"ครม.สัญจร" ไฟเขียว 9 โครงการใหญ่ พัฒนากลุ่มจังหวัดอีสานตอนบน 2 วงเงิน 400 ล้าน "นายกฯ อิ๊งค์" ลั่นไม่ต้องห่วงแข็งแรงดี ยันยังไม่ปรับ ครม. แซว "ภูมิธรรม" มีชื่อนั่ง 2 กระทรวง การันตีตรวจประวัติรัฐมนตรีเข้ม ไม่หวั่น "พีระพันธุ์" โดนร้องคุณสมบัติ วอนสื่ออย่าชี้นำปมเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ "นฤมล" คึกได้เพิ่ม สส.เมืองคอน เล็งปักธงกล้าธรรมทั่ว ปท. "อนุทิน" รับต้องกลับไปทำงานหนักขึ้น "เฉลิมชัย” ปัด ปชป.เสียพื้นที่ภาคใต้ ฟุ้งรอดูเลือกตั้งครั้งหน้า "กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ” นัด 1 พ.ค. สอบปมตั๋ว PN ของนายกฯ ลุ้น! 30 เม.ย. ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำร้องปม "ทักษิณ" ป่วยทิพย์ชั้น 14
ที่จังหวัดนครพนม วันที่ 29 เมษายน 2568 เวลา 09.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม ตำบลนาราชควาย อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 หรือ ครม.สัญจร โดยนายกฯ มีสีหน้าสดใสมากขึ้น ภายหลังเมื่อวันที่ 28 เม.ย. มีอาการอิดโรยระหว่างลงพื้นที่
ทั้งนี้ การประชุม ครม.ทางจังหวัดได้จัดเตรียมเสื้อชุดศรีโคตรบูรให้แก่ ครม. นอกจากนี้ยังได้เตรียมกระเป๋ากกสานลายเกล็ดพญานาค สื่อถึงองค์พญาศรีสัตตนาคราช ผู้ปกปักรักษาเมืองนครพนม และลิ้นจี่นครพนม พันธุ์ นพ.1 ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) มอบให้เป็นที่ระลึก
โดยก่อนการประชุมนายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการผลิตภัณฑ์สินค้าของจังหวัดนครพนม พร้อมอุดหนุนผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์ กระเป๋ากกสาน และผ้าไหมลายประยุกต์แบบใหม่จากร้าน OTOP พร้อมได้รับชมการแสดงของหมอแคน ซึ่งหมอแคนได้มอบแคนให้นายกฯ เป็นที่ระลึก และชมสาธิตการทำเรือไฟจากกาบกล้วย นอกจากนี้ยังได้รับฟังความคืบหน้าโครงการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม และยังมีกลุ่มนักศึกษามามอบดอกกุหลาบให้กำลังใจนายกฯ รวมทั้งถ่ายภาพร่วมกับ ครม. ผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 และผู้แทนภาครัฐ
จากนั้นการประชุม ครม.ได้เริ่มขึ้น โดยมีรัฐมนตรีแจ้งลาประชุม 6 คน ได้แก่ 1.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน 2.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.การคลัง 3.นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ 4.นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 5.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม และ 6.นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุม ครม.สัญจรว่า ครม.เห็นชอบในหลักการโครงการของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 จำนวน 4 โครงการ กรอบวงเงิน 200,000,000 บาท โดยให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดฯ ขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบฯ 2568 งบกลาง สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และให้สำนักงบประมาณพิจารณาความพร้อม ความคุ้มค่า และความเหมาะสมของวงเงิน ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
เห็นชอบในหลักการของโครงการที่เป็นข้อเสนอของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดของภาคเอกชน (กรอ.กลุ่มจังหวัด) จำนวน 5 โครงการ กรอบวงเงิน 200,000,000 บาท โดยให้ส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบฯ 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งจัดทำข้อเสนอโครงการ โดยให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้จ่ายงบอย่างรอบคอบ โดยมอบหมายให้ สศช. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาโครงการที่เป็นข้อเสนอของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดฯ ของภาคเอกชน (กรอ.กลุ่มจังหวัด)
น.ส.ศศิกานต์กล่าวว่า ในส่วนที่เหลือจำนวน 21 โครงการ เพื่อบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป รวมถึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินการให้ สศช.ต่อไป
นายกฯ ลั่นยังไม่ปรับ ครม.
น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานประชุม ครม.สัญจรถึงอาการป่วยว่า หายแล้วค่ะๆ ขอบคุณค่ะ พร้อมกล่าวอีกว่า ตอบได้แค่นี้ไม่แน่ใจตัวเอง
ต่อมาเวลา 13.20 น. น.ส.แพทองธารเดินทางมาที่ด่านศุลกากรนครพนม เป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนในพื้นที่ พร้อมกล่าวต่อที่ประชุมว่า "วันนี้ไม่ต้องเป็นห่วง ดิฉันแข็งแรงดี ไม่ต้องให้ใครสังเกต โอเคอยู่ค่ะ ต้องขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง เดินเข้าห้องมาทุกคนถามว่าวันนี้โอเคไหม วันนี้โอเคแล้วนะคะ"
น.ส.แพทองธารกล่าวถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ถูกร้องเรื่องการถือหุ้นบริษัทเอกชน กังวลจะมีผลกับรัฐบาลและอาจซ้ำรอยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ หรือไม่ว่า อันนี้ทราบ แต่ความจริงแล้วกระบวนการต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น
"ที่ผ่านมาก็ตรวจสอบอย่างเข้มข้นมากๆ ต้องผ่านขั้นตอนของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ว่าไม่มีลักษณะต้องห้าม อันนี้คือผ่านมาแล้ว ฉะนั้นต้องอาศัยหน่วยงานต่างๆ ช่วยกันตรวจสอบ และความจริงทุกคนผ่านการรับรองเข้ามา และผ่านการตรวจสอบแล้ว รวมถึงตัวดิฉันก็ผ่านกันหมด" น.ส.แพทองธารกล่าว
ถามว่า ได้พูดคุยกับนายพีระพันธุ์ในเรื่องนี้แล้วหรือยัง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ยังไม่ได้คุย ยังไม่ได้เจอกัน แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแน่นอน เพราะท่านทราบอยู่แล้ว เพราะผ่านเข้ามาใน ครม.ต้องเข้มข้นขึ้นหลังผ่านเหตุการณ์ที่เกิดกับนายเศรษฐา
ซักว่าได้ย้ำกับ ครม.เกี่ยวกับการปรับ ครม.หรือไม่ เพื่อลดกระแสข่าวลือ เพราะรัฐมนตรีบางท่านออกมาตัดพ้อว่ามีผลต่อการทำงาน นายกฯ กล่าวว่า เราเซอร์ไพรส์มากกับข่าว ครม.ที่ออกมา ท่านบิ๊กอ้วน (นายภูมิธรรม เวชยชัย) โดนย้ายกระทรวงเรียบร้อยแล้ว งงเหมือนกัน ความจริงเรื่องแบบนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นในกระบวนความคิดเลย งงว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
เมื่อถามว่า หากมีการปรับ ครม. จะยึดหลักอะไร และพรรคร่วมรัฐบาลได้ขอปรับในสัดส่วนของพรรคร่วมหรือไม่ นายกฯ กล่าวสวนกลับว่า “นี่ถามถึงเรื่องอนาคตหรือเปล่า บอกว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อันนี้คงต้องถามหมอดูก่อน” ทำให้บรรดารัฐมนตรีที่ยืนด้านหลังต่างหัวเราะ ก่อนนายกฯ จะหยอกล้อกับนายภูมิธรรมว่าอยู่กระทรวงอะไรนะตอนนี้ โดยนายภูมิธรรมชูสองนิ้วก่อนบอกว่า "กระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงมหาดไทย" จึงทำให้นายกฯ บอกว่า "อ๋อ เตรียมตัวจะย้ายไปมหาดไทยกับพาณิชย์" ก่อนนายกฯหัวเราะพร้อมกับบรรดาคณะรัฐมนตรี และหันไปชี้ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ที่ยืนอยู่ด้านข้าง พร้อมพูดแซวว่า “อะแฮ่มดังมาก” จังหวะนี้ทำให้นายอนุทินยิ้มและหัวเราะ
น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ถึงกรณีให้ สส.พรรคเพื่อไทยไปทำความเข้าใจประชาชนเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หากเรื่องดังกล่าวไม่ผ่านสภาในรัฐบาลนี้จะเป็นอย่างไรว่า ขออย่าเพิ่งชี้นำว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน ที่ตนให้ สส.ไปทำความเข้าใจเพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งใหม่ของประเทศ แต่มีในบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เรื่องนี้เป็นการลงทุนจากต่างชาติของภาคเอกชน ที่เราสามารถเก็บภาษีได้ เป็นประโยชน์ที่ประเทศชาติได้รับ และยังมีเรื่องการจัดคอนเสิร์ตที่เข้ามาก็จะมีการจ้างงานและเก็บภาษีได้มากขึ้น
ถามว่า ได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลช่วยทำความเข้าใจหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทุกคนมีแนวทางสื่อสารของพรรคตัวเอง ตนได้คุยแต่กับหัวหน้าพรรคให้ทุกพรรคไปดำเนินการกันเอง ซึ่งหัวหน้าพรรคทุกพรรคก็เห็นด้วย
ซักว่าจำเป็นต้องหันไปถามนายอนุทินในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ยืนอยู่ข้างๆ ว่าเคลียร์กันเรียบร้อยหรือยัง น.ส.แพทองธารกระเซ้าว่า ให้ส่งไมค์ให้พรรคภูมิใจไทยด้วยเลย หรือไม่ พร้อมกับยื่นไมค์ไปทางนายอนุทินที่ได้ยืนนิ่งแล้วบอกว่า เดี๋ยวให้สัมภาษณ์ข้างนอก ก่อนที่ น.ส.แพทองธารจะกล่าวว่า ความจริงไม่มีปัญหา คุยกับท่านรองฯ อยู่แล้ว ซึ่งทราบดีว่าเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาร่วมกัน
ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงสัญญาณปรับ ครม.ว่า ไม่มีหรอก และขอวิงวอนสื่อมวลชนเรื่องการปรับ ครม. ขอให้เป็นอำนาจของนายกฯ เมื่อไหร่ปรับก็เมื่อนั้น ถ้าออกข่าวกันไปแบบนี้ การทำงานมันจะสะดุด การสั่งการข้าราชการต้องยอมรับว่าลำบากใจในการทำงาน จึงขอวิงวอนเมื่อไหร่ปรับก็ปรับ พวกตนพร้อมอยู่แล้ว ถ้านายกฯ เห็นว่าไม่เหมาะสมก็ยินดี
'ปชป.' ให้รอดูผลเลือกตั้งใหญ่
ส่วนนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายพีระพันธุ์ถูกร้องเรื่องคุณสมบัติการถือหุ้นในบริษัทเอกชน 4 แห่งว่า นายพีระพันธุ์มีความรู้ด้านกฎหมายอยู่แล้ว เชื่อว่าน่าจะสามารถชี้แจงได้
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรค พท. กล่าวถึงกรณีพรรคกล้าธรรมได้ สส.เพิ่มขึ้น จะเป็นแรงกระเพื่อมให้มีการปรับครม.หรือไม่ว่า ไม่ทราบ แต่สัดส่วนของรัฐบาลยังเหมือนเดิม เพราะเขายังอยู่ในซีกรัฐบาล แค่เพิ่มมาอีก 1 เสียง คิดว่าไม่น่ามีอะไร
ถามว่า หลายคนมองว่าพรรคกล้าธรรมเป็นพรรคสาขาของพรรคเพื่อไทยที่คอยสู้ศึกเลือกตั้งในเขตที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่ง นายประเสริฐกล่าวว่า พรรคกล้าธรรมมีแนวทางของเขาอยู่แล้ว คงไม่ใช่สาขาของพรรคเพื่อไทย ต้องเข้าใจว่าสมาชิกส่วนหนึ่งของพรรคกล้าธรรมมาจากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเขามี สส.ในภาคใต้อยู่แล้ว ฉะนั้นการช่วงชิงพื้นที่ตรงนั้นเป็นเรื่องการแข่งขันทางการเมือง
ซักว่าพรรคกล้าธรรมถือเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นที่สุดของพรรค พท.หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ทุกพรรค ไม่ใช่แค่พรรคกล้าธรรม เมื่อถามว่าการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า พรรค พท.จะส่งผู้สมัคร สส.ครบทุกเขตใช่หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ครั้งที่แล้วเราก็ส่งครบทุกเขต เมื่อพรรค พท.เป็นพรรคใหญ่ การส่งทุกพื้นที่ก็เป็นไปได้
ขณะที่ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม กล่าวถึงการชนะเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช จะทำให้พรรคแข็งแกร่งขึ้นในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ว่า เป็นความตั้งใจของเราในฐานะพรรคกล้าธรรมที่จะออกไปรับใช้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เบื้องต้นคือจังหวัดนครศรีธรรมราช
ถามว่า ถือว่าเป็นการปักธงในพื้นที่ภาคใต้แล้วใช่หรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า คงไม่ใช่แค่พื้นที่ภาคใต้ คงจะเป็นทั่วประเทศไทยที่เราพร้อมที่จะไปรับใช้ประชาชน ตอนนี้ทางพรรคเองก็เร่งในเรื่องของสมาชิกและตัวแทนเขต โดยมีการเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ซักถึงกรณีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมพรรคประชาธิปัตย์ ระบุมีหลักฐานในเรื่องของการทุจริตที่จะไปยื่นต่อ กกต. นางนฤมลกล่าวว่า ก็แล้วแต่ที่จะพูด และมีองค์กรที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ก็ให้ทาง กกต.ดำเนินการ พรรคไม่ได้ทำอะไรผิด และเราทุ่มเท
นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงพรรค ภท.แพ้เลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราชว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะ ขณะที่ผู้สมัครพรรค ภท.ที่แพ้ก็ต้องทำงานหนักขึ้น แต่การแข่งขันครั้งนี้ก็ถือว่าบริสุทธิ์ยุติธรรม และก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า ต่อไปพรรค กธ.จะถือเป็นคู่แข่งกับพรรค ภท.ในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เอาเมื่อถึงเวลาการเลือกตั้งก็ส่งกันทุกพรรค แพ้บ้างชนะบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นการแข่งขัน ใครที่เสนอความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้มากกว่าก็ชนะ พรรค ภท.แพ้ไปหมื่นกว่าคะแนน ก็ต้องทำการบ้านอีกมาก
ซักว่าต่อไปจะต้องวางแผนยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคใต้ใหม่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเป็นการเลือกตั้งใหญ่เราก็ต้องไปขายนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่ และเชื่อมั่นว่าประชาชนมั่นใจในนโยบาย นี่ไม่ใช่เรื่องการต่อสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ เพราะเรื่องนี้ตัดสินด้วยประชาชน ไม่ได้เป็นการสู้กันของคู่ต่อสู้ และในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ได้ส่งไลน์แสดงความยินดีกับหัวหน้าพรรคกล้าธรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราชว่า ก็ตามที่เห็น เราไม่ได้คาดการณ์ว่าจะแพ้หรือชนะ แต่เราก็รอผลที่ออกมา เมื่อผลออกมาอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น เมื่อถามว่ามีการประเมินหรือไม่ว่าทำไมคะแนนถึงพ่ายแพ้มากขนาดนี้ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ตามข่าวนั่นแหละ หรืออาจจะมีเหตุผลอื่น
เมื่อถามว่า แสดงว่าพรรค ปชป.ไม่สามารถควบคุมภาคใต้ได้อีกแล้วใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ไม่หรอก รอดูผลการเลือกตั้งครั้งหน้า
กมธ.ลุยสอบตั๋ว PN ของนายกฯ
วันเดียวกัน นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.เห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 โดยรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฉบับดังกล่าว และเห็นชอบในข้อเสนอ เพื่อให้สำนักงบประมาณดำเนินการจัดพิมพ์ และนำเข้าสู่ให้ ครม.เพื่อเห็นชอบอีกครั้งในวันที่ 20 พ.ค.นี้ และเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ทั้งนี้ ในร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 มีวงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท เพิ่มจากงบปี 68 จำนวน 27,900 ล้านบาท ซึ่งการจัดทำงบประมาณครั้งนี้มีส่วนเพิ่มเติม คืองบประมาณอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ปี 69 จำนวน 389,727.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในส่วนของ อปท. 11,182 ล้านบาท หรือ 2.95%
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีครม.เห็นชอบการรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ให้เห็นชอบอีกครั้งในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ได้มีการประสานมาเพื่อขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญแล้วหรือไม่ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการประสานเพิ่มเติม แต่ก่อนหน้านี้มีการประสานเพียงคร่าวๆ ว่าจะเป็นช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน พ.ค.
ถามว่า พรรค ปชน.มีการเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เราได้เริ่มเตรียมความพร้อมแล้ว ซึ่งจริงๆ ก็เริ่มตั้งแต่ที่มีการปิดสมัยประชุมสภาฯ โดยให้ สส.ดูงบเก่าๆ และเริ่มวิเคราะห์ เปรียบเทียบกับงบใหม่ที่กำลังจะมา รวมถึงมีการเสนอหัวข้อต่างๆ กับ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ปชน.แล้ว ตอนนี้เริ่มกระบวนการคัดเลือกหัวข้อแล้ว
ที่รัฐสภา มีการนัดหมายการประชุมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เป็นประธาน เพื่อพิจารณาติดตามเรื่องร้องเรียนกรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำธุรกรรมและการชำระภาษีเกี่ยวกับการซื้อหุ้นมูลค่า 4,434.5 ล้านบาท ของ น.ส.แพทองธาร ในวันที่ 1 พ.ค. เวลา 09.30 น. โดยเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ได้เชิญอธิบดีกรมสรรพากร ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เข้าให้ข้อมูล
นายสิทธิพลให้สัมภาษณ์ว่า กมธ.จะสอบถามว่าประเด็นที่เกิดขึ้นนั้นถูกต้องหรือไม่ และประชาชนทำได้หรือไม่ ขณะเดียวกันในแง่ของ สตง. จะให้พิจารณาว่าเมื่อออกมาเป็นแบบนี้แล้ว มีส่วนที่ทำให้รายได้รัฐหายไปหรือไม่ รวมถึงมีวิธีการแก้ไข ป้องกันอย่างไร
ถามว่า ในประเด็นดังกล่าวจะตรวจสอบไปถึงประเด็นการเลี่ยงการเสียภาษีด้วยหรือไม่ นายสิทธิพลกล่าวว่า ต้องให้หน่วยงานที่เชิญมานั้นมาตอบ ส่วนจะขยายผลไปในทางใดต่อไปหรือไม่ ต้องรอข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่ง สตง.ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องดังกล่าวต้องพิจารณา รวมถึงต้องฟังคำชี้แจงที่ทำให้เห็นถึงประเด็นต่างๆ ที่ชัดเจน เมื่อถามว่าการตรวจสอบของ กมธ.จะถึงขั้นเชิญนายกฯ มาชี้แจงด้วยหรือไม่ ประธาน กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจกล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริงอีกครั้ง
ลุ้นศาลฎีกาฯ ชี้คดีทักษิณชั้น 14
ด้านนายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง ลุ้นความยุติธรรมจากศาลฎีกาฯ ส่ง “ทักษิณ” กลับ “คุก” เนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรค ปชป. วันที่ 30 เม.ย.นี้ เวลา 13.00 น. เพื่อฟังคำสั่งตามคำร้องที่ได้ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอให้ไต่สวนกรณีที่กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณออกจากเรือนจำไปเข้ารับการรักษาตัวที่ห้องวีไอพี ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
"หากมองกรณีคำร้องของนายชาญชัย เป็นไปได้สูงที่ศาลจะสั่งว่านายชาญชัยไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาล แต่เมื่อความปรากฏต่อศาลเช่นนี้ ประกอบกับกรณีปัญหาการรับโทษจำคุก ตามคำพิพากษาของนายทักษิณเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในสังคมกระทบกระเทือนต่อความยุติธรรม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองสามารถใช้อำนาจของศาลรับคำร้องไว้ไต่สวนได้ ว่าแต่ว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองจะใช้อำนาจที่ตนเองมีอยู่หรือไม่ ถ้าศาลใช้อำนาจรับ กรณีนี้ไว้ไต่สวน นายทักษิณคงหนีความจริงไม่พ้น ต้องกลับเข้าไปติดคุก ในเรือนจำ ได้เรียนรู้เสียทีว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง คนพยายามยุติความเป็นธรรมเพื่อตัวเองอาจทำได้แค่ชั่วคราว สุดท้ายมีราคาที่ต้องจ่ายตามพฤติกรรมของตัวเอง” นายเชาว์ระบุ
ขณะที่นายชาญชัยให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า วันที่ 30 เม.ย. จะเดินทางไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามที่เจ้าหน้าที่ธุรการของศาลฎีกาได้โทรศัพท์มาแจ้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ไปที่ศาลฎีกาเวลา 13.00 น. โดยจะเดินทางไปพร้อมกับทีมที่เคยทำเรื่องนี้มาด้วยกัน เช่นนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา และทีมงานอีก 2-3 คน
"ถึงตอนนี้ยังไม่ทราบว่าศาลฎีกาจะให้ผมไปฟังคำสั่งอะไรในวันพุธนี้ ไม่ทราบเลยจริงๆ เจ้าหน้าที่ของศาลฎีกาเพียงแต่บอกว่าให้พบเขาเวลาบ่ายโมง แล้วจะพาไปที่ห้อง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ไม่ได้รับแจ้งว่าศาลท่านจะมีการออกนั่งบัลลังก์หรือไม่อย่างไร ไม่ทราบเลยจริงๆ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ก็ต้องดูว่าศาลจะสั่งไม่ให้แสดงความคิดเห็นหรือให้ข้อมูลอะไรหรือไม่ หากไม่ได้สั่งก็อาจจะให้สัมภาษณ์หลังจากนั้นได้" นายชาญชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายชาญชัยเคยยื่นคำร้องในกรณีเดียวกันนี้ต่อศาลฎีกานักการเมืองถึง 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรกเมื่อ 19 ธ.ค.2566 และ 15 ก.พ.2567 แต่ศาลยกคำร้องไม่ไต่สวน โดยในการยื่นครั้งแรก ศาลฎีกาฯ ให้เหตุผลว่า เมื่อศาลออกหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดไปแล้ว การบังคับโทษและอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ปัญหาว่าเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ปฏิบัติชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาล จึงยกคำร้อง
ส่วนครั้งที่สาม ยื่นเมื่อ 10 ม.ค.2568 โดยเมื่อวันที่ 27 ม.ค.68 ศาลฎีกาฯ นัดให้นายชาญชัยไปฟังคำสั่งในคำร้องคดีดังกล่าว แต่เมื่อถึงวันนัดฟังคำสั่ง ศาลได้อ่านคำสั่งว่า เนื่องจากคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาดำเนินการ จึงให้เลื่อนฟังคำสั่ง และเมื่อมีคำสั่งเพิ่มเติม ศาลจะแจ้งให้ผู้ร้องมาฟังคำสั่งเพิ่มเติมในภายหลัง พร้อมทั้งสั่งห้ามไม่ให้ผู้ร้องเผยแพร่หรือถ่ายภาพคำร้องฯ ใดๆ ในระหว่างการพิจารณาคดี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก
โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก
‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่
ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน
‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง
"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12
พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา
พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว

