธรรม (กธ.) หมายเลข 5 และนายพิษณุ รสมาลี พรรคทางเลือกใหม่ หมายเลข 6
โดยบรรยากาศช่วงเช้าของการเปิดหีบเลือกตั้งซ่อม สส. มีประชาชนเริ่มทยอยมาใช้สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง เวลา 08.30 น. นายก้องเกียรติเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งหมู่ 5 ที่จุดหมู่บ้านผู้ใหญ่เขียด ต.ละอาย อ.ฉวาง ในขณะที่นายชินวรณ์ได้เดินทางมายังหน่วยเลือกตั้งที่โรงเรียนบ้านคลองกุย หมู่ที่ 8 ตำบลช้างกลาง อ.ช้างกลาง เพื่อใช้สิทธิ์ลงคะแนนเช่นกัน
หลังปิดหีบเมื่อเวลา 17.00 น. ได้เริ่มนับคะแนน โดยเมื่อเวลาประมาณ 18.20 น. นายก้องเกียรตินำมาเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 35,017 คะแนน ทิ้งห่างนายไสว อันดับ 2 ด้วยคะแนน 26,058 คะแนน อันดับ 3 นายณัฐกิตต์ได้ 6,084 คะแนน อันดับ 4 คือนายชินวรณ์ ได้ 3,774 คะแนน
ต่อมาที่ รร.แกรนด์ วอร์รูมของพรรคกล้าธรรม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมนายก้องเกียรติและทีมงาน แถลงข่าวชัยชนะการเลือกตั้งซ่อม โดย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องทั้ง 4 อำเภอที่ให้โอกาสและไว้วางใจพรรคกล้าธรรม ซึ่งน้อง สจ.โอ หรือนายก้องเกียรติ ก็พร้อมทำหน้าที่ในฐานะ สส.เขต 8 ทุกคะแนนที่ทุกกาให้น้องโอ พวกเราในฐานะกล้าธรรมจะจำไว้ตลอดชีวิต สิ่งไหนอย่างไหนที่พวกเรากล้าธรรมสามารถที่จะทำประโยชน์ให้พื้นที่เขต 8 และพี่น้องชาว จ.นครศรีธรรมราช เราพร้อมทำ เดินหน้า เพื่อสร้างบ้านแปงเมืองตามที่ได้ปราศรัย
“ผมถือว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวกล้าธรรม ถือว่าหายเหนื่อย รักคนนครฯ มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งสนามแรกของกล้าธรรม ซึ่งการเตรียมความพร้อมก็อย่างที่พวกเราทราบดี เตรียมพร้อมเพียงไม่กี่วัน แต่ผลออกมาก็ขอขอบคุณพี่น้องชาวเขต 8 ทุกๆ อำเภอ”
ส่วนกระแสข่าวว่ามีการใช้กระสุนนั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า อันนี้ก็เป็นแค่วลีที่เขาพูดกัน การจะใช้กระสุนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าคนกระทำความผิดถูกจับหรือเปล่า สิ่งสำคัญที่สุดก็เห็นว่าเวลาจัดเวทีปราศรัย เราเชิญชวนพี่น้องมาฟังปราศรัย เห็นชัดเจนว่าพี่น้องหลั่งไหลมาไม่เพิ่มขึ้นทุกเวที หมายความว่าเราสร้างกระแสสำเร็จ คนใต้เขาเห็นว่าตอนที่เป็น รมว.เกษตรฯ ได้ทำอะไรให้กับคนใต้มาบ้าง
"ผมได้บอกกับน้องโออยู่ตลอดเวลาว่า การเป็นนักการเมืองต้องยินดีที่จะถูกตรวจสอบ แต่สำคัญที่สุดคือ เราต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเราไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขากล่าวหา หรือเป็นไปตามกระแสข่าวว่า เราทำอย่างนั้นอย่างนี้ ผมอยู่ชีวิตการเมืองมาเลือกตั้งครั้งก็โดนร้องเรียนเป็น 20 เรื่อง ก็อยู่มาจนถึงทุกวันนี้“ ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
วันเดียวกัน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมขึ้นเวทีช่วยนายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ หาเสียงในนามพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า คิดว่าน่าจะพร้อม ดูจากผลงานที่ผ่านมาของนายอัศนี มีการลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ ดูแล้วโอกาสที่จะชนะน่าจะสูง
เมื่อถามว่า มีการประเมินอย่างไร เพราะสนาม อบจ.มีคะแนนห่างกับพรรคคู่แข่งประมาณ 2 หมื่นคะแนน นายทักษิณกล่าวว่า ต้องเข้าใจก่อนว่าครั้งที่แล้วเราพลาดท่า เขาได้เป็น สส.ถึง 7 คนจาก 10 คน ถ้าออกสตาร์ทตอนนั้นถือว่าเราเป็นรอง แต่วันนี้คิดว่าน่าจะโอเค
ต่อมาในเวลา 16.30 น. ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเอ็มเพรส จ.เชียงใหม่ ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายอัศนี โดยมีแกนนำและ สส.ของพรรค พท.เปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัย และมีประชาชนมารอรับฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ นายทักษิณกล่าวว่า 11 พ.ค. ขอให้เลือกนายกฯ หน่อย เพื่อจะช่วยกันแก้ปัญหา และสร้างเชียงใหม่ให้เป็นต้นแบบความสะอาด และกลับมาสวยเหมือนเดิม และหากชนะการเลือกตั้ง จะกลับมาเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง ขอสร้างให้เชียงใหม่เป็นเมืองต้นแบบในการพัฒนาที่ยั่งยืน ผู้คนอยู่มีความสุขมีความสบาย ขอให้เชื่อมือสักรอบ
ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีว่า มั่นใจในหลายสนาม โดยได้ลงไปช่วยนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลหาเสียงมาในหลายพื้นที่ ซึ่งพบว่าผู้สมัครของเราในหลายพื้นที่มีความพร้อม
“ไม่ได้คิดถึงตัวเลขที่จะได้ เพราะทุกสนามที่เราส่งผู้สมัครก็มีโอกาสในการที่จะชนะทั้งนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือคนที่ออกไปเลือก และหน้าที่ของเราในตอนนี้คือการสื่อสารและรณรงค์อย่างแข็งขัน สุดท้ายคนที่ตัดสินจริงว่าจะได้นายกเทศบาลที่ไหนบ้างก็คือประชาชนทุกคน”
ด้านสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ เรื่องการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,137 คน โดยเมื่อถามว่ารู้หรือไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) และนายกเทศมนตรี ในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.2568 พบว่า 91.29% รู้ และ 8.71% ไม่รู้ โดยเมื่อถามว่าจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.2568 หรือไม่ พบว่า 65.44% ไป, 21.72% ไม่แน่ใจ และ 12.84% ไม่ไป
เมื่อถามว่า คิดว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นมีความสำคัญต่อการพัฒนาท้องที่มากน้อยเพียงใด พบว่า 53.39% ค่อนข้างสำคัญ, 28.94% สำคัญมาก, 12.05% ไม่ค่อยสำคัญ และ 5.62% ไม่สำคัญ และเมื่อถามว่าผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่นที่มีนักการเมืองหรือพรรคการเมืองสนับสนุน จะมีความได้เปรียบในการเลือกตั้งมากน้อยเพียงใด พบว่า 52.59% ค่อนข้างได้เปรียบ, 34.56% ได้เปรียบมาก, 8.97% ไม่ค่อยได้เปรียบ และ 3.88% ไม่ได้เปรียบ
ถามอีกว่า ประชาชนคิดว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นกับการเลือกตั้งระดับชาติมีความสัมพันธ์กันอย่างไรบ้าง 48.02% มีการใช้เงินจำนวนมากในการหาเสียง/ซื้อเสียงเหมือนกัน, 47.05% การใช้ฐานเสียงร่วมกัน และ 46.61% เกี่ยวข้องกับผู้มีบารมี/อิทธิพล บ้านใหญ่ในพื้นที่ สุดท้ายเมื่อถามว่าหลังการเลือกตั้งแล้ว ประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ที่เป็นรูปธรรมอะไรบ้าง พบว่า 52.15% พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และถนนหนทางในชุมชน, 48.11% เน้นสร้างงาน สร้างรายได้ในพื้นที่ และ 46.53% แก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม เช่น ปัญหาฝุ่น น้ำท่วม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘กทม.’ปิดจ๊อบ รื้อซากตึกสตง. ‘13พ.ค.’ทำบุญ
กทม.เร่งเคลียร์เศษปูนตึก สตง. ก่อนปิดจ๊อบในวันที่ 15 พ.ค. หลังค้นหามา 48 วัน
โพลประจานชัด 76%ชี้รบ.เหลว ต่อสู้ภาษีทรัมป์
ผลโพลประจานฝีมือแก้เศรษฐกิจของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
บ้านใหญ่กวาดเรียบ เลือกตั้ง‘นายกเล็ก-สท.’ ปชน.หมดสภาพพ่ายยับ
ประธาน กกต.ตั้งเป้าใช้สิทธิ 70% เผยมีคดีร้องเรียนแล้ว 352 เรื่อง “ระพีพงษ์”
ศึกเลือกตั้งเทศบาลระอุ ร้องเรียนพุ่ง 358 เรื่อง
“รองเลขา กกต.” แถลงหลังปิดหีบ “เลือกตั้งเทศบาล” ยอดร้องเรียนพุ่ง 358 เรื่อง ขณะ 'นนทบุรี' แจกเงิน 300 พบหลักฐานมีโพยด้วย อยู่ระหว่างการไต่สวน ชี้ หากผลเขตไหนผ่านฉลุย ประกาศรับรองได้ภายใน 30 วัน
แชมป์เก่าฉลุย! ‘ไพรัตน์’ นั่ง ‘นายกเล็กเมืองศิลา’ ทิ้งคู่แข่งพรรคส้มกว่า 5 พันคะแนน
ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น
กกต.สรุปภาพรวมเลือกตั้งเทศบาล พบฉีกบัตรลงคะแนน 5 จังหวัด 6 ราย
กกต.แถลงหลังปิดการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีในเวลา 17.00 น. ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพมหานคร