WHOห่วงหลายปท.ผ่อนคลายเกินไป

WHO ห่วงหลายประเทศผ่อนคลายมากเกินไป นายกฯ ยันไม่ประมาท ขณะที่ไทยติดเชื้อโควิดพุ่ง 9.1พันราย ห่วงคลัสเตอร์โรงเรียน 11 จังหวัด ผวาตลาดลามหนัก “อนุทิน” ยังไม่เห็นข้อเสนอปรับคนไม่สวมหน้ากากอนามัย หลังต่างชาติไม่ค่อยร่วมมือ ขณะที่ “ภูเก็ต” พบรูรั่วเทสต์แอนด์โก-เอกสารปลอม ส่อลามนำเชื้อเข้าประเทศ

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,172 ราย ติดเชื้อในประเทศ 8,889 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 8,855 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุก 34 ราย, มาจากเรือนจำ 61 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 222 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 7,832 ราย อยู่ระหว่างรักษา 84,413 ราย อาการหนัก 517 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 107 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 21 ราย

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม. 1,432 ราย, สมุทรปราการ 854 ราย,  ชลบุรี 399 ราย, ภูเก็ต 395 ราย, นนทบุรี 324 ราย, นครศรีธรรมราช 194 ราย,    มหาสารคาม 193 ราย, ปทุมธานี 179 ราย, ศรีสะเกษและระยอง จังหวัดละ 175 ราย สำหรับการระบาดเป็นคลัสเตอร์ที่น่าเป็นห่วงคือโรงเรียนและสถานศึกษา  วันนี้วันเดียวมีถึง 11 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น อุดรธานี ประจวบคีรีขันธ์ หนองบัวลำภู ยโสธร สุพรรณบุรี มหาสารคาม  ศรีสะเกษ กทม. สระแก้ว และชลบุรี แต่ละคลัสเตอร์เป็นคลัสเตอร์ขนาดเล็ก ส่วนใหญ่มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 คน และเป็นการติดเชื้อในชั้นเดียวกัน ดังนั้นกรณีเกิดคลัสเตอร์ในโรงเรียนไม่ควรปิดโรงเรียน แต่ให้ใช้วิธีควบคุมโดยการปิดชั้นเรียนนั้นๆ เป็นเวลา 3 วัน รวมถึงงดกิจกรรมการรวมกลุ่ม และหากโรงเรียนไหนจะปิดการเรียนแบบออนไซต์ทั้งหมด ขอให้แจ้งต่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดด้วย

ทั้งนี้ พบคลัสเตอร์ตลาด 21 จังหวัดได้แก่ กทม. สระบุรี ชลบุรี กาญจนบุรี ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ประจวบคีรีขันธ์ น่าน ร้อยเอ็ด นครราชสีมา ปทุมธานี สุรินทร์ ลพบุรี ปราจีนบุรี ตาก ขอนแก่น อ่างทอง เชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา อุดรธานี สมุทรสาคร ขณะที่คลัสเตอร์บุคลากรทางการแพทย์ เช่น ในแผนกหอผู้ป่วยเด็ก ศัลยกรรม ผู้ป่วยในฯ พบที่ จ.เชียงใหม่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ปทุมธานี นนทบุรี อุดรธานี ขอนแก่น กทม. คลัสเตอร์งานพิธีกรรม งานศพพบที่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ เพชรบุรี จันทบุรี อุดรธานี คลัสเตอร์งานแต่งงานพบที่น่าน  ศรีสะเกษ มหาสารคาม และคลัสเตอร์งานบวชพบที่ปราจีนบุรี นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งจัดหา ATK มาตรฐานประชาชนเข้าถึงได้ในราคาประหยัด ซึ่งจะมีการประชุมเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน และจะนำเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในสัปดาห์หน้าด้วย

พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ห่วงที่หลายประเทศที่กำหนดนโยบายผ่อนคลายโควิด-19 มากจนเกินไป โดยให้เหตุผลว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวดอีกต่อไป ซึ่ง WHO ค่อนข้างเป็นห่วง จึงออกมาย้ำเตือนว่าการแพร่ระบาดที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นนั้นจะหมายถึงมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโอมิครอนที่รายงานที่แรกที่แอฟริกาเมื่อ 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั่วโลกมียอดติดเชื้อไปแล้ว เกิน 90 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งปีของปี 63 จึงมีทิศทางที่ไม่เห็นด้วยกับการผ่อนคลายมากเกินไป ซึ่งประเทศที่ผ่อนคลายชัดเจนคือเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ รวมทั้งการสมัครงานหรือเข้ารับบริการต่างๆไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานหรือใบรับรองสุขภาพอีกต่อไป เช่น เดียวกับประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่กลางแจ้ง เช่น ชมคอนเสิร์ต ดูกีฬา และกำหนดว่า 16 ก.พ.นี้จะเปิดให้บริการไนต์คลับ และอนุญาตให้ดื่มได้ในสนามกีฬาและโรงภาพยนตร์ เป็นต้น

"ซึ่ง WHO เป็นห่วงนั้นต้องขอย้ำว่าการยกเลิกมาตรการสาธารณสุของประเทศเหล่านี้ไม่ได้แปลว่าเขาได้คำนึงว่ามีความปลอดภัยแล้ว แต่เป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศเหล่านี้ตัดสินใจเปิดกิจการ กิจกรรมผ่อนคลายมากขึ้นโดยยอมรับความเสี่ยงที่จะตามมา" พญ.อภิสมัยกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 11 ก.พ.นี้ ว่าเรื่องการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ยังไม่มี จะมีเท่าที่เสนอมาแล้วในขณะนี้ ทุกอย่างยังอยู่ในห้วงของการประเมินต่อไปรายสัปดาห์ เช่น สถิติสูงขึ้นลดลงจะว่ากันอย่างไร การฉีดวัคซีนมีผลอย่างไร และวัคซีนเด็กเป็นอย่างไร การดูแลเยียวยาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการของรัฐมีอะไรบ้าง สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือเรื่องของสุขภาพและงบประมาณที่มีอยู่จะต้องสำรองไว้เผื่อเหตุฉุกเฉินด้วย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่องค์การอนามัยโลกห่วงใยกรณีที่หลายประเทศผ่อนปรนมาตรการมากเกินไป ทั้งที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสูงอยู่ นายกฯ กล่าวว่า ตนได้อ่านข่าวและเห็นข่าวก็เป็นห่วง ซึ่งเราประมาทไม่ได้อยู่แล้ว หลายคนบอกว่าต่อไปอาจจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น เป็นโรคธรรมดา โรคปกติเหมือนโรคอื่นๆ ซึ่งตนยังไม่ได้วางใจตรงนี้ เพราะสถานการณ์ยังมีความรุนแรงเกิดขึ้นในหลายประเทศ สถิติเห็นกันทุกวันก็ยังเป็นห่วงเป็นใยเหมือนเดิม

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่การแชร์ข้อมูลจากเพจศูนย์ข้อมูลโควิด-19 เผยแพร่อัตราค่าปรับผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยว่า ในส่วนกระทรวงสาธารณสุขยังไม่มีใครรายงานเข้ามา แต่อาจเป็นข้อเสนอของหน่วยงานใน ศบค.ที่เราต้องมาพิจารณากัน ใครคิดอะไรที่เป็นประโยชน์ที่ทำให้เกิดการป้องกันโรคครอบจักรวาลมีสิทธิเสนอได้ ทั้งนี้ หากประชาชนร่วมมือรับเป็นอย่างดี ก็ไม่ต้องบังคับใช้กฎหมาย แต่หากมีคนไม่ให้ความร่วมมือไม่สวมหน้ากากอนามัย โดยอ้างความเป็นอิสระ แต่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ต้องมาหารือกัน เพราะได้รับรายงานว่าต่างชาติบางคนไม่ยอมสวมหน้ากาก เช่น ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี  ซึ่งเหตุผลเพราะอะไรต้องมาคุยใน ศบค.ว่าจะทำอย่างไรกับคนกลุ่มนี้

เมื่อถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่ต้องให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามมาตรการ นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีมาตรการกำหนดออกมาแล้วต้องปฏิบัติตาม เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เมื่อถามว่าต้องนำกฎหมายมาบังคับใช้ในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้หารือกัน แต่ถ้าจำเป็นต้องมาหารือกัน ถ้าใช้ก็ต้องบังคับใช้ให้ทั่วหน้า และเวลานี้คนไทยส่วนใหญ่ก็สวมหน้ากากหมดแล้ว จึงส่งผลให้ตัวเลขการติดเชื้อไม่กระโดดขึ้นไป ส่วนจะมาอ้างว่าเข้าเมืองแบบเทสต์แอนด์โก ผ่านขั้นตอนมาแล้วไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย จะมาอ้างอย่างนี้ไม่ได้ ต้องมีมาตรการจัดการ

นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมทางไกลกับศูนย์ปฏิบัติการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และ ศปก.ศบค.  ณ ห้องประชุมศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตรายงานข้อมูลปัญหาการติดเชื้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการ Phuket Sandbox และ Test & Go ว่าพบการติดเชื้อในนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงขึ้นต่อเนื่อง และจำนวนจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาตามมาตรการ Test & Go ที่เปิดในวันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป อันจะเป็นการเพิ่มภาระในการดูแลผู้ป่วยสีเขียวใน Hospitel หรือ Hotel Isolation ของจังหวัดภูเก็ตสูงขึ้น

ข้อมูลจากด่านหน้าจังหวัดภูเก็ต รายงานสาเหตุของปัญหาว่า 1.นักท่องเที่ยวบางรายขึ้นเครื่องมาโดยไม่มี Thailand  pass ไม่มีผลการตรวจ RT-PCR ก่อนขึ้นเครื่อง หรือมีแต่ปลอมแปลงเอกสารหรือตรวจผิดประเภท (เป็นผลตรวจ Antigen Test) เป็นปัญหาที่นอกเหนืออำนาจของจังหวัดภูเก็ต จึงขอความอนุเคราะห์จาก ศปก.ศบค.พิจารณาให้ ความช่วยเหลือ สำหรับข้อมูล 1 พ.ย.64-1 ก.พ.65 ตรวจพบเชื้อนักท่องเที่ยว Phuket Sandbox และ Test & Go จังหวัดภูเก็ต สะสม 4,369 ราย และยังคงให้ตรวจหาเชื้อนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย วิธี RT-PCR ที่ DAY 0 ณ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตต่อไป พร้อมเสนอไปยังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยช่วยกำชับให้สายการบินของทุกประเทศช่วยกลั่นกรองรายละเอียดของเอกสารการตรวจอย่างเคร่งครัด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง