ป่วยจริง!มีหลักฐาน อิ๊งค์ยันพ่อพร้อมโชว์ศาล‘รมว.สธ.’ไม่สวนมติแพทยสภา

“แพทองธาร” โอดโอยบอกพูดไปก็ไม่มีคนเชื่อ ลั่นพ่อป่วยจริงซ้ำเคยผ่าตัดด้วย ชี้อายุ 75 ปีแล้ว เวลาเจ็บป่วยก็หายช้า “สมศักดิ์”  โวยถูกตีปลาหน้าไซปมใช้อำนาจยับยั้งผลแพทยสภาชั้น 14 โวทุกครั้งปั๊มตราเห็นด้วยไม่เคยแย้ง  “อนุทิน” ชี้การเมืองนิ่งอยู่ อย่าเปลืองแอร์ไทม์วิเคราะห์ “พีระพันธุ์” ยืดอกพร้อมไปแจง ป.ป.ช.  ลามหนักยื่นสภาตรวจสอบ “ด้อมพัง” คุกคามผู้เห็นต่าง “สนธิญา-อดีตหัวหน้า รทสช.” ยื่นหนังสือบี้ถือหุ้น-แจกของ

เมื่อวันอังคารที่ 6 พ.ค.2568 น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีเคยระบุว่าจะขอข้อมูลการรักษาอาการของนายทักษิณ ชินวัตร   อดีตนายกรัฐมนตรีจากแพทยสภา ขณะนี้ได้คำตอบกลับมาหรือยังว่า ยังไม่ได้รับรายงานกลับมา

เมื่อถามว่า มีความพยายามโยงว่านายกฯ รู้เรื่องทุกอย่างว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่จริง ใช้วิธีรักษาเป็นอย่างไร แล้วนำมาโยงเป็นประเด็นการเมือง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างที่บอกไปช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าพูดแล้วจะเชื่อกันหรือไม่

ถามย้ำว่า นายทักษิณป่วยจริงใช่หรือไม่  น.ส.แพทองธารตอบว่า “ป่วยจริงค่ะ มีการผ่าตัดด้วย”

เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์กันว่าการที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพิจารณาประเด็นชั้น 14 จะเป็นการล้มดีลการตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธารยิ้มและหัวเราะ ก่อนตอบว่า “ไม่ กำลังจะบอกว่าคิดเยอะมากเลย อย่างวันที่ 13 มิ.ย. เขานัดมาอย่างไรเราก็ไปตามกระบวนการ เดี๋ยวมันต้องมีหลักฐานเอกสารที่นายทักษิณต้องเอาไปยืนยัน”

เมื่อถามว่า จากข้อมูลที่ทราบตัว น.ส.แพทองธารสามารถชี้แจงได้หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า มันอยู่ในกระบวนการ ความจริงแล้วเรามั่นใจอยู่แล้วว่าความจริงเกิดอะไรขึ้นบ้าง พูดจริงๆ ว่าพออยู่ในจุดที่สงสัยอย่างต่อเนื่อง มันก็สงสัยอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าถามว่าให้ออกมาพูดถึงความชัดเจนอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี คนเลือกที่จะไม่เชื่อก็จะไม่เชื่อ คิดว่าถ้ามันมีอะไรเพิ่มเติมก็อย่างนั้น และทุกวันนี้นายทักษิณก็อายุ 75 แล้ว เวลาเจ็บป่วยอะไรก็เห็นได้ชัดว่าหายช้ากว่าปกติ แต่ไม่เป็นไร เพราะความจริงแล้วครอบครัวผ่านเรื่องต่างๆ มามาก สิ่งที่ทำได้ต้องเข้มแข็งไว้ อันนั้นคือสิ่งที่ต้องทำ เราจะมี Mind Month เดือนแห่งสุขภาพใจกันแล้วเร็วๆ นี้ เป็นสิ่งสำคัญว่าเราต้องดูแลสุขภาพใจของเราด้วยทุกคน ทำใจให้เบิกบานสดใสไว้ ถ้าเรามีความโกรธ ความเกลียดชังอะไรมากมาย มันไม่ดีกับตัวเราเอง

ทั้งนี้ ก่อนประชุม ครม. น.ส.แพทองธารได้เรียกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยประชุมบนตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายกฯ กล่าวว่า อ๋อ มีหลายประเด็นที่ต้องคุยค่ะ ต้องคุยกันนิดนึง ในขณะที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม กล่าวว่า นายกฯ ได้เน้นย้ำเรื่องการทำทุกเรื่องเพื่อดูแลประชาชน

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกระแสข่าวผลสอบแพทยสภากรณีชั้น 14 มีแพทย์ 2 คนโดนพักใบอนุญาตจริงหรือไม่  ว่ามีสื่อบางฉบับเอาผลการประชุมของนำเสนอ แต่เท่าที่ดูแพทยสภายังไม่มีการประชุม จึงไม่รู้ว่าไปรับรู้รับทราบข้อมูลมาอย่างไร แต่คิดว่าคงเป็นการคาดเดาว่าตนเองจะไปยับยั้งหรือไม่ เพราะในฐานะ รมว.สธ. เป็นสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา มีอำนาจในการยับยั้งหรือเห็นชอบรายงานการประชุมของแพทยสภาตามปกติ และในเอกสารที่ระบุว่าวันที่ 8 พ.ค.นี้ จะประชุมแพทยสภานั้น ก็ไม่ทราบว่าจะมีการประชุมหรือไม่อย่างไร แต่เมื่อผลออกมาแล้วตามกฎหมายก็ต้องส่งมาให้ รมว.สธ.เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ซึ่งไม่ทราบว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร และไม่ได้คิดอะไรไว้เลย

“ผมไม่สามารถโน้มน้าวหรือทำให้ใครเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบได้ เพราะคณะกรรมการส่วนใหญ่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิประมาณ 71-72 ท่าน และเป็นสัดส่วนของแพทย์ในมหาวิทยาลัย รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์เป็นองค์ประกอบด้วย ผมคงไม่สามารถไปล็อบบี้ใครได้ทั้งสิ้น ฉะนั้นสื่อที่ออกมาพูดในลักษณะตีปลาหน้าไซ ไม่ทราบว่ามีวัตถุประสงค์อะไร และที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยเห็นแย้ง” นายสมศักดิ์ระบุ

 ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเห็นชอบตามที่แพทยสภาเสนอมาใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ปกติต้องเป็นแบบนั้น และถ้ามีผลออกมาแล้วผู้เกี่ยวข้องอาจร้องเรียนหรือมีความสงสัยอะไรมาเราก็ต้องดู เพราะคนเป็นรัฐมนตรีจะถูกมองว่าปล่อยปละละเลยก็อาจมีประเด็นนั้นตามมา เราจึงต้องดูให้เรียบร้อยตามเหตุตามผล

เมื่อถามว่า กรณีที่ รมว.สธ.เห็นชอบถือว่าจบเลยหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า หากรับรองมติแล้วก็จบเลย แต่หากไม่เห็นด้วยก็ต้องกลับเข้าที่ประชุมแพทยสภาเพื่อยืนยันโดยใช้เสียง 2 ใน 3 คือ 48 ท่าน แต่ถ้าเห็นแย้งแต่ตรงกับความเห็นของ รมว.สธ. ต้องใช้เสียง 1 ใน 3 คือ 24 ท่าน

ลั่นการเมืองยังนิ่ง

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ  และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่าจะนิ่งไปจนถึงวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ที่ศาลฎีกาจะนัดไต่สวนคดีชั้น 14 หรือไม่ ว่าการเมืองนิ่งมาตลอด มีแต่สื่อที่ทำให้ไม่นิ่ง วันนี้การประชุม ครม.ก็เป็นไปด้วยความราบรื่น

เมื่อถามว่า นายกฯ ได้เปรยเรื่องการปรับ ครม.บ้างหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี ส่วนเรื่องแรงเขย่าปรับ ครม.นั้น ก็ไม่มี เรียบร้อยดี ช่วงสงกรานต์พูดกันเรื่องปรับ ครม. คนนั้นเข้าคนนี้ออก พรรคนี้เข้าพรรคนั้นออก ท่านนายกฯ ก็ให้ความชัดเจนแล้ว อย่าเปลืองแอร์ไทม์มานั่งวิเคราะห์กันก็ผิดหมด อายเขาด้วย

นายอนุทินยังกล่าวถึงการพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกฯ  ได้ฝากความห่วงใยอะไรมายังรัฐบาลหรือไม่ว่า  เจอ พล.อ.ประยุทธ์ทุกครั้งก็ดีใจ ไม่ได้เจอกันมา 2-3 เดือนแล้ว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่มีการพูดถึงสถานการณ์ทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ได้แต่ถามสารทุกข์สุกดิบว่าเป็นอย่างไรบ้าง งานหนักหรือไม่ และเป็นกำลังใจให้ เวลาเจอกัน พล.อ.ประยุทธ์ก็ตบไหล่ให้กำลังใจในการทำงานตลอด ให้ช่วยนายกฯ ให้ดีๆ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวเอกสารของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่มีชื่อนายอนุทินเกี่ยวข้องกับเรื่องของสถาบันฯ พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้กำลังใจในเรื่องนี้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า คนที่เป็นรัฐมนตรีเจอเรื่องแบบนี้ทุกวัน ไม่เจอเรื่องนี้ก็เจอเรื่องนั้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้รู้สึกอะไร ตรงไหนที่รู้สึกว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริงเราก็ชี้แจง แต่ว่าจะให้ไม่โดนเลย ขาวจั๊วะ ไม่ให้ใครมาพาดพิงได้เลย  อันนี้ต้องไปบวช

 “ผู้สื่อข่าวก็ควรปิดเคสได้แล้วว่าผมไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ อาจจะมีความผิดพลาดนิดหน่อยที่ไปบอกว่าให้ไปอ่านในเนื้อความ ที่บอกว่าผมยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งก็ชี้แจงไปว่า เวลาคนอ่านอ่านแต่หัวข้อ เหมือนเวลาอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ก็อ่านแค่พาดหัวข่าว ไม่มีใครอ่านรายละเอียด ซึ่งก็เข้าใจและออกมาแก้ไข” นายอนุทินกล่าว

สำหรับกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ถูกร้องเรียนในเรื่องต่างๆ นั้น น.ส.แพทองธารกล่าวเรื่องนี้เพียงสั้นๆ ว่า ท่านประชุมอยู่ข้างบน

ขณะที่นายพีระพันธุ์กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรียกไปรับทราบข้อกล่าวหากรณีการแจกถุงยังชีพโดยมีสติกเกอร์รูปตนเอง ว่า ป.ป.ช.ยังไม่มีการส่งหนังสือมาถึง

เมื่อถามย้ำว่า มีความกังวลในเรื่องนี้หรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่มี

ส่วนนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีนายพีระพันธุ์ถูกร้องเรียนมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัทว่า ต้องดูรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช. ดังนั้นไม่ควรให้ความเห็นให้เกิดความวุ่นวาย เดี๋ยวสังคมจะเข้าใจอะไรไปไม่ตรงกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยมีการทักท้วงจากกฤษฎีกาในเรื่องนี้หรือไม่ นายปกรณ์กล่าวว่า  เป็นไปตามกฎหมาย กฎหมายเขียนว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ภาคประชาชนนำโดย นายอรรทิตย์ฌาณ คูหาเรืองรอง ยื่นหนังสือถึงนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่  2 เรื่องขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมและบทบาทของนายพีระพันธุ์ ว่ามีเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและสนับสนุนในการสร้างด้อมพีระพันธุ์ หรือด้อมพัง (ชื่อกลุ่มแฟนคลับ) หรือไม่

โดยนายอรรทิตย์ฌาณระบุว่า ด้อมดังกล่าวมีพฤติกรรมล่วงละเมิดหรือล่วงเกินคุกคามผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง โดยมีการถ่ายทอดสดหรือผลิตวิดีโอที่บิดเบือนข้อมูลด่าทอ ใช้ข้อความที่หยาบคาย รวมถึงการบูลลี่เด็กพิเศษ ผ่านทางแอปพลิเคชันติ๊กต๊อกและเฟซบุ๊ก และไม่แน่ใจว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) สนับสนุนให้มีการส่งเสริมหรือสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมการพบปะของด้อมพีระพันธุ์หรือไม่

ไล่บี้ด้อมพีระพันธุ์

“หลักฐานที่เรานำมายื่น ประกอบด้วยการเปิดตัวด้อมพีระพันธุ์ตั้งแต่ช่วง เม.ย.ปี 2567  หลังจากนั้นจะมีการจัดงานเสวนาอีก 2 ครั้งที่สามย่านมิตรทาวน์ และล่าสุดคือเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา มีการจัดกิจกรรมด้อมพีระพันธุ์อีกครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่มีการจัดกิจกรรมนายพีระพันธุ์จะไปร่วมด้วย และในวันที่ 20 เม.ย. นายพีระพันธุ์มีการพูดในประเด็นที่ทำให้เกิดการโต้แย้งกันในสังคมถึงการทำงาน โดยมีคลิปเสียง คลิปวิดีโอของนายพีระพันธุ์ ที่เปรียบเปรยประชาชนที่ไม่ได้สนับสนุนตัวเองเป็นประชาชนที่อยู่ในโคลนตม ไม่ใช่หน้าที่ที่จะต้องมุดลงไปกระชากคนเหล่านั้นขึ้นมา ทำให้ตั้งข้อสังเกตว่าพฤติกรรมต่างๆ ของนายพีระพันธุ์ อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับด้อมพีระพันธุ์หรือไม่ จึงอยากให้ตรวจสอบพฤติกรรมต่างๆ หากนายพีระพันธุ์มีส่วนเกี่ยวข้อง ผมไม่แน่ใจว่าจะผิดรัฐธรรมนูญ ในหมวด 8 มาตรา 164 วรรค 4 ด้วยหรือไม่ รวมถึงอาจจะต้องมีการตรวจสอบเรื่องจริยธรรมด้วยว่าเข้าขั้นร้ายแรงหรือไม่" นายอรรทิตย์ฌาณกล่าว

ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เข้ายื่นต่อ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบการกระทำที่จะฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.ปี 2561 ของนายพีระพันธุ์ในการถือหุ้นและเป็นกรรมการบริหาร จำนวน 4 บริษัท

นายสนธิญากล่าวว่า ไม่ได้มีการประสานกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ หรือบุคคลใดเลย ซึ่งการถือหุ้นหรือการเป็นกรรมการบริหารในบริษัทนั้น เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ตรวจสอบได้  วันนี้ถ้านายพีระพันธุ์มั่นใจว่าไม่ได้ถือหุ้นใน 4 บริษัทนั้น ก็ออกมาแถลงชี้แจงได้เลย หรือต่อให้ถือหุ้น ก็ควรออกมาแถลงว่าถือเพราะอะไร อย่าลืมว่านายพีระพันธุ์เป็นรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค รทสช. เป็นบุคคลสาธารณะที่จะต้องได้รับการตรวจสอบ ผมจึงขอเรียกร้องและการเรียกร้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับเรื่องจริยธรรม คุณธรรม ที่ทำให้นักการเมืองหลายคนใน 3-4 ปีที่ผ่านมาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปตลอดชีวิตแล้วไม่ และอยากให้การบังคับใช้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเป็นไปโดยชอบธรรมเหมือนทุกๆ คนที่เขาปฏิบัติกัน

 “วันนี้มีเอกสารที่จะนำมายื่นต่อ กกต. มีเอกสารใหม่เพิ่มขึ้นมา 2-3 ชุด เช่น กรณีการลาของท่านในช่วงที่เป็น สส.บัญชีรายชื่อก็นำมาประกอบด้วย และกรณีการเข้ารับตำแหน่งก็จะนำมาประกอบให้ กกต.พิจารณา และวินิจฉัย หากมีประการหนึ่งประการใดที่จะนำมาเพิ่มเติมก็จะนำมายื่นเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง”

ต่อมานายสนธิญาได้มายื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ผ่าน พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้ตรวจสอบกรณีการถือหุ้นและเป็นกรรมการบริหารในบริษัท จำนวน 4 บริษัท ของนายพีระพันธุ์ โดยให้นายกฯ ตรวจสอบและดำเนินการอย่างเร่งด่วน

นอกจากนี้ ว่าที่ ร.อ.ไกรภพ นครชัยกุล อดีตหัวหน้ารวมไทยสร้างชาติ เข้ามายื่นหนังสือถึงนายกฯ เพื่อขอให้ปลดนายพีระพันธุ์ รวมถึงขอให้ลาออกจากหัวหน้าพรรค หลังปรากฏข้อมูลที่ยืนยันกรณีแจกถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ส่วนที่ทำการพรรคกล้าธรรม (กธ.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค กธ. กล่าวถึงการเปิดตัว สส.มาร่วมอุดมการณ์พรรคว่า ไม่มีอะไรคลาดเคลื่อน ยังคงเป็นไทม์ไลน์เดิม คือวันที่ 2 พ.ค. แต่ข่าวที่คลาดเคลื่อนคือ ไม่ใช่ สส.ของภาคใต้ ขณะนี้เจ้าตัวขอเก็บเป็นความลับ แต่น่าจะภายในเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งจะทยอยมา โดยเป็น สส.จากพรรคฝ่ายค้านหลายพรรคที่อยากจะมาร่วมอุดมการณ์ทางการเมืองร่วมกัน ไม่มีของพรรคร่วมรัฐบาล แต่ขอยังไม่ระบุตัวเลขที่แน่นอน

ฟุ้งไม่ได้สร้างราคา

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า จำนวน สส.ของพรรคกล้าธรรมที่เพิ่มขึ้น จะไม่มีการนำไปรวมกับการปรับ ครม. เรื่องนี้เป็นเรื่องของครอบครัวพรรคที่กำลังสร้างบ้านให้มีความมั่นคง และเป็นการสร้างความเชื่อถือให้กับพี่น้องประชาชนว่า พรรคเราจะทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง และคงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตามที่เราได้วางนโยบายมาโดยตลอด ส่วนที่หลายคนพยายามวิเคราะห์ว่ากำลังสร้างราคาให้ตัวเองเพื่อที่จะแย่งเก้าอี้ ครม.นั้น ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง

ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าพรรค กธ. ร่วมแสดงความยินดีกับนายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ หรือบิ๊กโอ ว่าที่ สส.เขต 8 จ.นครศรีธรรมราช อย่างเป็นทางการ และให้การต้อนรับนายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เข้าเป็นสมาชิกพรรค กธ. รวมถึงนายพงศกรณ์ เสาร์ทน ว่าที่ผู้สมัคร สส.ขอนแก่น เขต 3 และนายธนิก มาสีพิทักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.ขอนแก่น เขต 8 ทั้งนี้ นายเอกราชได้สมัครเป็นสมาชิกเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว

โดย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวถึงกรณีนายเอกราชเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคว่า ได้คุยกับนายอนุทินอยู่ตลอดเวลา ไม่มีความแตกแยกระหว่างพรรค กธ.กับภูมิใจไทย ถือเป็นการจากกันด้วยดี แม้กระทั่งวันนี้นายอนุทินก็โทรศัพท์มาหาว่ารับนายเอกราชเข้าพรรคกล้าธรรมหรือยัง นอกจากนี้ นายอนุทินได้สอบถามนางนฤมลในที่ประชุม ครม.เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ารับนายเอกราชเข้าพรรคหรือยัง เพราะเป็นห่วง   

วันเดียวกัน นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ว่า ให้รอนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ก่อนว่าจะวางใครเป็นแกนนำในการจัดการเปิดรับฟัง สื่อบางสำนักจะจัดก็ได้ยินดี ทางรัฐบาลพร้อมที่จะชี้แจง

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะมีกิจกรรมทำความเข้าใจเรื่อง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ด้วยหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น แต่อยากให้คนกลางเป็นคนจัดมากกว่า

 “พยายามทำให้เสร็จก่อนเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรายังมีเวลาในการทำความเข้าใจอยู่” นายสรวงศ์กล่าว

เมื่อถามว่า กฎหมายนี้จะเข้าสภาเมื่อเปิดสมัยประชุมเลยหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า กฎหมายนี้อยู่เป็นอันดับแรก หากไม่เข้าเลยก็ต้องเลื่อนอีก.