นายกฯ สั่งเข้มดูแลปชช.ชายแดนใต้ ย้ำพรรคร่วมฯให้สส.ในพื้นที่ช่วยกัน ยันรัฐบาลเต็มที่ ทำงานเชิงรุก ขออย่าใช้คำแบ่งแยกเชื้อชาติ-ศาสนา “ภูมิธรรม”ขอปชช.อย่าหวั่นไหว หลังคนร้ายขู่เพิ่ม ลั่น รัฐพร้อมคุยแต่ต้องหยุดความรุนแรง “ทวี” ยึดหลักสันติสุข วอนอย่าด้อยค่าคู่เจรจา ขณะที่ผบก.ภ.จว.นราธิวาส แจงยิบเหตุป่วนนราธิวาส
เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 6 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยประชุมบนตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อรับมือสถานการณ์ภาคใต้ ต่อมา น.ส.แพทองธาร แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ที่มีการพุ่งเป้าไปที่ผู้บริสุทธิ์ ฝ่ายความมั่นคงจะมีแนวทางป้องกันอย่างไร ว่า ได้มีการสั่งการไปแล้ว รัฐบาลไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกรูปแบบ ตำรวจ ทหาร และกองทัพได้มีการพูดคุยกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แล้ว และได้มีการสั่งการให้ดูแลเรื่องนี้อย่างเข้มข้น
สิ่งหนึ่งที่อยากเน้นย้ำและรบกวนสื่อมวลชนช่วยกัน คือเรื่องการแบ่งคำพูดที่ว่าศาสนาอะไร เชื้อชาติอะไร อย่างไรก็ตามคนทุกคนก็คือคน และเป็นคนที่มีครอบครัว เป็นสิ่งที่เราไม่ต้องมาแบ่งแยกกันตรงนี้ ความรุนแรงไม่ควรที่จะเกิดขึ้น ทุกชีวิตที่เสียไปก็เป็นชีวิตที่มีคุณค่าและความหมาย เราต้องช่วยกันทำความเข้าใจในเรื่องนี้และไม่มีการแบ่งแยกกันในแบบนั้น
เมื่อถามว่า หน่วยงานความมั่นคงมีการประเมินและวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็มีการวิเคราะห์ในหลายรูปแบบ รวมถึงความขัดแย้งในหลายอย่างด้วย ซึ่งเราก็พยายามดูในเรื่องนี้ ทั้งนี้ในเรื่องของความปลอดภัยได้มีการเพิ่มในเรื่องกำลังการดูแลและก็ต้องเพิ่มในเรื่องความเข้าใจ ว่ามีความเข้าใจผิดอย่างไรบ้าง หรืออยากจะมีความเข้าใจในเรื่องอะไรเพิ่มเติมในการสื่อสารที่เราทำประกอบด้วย
เมื่อถามว่า จะมีแนวทางสร้างความมั่นใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับประชาชนอย่างไร เพราะเหตุการณ์ในพื้นที่ภาคใต้กลับมารุนแรงอีกครั้งเหมือน 20 ปีก่อน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาทหารได้เข้าไปตั้งด่านเรียบร้อยแล้ว ในเรื่องของสรรพกำลังต่างๆเราเตรียมเต็มที่และทำเชิงรุกหาก ใครทำผิดกฎหมายต้องดำเนินการไปตามกระบวนการ
เมื่อถามว่ากรณีนิด้าโพลเปิดเผยความเห็นของประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ตรงนี้จะทำอย่างไรให้ประชาชนรู้ว่ารัฐบาลทำเต็มที่ นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลทำมาโดยตลอดทั้งเรื่องความเข้าใจและเรื่องของกำลัง ซึ่งตอนนี้ที่มีเรื่องของความรุนแรงเพิ่มขึ้น สรรพกำลังก็เข้าไปในพื้นที่เต็มที่แล้ว ซึ่งในเรื่องการดูแลความปลอดภัยของประชาชนก็ทำเต็มที่อย่างแน่นอน เราคุยกันทั้งนอกรอบ ซึ่งช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ก็มีการเน้นย้ำกันว่าบางพรรคร่วมรัฐบาลที่มี สส.ในพื้นที่ก็รายงานกันเข้ามา ซึ่งเราเองก็จับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดไม่ได้ปล่อยไปไหนแน่นอน
เมื่อถามว่าในส่วนคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฝ่ายไทยได้เรียกร้องอยากให้ตัวผู้เจรจาของฝั่งบีอาร์เอ็นเป็นตัวจริงมาพูดคุยกับเรา นายกฯ กล่าวว่า ทางผู้อำนวยความสะดวกรับเรื่องนี้ไปแล้วถึงผู้ที่เรียกเข้ามาคุย เมื่อถามว่ากรณีที่กลุ่มบีอาร์เอ็นออกแถลงการณ์ประนามเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น
นายกฯพร้อมย้ำว่าไม่ได้ใช้กำลังต่อพลเรือน รวมถึงให้รัฐบาลเร่งสืบสวนหาคนผิดที่แท้จริง ส่วน ในเรื่องการหาผู้ที่กระทำความผิดเราทำเต็มที่อยู่แล้วและได้มีการสั่งการไปทางตำรวจเรียบร้อยแล้วว่าผู้กระทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ไม่อย่างนั้นผู้บริสุทธิ์ที่อยู่ในพื้นที่ก็รู้สึกไม่ปลอดภัย ถ้าเราไม่สามารถจับคนผิดได้เลยประชาชนธรรมดาที่อยู่ในพื้นที่ก็ลำบาก ขอย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ปล่อยไปไหนและสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยละเอียดว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
‘บิ๊กอ้วน-มท.หนู’สร้างขวัญกำลังใจ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงหลังกลับมีการก่อเหตุร้ายรุนแรง และบ่อยขึ้นในภาคใต้ จึงขอมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ร่วมกับทหารทุกเหล่าทัพ ตำรวจ และหน่วยงานความมั่นคง เร่งดำเนินการหามาตรการป้องกันเพิ่มเติม และแก้ไขปัญหานี้โดยด่วน และขอสั่งการให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ เร่งร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างจริงจังในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะการดูแลทุกข์สุขและสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ให้สัมภาษณ์ ว่า ส่วนจะมีมาตรการดูแลประชาชนเพิ่มขึ้นหรือไม่ หลังผู้ก่อความไม่สงบร่อนใบปลิวขู่ทำร้ายประชาชนไทยพุทธกับพระสงฆ์ให้มากขึ้น ว่า ถามว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้น่าเชื่อถือหรือไม่ แต่ยืนยันว่าเขาคงทำไม่ได้ เพราะขณะนี้เราได้ปรับกำลัง และปรับหน่วยเคลื่อนที่เข้าไปคุ้มครองพื้นที่ชาวไทยพุทธ รวมถึงได้คุยกับผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อย่างใกล้ชิดตลอด ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง และเป็นการพิสูจน์ให้ประชาชนได้เห็นว่าเป็นวิถีที่ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งการที่ชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสลิมได้เห็นแถลงการณ์ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบถามว่าเป็นสิ่งที่ชอบทำหรือไม่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม มองเห็นชีวิตผู้คนที่ไม่เป็นมนุษย์ และยิ่งทำแบบนี้จะยิ่งทำให้เกิดปัญหา
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า โดยวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.) ตนได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ไปพูดคุยให้กำลังใจดูแล เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง และขอให้ชาวไทยมองปัญหาอย่างเข้าใจ เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฎิบัติงานอยู่โดยเอาชีวิตเข้าเสี่ยงที่จะแก้ปัญหา อย่าหลงประเด็นที่ถูกบิดเบือนไป เพราะประเด็นสำคัญคือไม่ควรมีการเข่นฆ่าพี่น้องประชาชน ถ้าไม่มีเรื่องนี้แล้วค่อยมาคุยกัน แต่ถ้าเอาเรื่องนี้มาบีบเราคงยอมไม่ได้ และเราจะต้องดำเนินการอย่างแข็งแรงเด็ดขาด เพื่อให้ประชาชนของเรามีความปลอดภัย
วอนอย่าด้อยค่าคู่เจรจา
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ยืนยันว่ารัฐบาลมุ่งมั่นจะแก้ปัญหาภาคใต้ โดยเฉพาะชีวิต ความปลอดภัยและทรัพย์สิน อยากสร้างสันติสุขให้ยั่งยืน ซึ่งการแก้ปัญหาภาคใต้ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และแก้ด้วยสันติวิธี โดยเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ตนได้ไปรดน้ำศพตำรวจที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิด และพบหน่วยกำลังในพื้นที่ ก็ได้บอกว่าในเบื้องต้นต้องทำให้ประชาชนได้รับการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัย อย่าให้พื้นที่เป็นของฝ่ายตรงข้าม พื้นที่ต้องเป็นของรัฐ
เมื่อถาม ขณะนี้มีการพุ่งเป้าไปที่ชาวไทยพุทธเยอะ ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของศาสนา แต่การกระทำกับกลุ่มเปราะบางเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการเจรจาทางลับอยู่ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การแก้ปัญหาสูงสุดคือ ต้องเอาความปลอดภัยและความอยู่ดีกินดีของประชาชนเป็นหลัก รัฐบาลเคารพฝ่ายค้าน แต่วิธีการกระทำของรัฐบาลต้องทำภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่สำคัญเราต้องเปิดให้ประชาชนมีส่วนในการกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง โดยเฉพาะชาวไทยพุทธต้องเข้ามามีส่วนในการพูดคุยด้วย
เมื่อถามว่า เรื่องการเจรจาพูดคุย ในส่วนหัวหน้าของฝ่ายไทยยังไม่มีความชัดเจนว่ามีใครบ้าง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เดินเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล ตนไม่ทราบว่าคำสั่งนั้นมีการยกเลิกหรือยัง แต่ก็เป็นแบบนี้มาตลอด ที่เลขาธิการ สมช.เป็นหัวหน้าในการพูดคุย เมื่อถามอีกว่า คนที่เราพูดคุยเจรจาด้วย ใช่คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เราอย่าไปด้อยค่าเขา เพราะการพูดคุยหากเป็นช่วงเดือนรอมฎอน ถ้าเขาบอกหยุดก็ต้องหยุด เพราะฉะนั้น เราอย่าไปด้อยค่าใคร
ความคืบหน้าผลตรวจพิสูจน์วัตถุพยานของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส กรณีคนร้ายจำนวน 6 คน ขี่รถ จยย. 3 คัน ใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านชาวบ้าน จำนวน 3 จุด ในพื้นที่บ้านปลักปลา ม.5 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย นั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส หรือ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า
ในเบื้องต้นเชื่อได้ว่าคนร้ายที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านตากใบ จะเป็นคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุยิงและวางระเบิดคาร์บอมบ์ภายในที่ว่าการ อ.สุไหงโก-ลก ด้วย ซึ่งในส่วนคดียิงและวางระเบิดคาร์บอมบ์ภายในที่ว่าการ อ.สุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับคนร้ายแล้วในเบื้องต้น 1 คน จากหลักฐานกล้องวงจรปิด และดีเอ็นเอ ส่วนคดียิงชาวบ้านตากใบเสียชีวิต 3 ราย นั้น เจ้าหน้าที่รู้เบาะแสคนร้ายแล้ว และอยู่ในการรวบรวมประจักษ์พยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นทราบเบาะแสคนร้าย 2 จาก 6 คน ซึ่งเตรียมออกหมายจับ
ส่วนความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ตามประยิง นางสง่า แสงย้อย ซึ่งเป็นหญิงพิการตาบอดเสียชีวิต และ นายทัศไนย์ ตั้งคง บุตรชายได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านไอร์บือแต ม.4 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 2 พ.ค.68 ที่ผ่านมานั้น จากการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 ม.ม. ในที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายเคยใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวก่อเหตุยิง อส.ทพ.หญิง นูรีซัน พรหมศรี เสียชีวิตภายในตลาดนัดดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 28 มี.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ทราบผู้ก่อเหตุแล้ว จำนวน 2 คน ซึ่งทั้ง 2 คนมีหมายจับคดีความมั่นคงเกือบ 10 หมาย ที่เจ้าหน้าที่เตรียมที่จะออกหมายจับในคดีนี้
ส่วนความคืบหน้าเหตุ คนร้ายลอบวางระเบิดรถ จยย.พ่วงข้าง ที่บริเวณข้างกำแพงรั้วด้านหลังแฟลตที่พักเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกเคียน เมื่อวันที่ 20 เม.ย.68 ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเยาวชนได้รับบาดเจ็บ 10 รายนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย จำนวน 1 คน ไปสอบสวนขยายผลที่ศูนย์ซักถามกรมทหารพรานที่ 46 ได้มีการให้การซักทอดถึงกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุ มีด้วยกัน 3 กลุ่ม จำนวน 6 คน แบ่งเป็น กลุ่มที่ 1 คนร้ายที่ทำหน้าที่ขี่รถ จยย.พ่วงข้างที่ซุกซ่อนระเบิด มาจอดที่บริเวณข้างกำแพงรั้ว, กลุ่มที่ 2 ทำหน้าขี่รถ จยย.มารับคนร้ายที่ขี่รถ จยย.มาวางระเบิด และ กลุ่มที่ 3 คนร้ายที่ทำหน้าที่ดูต้นทาง ซึ่งมีอายุระหว่าง 20-30 ปี โดยเจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลเพื่อติดตามจับกุม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก
โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก
‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่
ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน
‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง
"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12
พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา
พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น
นายกฯ สั่งตั้ง 'กองบัญชาการปภ.แห่งชาติส่วนหน้า' ลดความรุนแรงน้ำท่วมใต้เหลือระดับ 3
นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมใต้ บอกความทุ่มเททราบถึงพระเนตรพระกรรณ ขอกรมโยธาฯเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนเยียวยาไม่ใช่รายหัว พร้อมกำชับ สธ. ดูแลสุภาพจิต -โรคติดต่อ สั่ง ตั้งกองบัญชาการและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า หลังลดระดับความรุนแรงเหลือระดับ 3 มอบ ‘ศักดิ์ดา’ บัญชาการพื้นที่
นายกฯ ปฏิเสธตอบปมนายก อบจ.สงขลาด้อยค่า อส.-คนไทยบาดเจ็บสู้รบเมียนมา
นายกฯปฎิเสธให้สัมภาษณ์กรณี นายก อบจ.หาดใหญ่ กล่าวด้อยค่า อส. และกรณีคนไทยในแม่สอดบาดเจ็บจากการสู้รบในเมียนมา

