ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ สั่งไต่สวนปมบังคับโทษ "ทักษิณ" ไม่เป็นไปตามหมายจำคุกหรือไม่ 13 มิ.ย. เเต่ให้ยกคำร้อง "ชาญชัย" เหตุไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย "นายกฯ อิ๊งค์" บอกปมชั้น 14 ถามพ่อได้เลย โวยพวกต้าน พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ขวางนโยบายที่มีประโยชน์ ยืนกรานเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ขาดกาสิโนไม่ได้ "อนุทิน" ชี้ กม.กาสิโน พรรคร่วม รบ.ต้องโหวตเหมือนกันทุกพรรค หลัง "ประชาชาติ" ไม่เห็นด้วย "มวลชน" บุก "ปชป." ถามจุดยืนกาสิโน-พนันออนไลน์ "กล้าธรรม" ลั่นไม่คิดต่อรองเก้าอี้ รมต.เพิ่ม โพลดัชนีการเมืองไทยเดือนเม.ย.ดิ่งเหว ความเชื่อมั่นลดลงทุกด้าน
ที่ศาลฎีกา วันที่ 30 เมษายน 2568 เวลา 12.40 น. นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมีนายสมชาย แสวงการ อดีต สว. และนายนิติธร ล้ำเหลือ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เดินทางมาให้กำลังใจ เพื่อฟังคำสั่งศาลกรณีที่ยื่นขอให้ไต่สวนกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกตัดสินจำคุก 8 ปี แต่ได้รับการลดโทษเหลือ 1 ปี ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เข้ารับการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89 มาตรา 89/2 (1) (2) และมาตรา 246 และไม่อาจอ้างกฎกระทรวงเรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ
นายชาญชัยกล่าวว่า ศาลจะมีการดำเนินการพิจารณาอย่างไร ก็ต้องรอดูรายละเอียดที่จะต้องประเมินอีกครั้ง หากศาลรับไว้ไต่สวน คงจะมีคำสั่งเพิ่มเติมออกมาด้วยว่าให้ทำอะไรบ้าง แต่หากศาลไม่รับ ก็ต้องดูว่าจะนำมาเปิดเผยอะไรได้หรือไม่
ถามว่า ได้ยื่นร้องกรณีนี้มาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว นายชาญชัยกล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องที่เป็นสาระสำคัญ และมี 4 หน่วยงานราชการ ครั้งนี้ที่ร้องคือมีการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ และเป็นการละเมิดอำนาจศาลโดยจำเลยที่ไม่ได้คุกตามอำนาจศาลใคร ผู้ใดไปเกี่ยวข้อง ซึ่งศาลจะมีอำนาจดำเนินการตามกฎหมาย กรณีที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งหากมีการอ้างว่าป่วยเพื่อทุเลาโทษ ซึ่งในวันนี้ก็จะอำนาจในการร้อง
ต่อมา เวลา 13.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ บ.ค.1/2568 ระหว่าง อัยการสูงสุด คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน โจทก์ นายชาญชัย เป็นผู้ร้อง พ.ต.ท.ทักษิณหรือนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2566 และวันที่ 15 ก.พ.2567 กับขอให้ไต่สวนการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 จำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ของศาลนี้ตามคำร้องฉบับลงวันที่ 10 ม.ค.2568
ศาลพิเคราะห์คำร้องและเอกสารท้ายคำร้องแล้วเห็นว่า ผู้ร้องไม่ใช่คู่ความในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551คดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 และคดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ของศาลนี้ อีกทั้งไม่ใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยในคดีดังกล่าว เมื่อผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในชั้นบังคับตามคำพิพากษา จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลนี้
ศาลนัดไต่สวนทักษิณชั้น 14
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อความปรากฏต่อศาลว่าอาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลนี้ ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร จึงเห็นควรส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 จำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551ของศาลนี้แล้ว ให้โจทก์และจำเลยดังกล่าวแจ้งต่อศาลว่ามีข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้างในคำร้อง หรือไม่ อย่างไร กับสำเนาคำร้องให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ชี้แจงข้อประกอบการพิจารณาของศาลว่าการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยเป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาล หรือไม่ อย่างไร ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 6
โดยให้โจทก์ จำเลยดังกล่าว ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาบาลตำรวจ แจ้งให้ศาลทราบ พร้อมกับแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งศาล สำหรับกรณีที่ผู้ร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลนั้น เมื่อผู้ร้องไม่มีสิทธิ์ยื่นคำร้องต่อศาล กรณีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยคำขอคำขอดังกล่าว
ทั้งนี้ ศาลมีคำสั่งให้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น.
มีรายงานว่า กรณีศาลยกคำร้อง เนื่องจากผู้ร้องคือนายชาญชัยไม่ใช่คู่ความ ที่ร้องเรื่องการทุเลาโทษตาม ป.วิอาญา ม.246 ครั้งล่าสุดผู้ร้องปรับแก้คำร้องเป็นเรื่องขอให้บังคับโทษ ศาลเลยสั่งไต่สวน เป็นการยืนยันถึงอำนาจศาลในการพิสูจน์ความจริงเพื่อให้ได้ข้อยุติในปัญหาที่สังคมยังมีความสงสัย
"ผลการไต่สวนจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวน การสั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงโดยตรงย่อมทำให้รูปคดีไม่เป็นไปตามที่โจทก์กำหนดแต่ฝ่ายเดียว ถ้าศาลพบว่าการบังคับโทษไม่ถูกต้อง จำเลยก็ต้องรับโทษ นับต่อจากวันแรกที่ออกไปอยู่โรงพยาบาล" แหล่งข่าวระบุ
ที่โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนนายทักษิณกรณีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ วันที่ 13 มิ.ย. ว่าไปถามที่คุณพ่อได้เลย
จากนั้น น.ส.แพทองธารขึ้นเวทีปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "ภารกิจพลิกฟื้นเศรษฐกิจ : Mission Thailand" ในงาน TNN DINNER TALK ตอนหนึ่งถึงเรื่องกรณีรัฐบาลสนับสนุนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า เราต้องพูดก่อนเลยว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่เท่ากับกาสิโน เพราะมีไม่เกิน 10% ของพื้นที่ แต่กลายเป็นว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์คืออะไร ไม่ได้ยิน ไม่ได้ฟัง ได้ยินแต่คำว่ากาสิโน ไม่แปลกใจมันเป็นเรื่องของการบิดทางการเมืองอยู่แล้ว และเป็นเส้นทางการเมืองว่าจะตีนโยบายที่ทำให้เกิดประโยชน์อย่างไรบ้าง
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ถามอย่างนี้เรามาทำการเมืองเชิงสร้างสรรค์ ถ้าสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จริงๆ ประเทศไทยได้อะไรบ้าง อย่างแรกเราไม่เสียอะไร เพราะรัฐไม่ได้ลงทุน เป็นเอกชนต่างชาติเข้ามาลงทุน รัฐบาลเก็บภาษี ตอนนี้เรื่องเงิน ดิฉันกำชับการใช้จ่ายงบประมาณต้องคุ้มค่าทุกบาท เพราะเรามีเงินจำกัด ที่บอกให้สร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์โดยไม่มีกาสิโน ต้องถามว่าหากมีสเตเดียมอินดอร์ขายตั๋วเท่าไหร่ถึงจะคุ้มทุนในการก่อสร้าง ต้องขายอีกนาน แต่เรื่องของกาสิโนสามารถใช้เงินตรงนี้มาหนุนได้
"บางคนบอกว่าจะมอมเมากับการพนันหรือไม่ เราจะมีการสร้างกฎหมายรองรับ หากใครทำผิดกฎหมายมีการฟอกเงิน เรามีการดำเนินคดีและเขาจะถูกดำเนินดคีในประเทศเขาด้วยเช่นกัน และคนจะไปเล่นได้ต้องมีหลักทรัพย์เข้าไป ไม่ใช่ใครไปเล่นได้แล้วหวังแจ็กพอตเงิน 30 ล้านกลับบ้าน อันนี้ไม่จริง สิ่งนี้ต้องวางกรอบไว้อย่างรอบคอบ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลเป็นห่วง" น.ส.แพทองธารระบุ
กาสิโนทุกพรรคต้องโหวต
ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงเรื่องการให้ สส.ทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.... หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ ว่า หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีการมาพูดคุยกัน เนื่องจากขณะนี้ทุกพรรคยังไม่ได้หารืออย่างเป็นทางการ และยืนยันในคณะพรรคร่วมรัฐบาลจะสนับสนุนดำเนินตามนโยบายของนายกฯ โดยเหตุการณ์ที่ น.ส.แพทองธารแถลงเลื่อนร่างกฎหมายจากสภา ก็มีหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยในทิศทางเดียวกันว่าให้เลื่อนเรื่องออกมาก่อน และเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคอาจจะต้องโหวตก็ต้องโหวตไปในทิศทางเดียวกัน
“ไม่ใช่ว่ามีพรรคใดพรรคหนึ่งบอกติดข้อจำกัดอะไรแล้วขอไม่โหวต แต่ไม่ได้หมายความว่าจะคัดค้าน หากจะต้องโหวตก็ต้องโหวตทั้งหมด หากพรรคใดพรรคหนึ่งไม่โหวต ก็ต้องนั่งคุยกันใหม่ จะเห็นว่ามีพรรคประชาชาติออกแถลงการณ์มาว่ายังไม่เห็นด้วย แต่ยังไม่ทราบว่าอย่างไร เพราะหัวหน้าพรรคบอกว่ายังไม่ใช่ พรรคภูมิใจไทยพูดชัดเจนตั้งแต่แรก หากทุกพรรคเห็นพ้องกันหมด ก็ต้องนั่งหารือกัน” นายอนุทินกล่าว
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กลุ่ม คปท., ศปปส. และกองทัพธรรม นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. พร้อมมวลชนเดินทางเคลื่อนขบวนมาที่พรรค ปชป. เพื่อทวงถามความชัดเจนจุดยืนในเรื่องของกาสิโน พนันออนไลน์
นายพิชิตกล่าวว่า พรรคการเมืองที่เคยมีอุดมการณ์ว่าจะเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยอย่างพรรค ปชป. มีจุดยืนอย่างไรกับกาสิโน พรรคที่เคยร่วมกับประชาชนเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย ไม่ต้องการให้มีการคอร์รัปชัน แต่วันนี้นโยบายรัฐบาลที่ไม่ใช่นโยบายร่วมของรัฐบาล แต่เป็นนโยบายเร่งด่วนของคนบางคน คือนโยบายของนายทักษิณบอกว่ารัฐบาลที่เป็นรัฐบาลผสมมีพรรค ปชป.ร่วมอยู่ด้วย จะเดินหน้านโยบายเร่งด่วนคือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโน
"ผู้นำศาสนา นิสิตนักศึกษา ประชาชน ครูบาอาจารย์ คณะแพทย์ พี่น้องทั้งประเทศ แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับกาสิโน วันนี้จึงต้องถามพรรค ปชป.ว่าเห็นด้วยหรือไม่ จุดยืนของพรรคต้องมีความชัดเจนต่อเรื่องนี้" แกนนำ คปท.ระบุ
วันเดียวกัน นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ รองหัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวว่า ในวันที่ 6 พ.ค. พรรค กธ.จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคและ สส. ซึ่งนายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ ว่าที่ สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 จะมาเปิดตัวกับพรรคด้วย
ถามว่า พรรคถูกมองว่าเป็นพรรคสาขาของพรรคเพื่อไทย (พท.) ดูแลพื้นที่เลือกตั้งภาคใต้ นายบุญสิงห์กล่าวว่า ไม่ใช่สาขา เป้าหมายของเราคือการขับเคลื่อนดูแลเรื่องประโยชน์ประชาชนและประเทศ และพรรค กธ.ให้ความสำคัญกับเกษตรกร ซึ่งเราดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่แล้ว จึงสอดคล้องกัน
ซักว่าหากพรรคมี สส.เพิ่ม จะได้โควตารัฐมนตรีเพิ่มด้วยหรือไม่ นายบุญสิงห์กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของพรรคที่จะไปต่อรอง เพราะการจัดโควตาเป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด โดยเฉพาะพรรคแกนนำที่จะต้องพิจารณา ไม่ใช่พรรค กธ.จะต้องไปเรียกร้องหรือเสนออะไร
ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณกล่าวปรามาสเป็นหนุ่มสึ่งตึงว่า คงไม่คอมเมนต์อะไรเพิ่มเติม คนที่เป็นผู้ใหญ่ทางการเมือง พูดอย่างไร สื่อสารอย่างไรก็ให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน อยากให้เน้นไปที่การแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นของนโยบายในการหาเสียงทำงานมากกว่า ส่วนคำพูดที่โยนมาแบบนี้ ก็คงไม่มีความเห็นเพิ่มเติม
ร้องผู้ตรวจฯ ชงสอบพีระพันธุ์
ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ยื่นหนังสือผ่านนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน เพื่อขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ถือครองหุ้นในบริษัทเอกชนและดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัทเอกชน โดยมิได้แจ้งให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี และมิได้โอนหุ้นภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้แจ้งดังกล่าว ซึ่งฝ่าฝืนมาตรา 187 ประกอบมาตรา 5 มาตรา 98 (3 ) มาตรา 160 (4) (5) (6) แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี
ถามว่า เรื่องจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะร้องเรียนด้วยหรือไม่ นายสนธิญากล่าวว่า จะไปยื่น ป.ป.ช.ในศุกร์ที่ 2 พ.ค.นี้ เวลา 10.30 น.
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนเมษายน 2568” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,208 คน สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม ระหว่างวันที่ 25-29 เม.ย.2568 โดยมีตัวชี้วัด 25 ประเด็นที่บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นต่อการเมืองไทยในด้านต่างๆ ซึ่งแต่ละตัวชี้วัดจะมีคะแนนเต็ม 10 คะแนน
สรุปผลเรียงลำดับจากค่าคะแนนสูงสุดไปถึงต่ำสุด 1.ดัชนีการเมืองไทย เดือนเมษายน 2568 ภาพรวมคะแนนเต็ม 10 ได้ 4.82 คะแนน (เดือนมีนาคม 2568 ได้ 4.95 คะแนน)
2.ประชาชนให้คะแนน 25 ตัวชี้วัดดัชนีการเมืองไทย โดยคะแนนเต็ม 10 เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ซึ่งทั้งหมดลดลงจากเดือนมีนาคม ดังนี้ (1) ผลงานของฝ่ายค้าน 5.34 (2) สิทธิและเสรีภาพของประชาชน 5.18 (3) การมีส่วนร่วมของประชาชน 5.08 (4) การพัฒนาด้านการศึกษาสำหรับประชาชน 5.04 (5) การพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า 4.99 (6) การแก้ปัญหาต่างๆ ในภาพรวม 4.99 (7) ความมั่นคงของประเทศ 4.96 (8) เสถียรภาพทางการเมือง 4.95 (9) การดำเนินงานของพรรคการเมืองโดยภาพรวม 4.93 (10) ผลงานของนายกรัฐมนตรี 4.91 (11) สภาพสังคมโดยรวม 4.90 (12) การปฏิบัติตนและพฤติกรรมของนักการเมือง 4.88
(13) ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 4.88 (14) การบริหารประเทศตามนโยบายที่ประกาศไว้ 4.87 (15) ผลงานของรัฐบาล 4.85 (16) การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของภาครัฐ 4.85 (17) ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน 4.62 (18) กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม 4.61 (19) การแก้ปัญหายาเสพติดและผู้มีอิทธิพล 4.60 (20) ค่าครองชีพ เงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ 4.56 (21) การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ความโปร่งใส 4.54 (22) สภาพเศรษฐกิจโดยภาพรวม 4.49 (23) ราคาสินค้า 4.49 (24) การแก้ปัญหาการว่างงาน 4.48 (25) การแก้ปัญหาความยากจน 4.40
3.นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนคิดว่ามีบทบาทโดดเด่นในเดือนเมษายน 68 นักการเมืองฝ่ายรัฐบาล 1.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร 42.09% 2.นายอนุทิน ชาญวีรกูล 31.39% และ 3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค 26.52% นักการเมืองฝ่ายค้าน 1.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 51.44% 2.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร 26.75% และ 3.น.ส.รักชนก ศรีนอก 21.81%
4.ผลงานของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนชื่นชอบในเดือนเมษายน 68 ผลงานฝ่ายรัฐบาล 1.จัดงานมหาสงกรานต์ 2568 49.75% 2.พัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติ 25.82% และ 3.ตรึงราคาน้ำมัน ลดค่าไฟ 3.99 บาท 24.43% ผลงานฝ่ายค้าน 1.ตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการทำงาน 45.83% 2.ติดตามตรวจสอบตึก สตง.ถล่ม 28.18% และ 3.เร่งรัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เจรจาสหรัฐ 25.99%.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท


