นายกฯเข้มสตง. ‘กทม.’เพิ่มยอด สูญหาย109คน

“อุ๊งอิ๊ง” ขึงขังลั่นตึก สตง.ถล่มต้องมีคนรับผิดชอบ เพื่อสร้างมาตรฐานที่ดี “กทม.” ปรับยอดผู้ประสบภัยแล้วเพิ่มเป็น 109 ราย ยังติดตามอยู่ 14 ราย ปูดสัปดาห์นี้มีลุ้นรูปคดีทั้งนอมินี-ตึกถล่ม

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกรายการ  “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” โดยนายกฯ    กล่าวว่า หายไป 1 ครั้ง เพราะเกิดเหตุการณ์มากมาย เดี๋ยวจะมาสรุปให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และไปทำอะไรมาบ้าง เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาเกิดแผ่นดินไหว ช่วงนี้มีการทดสอบระบบเซลล์บรอดคาสต์ (ระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินที่ส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ) หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มเพียงแค่ตึกเดียว ได้ติดตามและกำชับใกล้ชิดให้ตรวจสอบเหตุการณ์ตึกถล่ม ทุกวันนี้ในการหาและระบุตัวตนก็ยังทำอยู่เต็มที่เต็มความสามารถ ทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะดูหน้างานเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ตอนนี้ได้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น และพยายามจะเคลียร์เรื่องไซต์งานให้หมด คิดว่าน่าจะใกล้จบมากแล้ว เพราะว่าวันนี้ที่นั่งอยู่ตรงนี้อัดรายการเป็นช่วงปลายเดือน เม.ย. ภายในไม่เกิน 1 อาทิตย์ไซต์งานน่าจะเคลียร์จนครบหมด ก็เต็มที่เรื่องนี้ ให้เคสนี้จบไป ให้ญาติได้นำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา

น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า ครั้งต่อไปถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้อีก เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งแน่นอนว่าแผ่นดินไหวเราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้  แต่ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้อีก รัฐบาลได้รองรับไว้หมดแล้วว่าจะทำอย่างไร ประชาชนจะต้องมีขั้นตอนในการแจ้งเหตุได้อย่างไร มีขั้นตอนในการเอาตัวรอดรักษาชีวิตตัวเองไว้อย่างไร รัฐบาลเตรียมพร้อมไว้หมด ทุกระบบถูกจัดการถูกวางแผนไว้อย่างดีและรัดกุม

“ดิฉันในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง รับไม่ได้กับเรื่องนี้ และรับไม่ได้ว่าจะไม่มีคำตอบ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ตัวดิฉันตามอย่างใกล้ชิด และได้กำชับไปแล้วกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถ้าในกระบวนการเซ็นต่างๆ มันผิดตั้งแต่การอนุญาตก็ต้องถูกดำเนินคดีแล้ว ยังไม่ต้องพูดเรื่องตึกถล่มเลย การออกแบบออกมา การมีอุปกรณ์ประกอบในตึกถูกหรือยัง ถ้าผิดก็คือผิด ยังไม่ต้องพูดถึงตึกถล่มด้วยซ้ำ นี่คือสิ่งที่ทำอยู่ และตึกอื่นๆ ก็ให้ตรวจสอบเช่นกัน เพราะอยากให้มีพื้นฐานที่เป็นมาตรฐานที่ดีของประเทศเรา” น.ส.แพทองธารกล่าวถึงกรณีตึก สตง.

ขณะเดียวกัน ที่กองอำนวยการร่วม สน.บางซื่อ มีการประชุมความคืบหน้าร่วมกันสรุปตัวเลขผู้ประสบภัยเหตุอาคาร สตง.แห่งใหม่ถล่ม โดย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ตามที่มีญาติผู้ประสบเหตุแจ้งความตามหาเป็นบุคคลสูญหายไว้ที่ สน.บางซื่อ ผู้ประสบเหตุทั้งหมด 103 ราย ล่าสุดมีญาติของผู้สูญหายมาแจ้งเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ตัวเลขผู้ประสบเหตุและผู้สูญหายที่อยู่ระหว่างติดตามเพิ่มขึ้น ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อและกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจได้สอบสวนยืนยันแล้วจำนวน 6 ราย กองอำนวยการร่วมจึงขอทำการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้าใจตรงกัน ว่า ณ วันที่ 4 พ.ค. จำนวนผู้ประสบเหตุ 109 ราย ผู้เสียชีวิต 86 ราย ผู้บาดเจ็บคงที่ 9 ราย อยู่ระหว่างติดตามอีก 14 ราย

ด้าน พ.ต.อ.หญิงวันเพ็ญ ด้วงปั้น ผกก.กลุ่มงานพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล กองพิสูจน์หลักฐาน  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลขณะนี้มีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากญาติสายตรงไว้จำนวน 100 ราย เพื่อเตรียมนำมาเปรียบเทียบกับศพของผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายที่อยู่ระหว่างการติดตาม โดยสถาบันนิติเวชฯ  สามารถตรวจพิสูจน์ยืนยันเป็นผู้เสียชีวิตแล้ว 86 ราย ในจำนวนนี้เป็นร่างผู้เสียชีวิตสมบูรณ์ 78 ราย และเป็นชิ้นส่วนที่มีการตรวจพิสูจน์แล้วตรงกัน 8  ราย และจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดสามารถพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลว่าเป็นใคร จำนวน 63 ราย แยกเป็นสัญชาติไทย 46 ราย, เมียนมา 15 ราย, กัมพูชา 1 ราย และลาว 1 ราย

ส่วนความคืบหน้าคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด กรณีการควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง. ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษได้สอบปากคำพยานวิศวกร 38 ราย จากทั้งหมด 51 ราย พบว่ามีวิศวกร 28 ราย ให้การว่าถูกปลอมลายเซ็นในเอกสารควบคุมงาน ขณะที่ 8 รายยอมรับว่าเซ็นจริง ขณะเดียวกัน คณะพนักงานสอบสวนตำรวจคดีอาคารถล่ม สตง.ได้สอบปากคำพยานและผู้เกี่ยวข้องคืบหน้าไปกว่า 80% แล้ว เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างเหล็ก ปูน และพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อส่งตรวจพิสูจน์มาตรฐานโครงสร้าง ซึ่งผลตรวจบางส่วนออกมาแล้ว แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอผลตรวจด้านอื่นๆ และข้อมูลจากนักวิชาการประกอบกัน เช่นเดียวกับผลตรวจลายเซ็นวิศวกร ที่ยังต้องรอการยืนยัน โดยคาดว่าจะชัดเจนเรื่องแนวทางการดำเนินคดีในสัปดาห์หน้า

ขณะที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณี น.ส.นารากร ติยายน และนายดำรง พุฒตาล พิธีกรและผู้ประกาศข่าวยื่นเรื่องเอาผิด สตง.ว่า ขอบคุณ น.ส.นารากร ที่เป็นตัวแทนหมู่บ้าน กล้าหาญที่จะทำเรื่องนี้ เพราะเป็นประชาชนประเทศนี้มันเหนื่อย แต่เราต้องช่วยกัน เพราะ 1.รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่มีตรงไหนที่ให้อำนาจประชาชนเข้าชื่อริเริ่มกระบวนการถอดถอนองค์กรอิสระไว้เลย ทั้งๆ ที่ในอดีตเคยทำได้ 2.รัฐบาลทำอะไรบ้าง คำตอบคือตั้งคณะกรรมการ ที่ตอนแรกบอกว่าต้องสรุปใน 7 วัน แต่สุดท้ายก็ขยายเรื่อยๆ ความคืบหน้าปัจจุบันเป็นยังไงไม่มีใครทราบ และ 3.ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นเพื่อนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นเพื่อนสนิทกันมาสิบปีตามที่เคยให้ข่าวไว้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก

โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก

‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่

ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน

‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง

"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12

พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา

พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี