ยุบสภา!เผ่นไปนอก เสรีฯฟันผล‘แพทยสภา’ ‘สมศักดิ์’ลั่นมีเวลา15วัน

จับตา 15 วัน "รมว.สธ." เห็นด้วยหรือวีโตมติแพทยสภาชงเชือด 3 แพทย์ "รพ.ราชทัณฑ์-รพ.ตำรวจ" ปมชั้น 14 ป่วยทิพย์ "สมศักดิ์" ขออย่าชี้นำ ลั่นยึดระเบียบ กม.พิจารณา ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย "นายกฯ อิ๊งค์" ปัดให้สัมภาษณ์ "สรวงศ์" บอกไม่เกี่ยวพรรค พท. ท่องคำเดิม "ทักษิณ" นอนชั้น 14 ก่อนรัฐบาลอิ๊งค์เข้าบริหาร "ดนุพร" พลิ้วไม่เคยพูดป่วยขั้นวิกฤต "ผบ.ตร." ตั้งทีมรอสอบวินัยหมอ ตร. "โรม" จี้ ป.ป.ช.เรียกสอบ "แพทองธาร" รู้เห็นทุกอย่าง "ไพบูลย์" เชื่อไต่สวน 13 มิ.ย. "สทร." มีปัญหาแน่ "เสรีพิศุทธ์" บอกหมดทางเลี่ยงต้องกลับเข้าคุก "เทพไท" แนะจับตาการเคลื่อนไหว "หมอวรงค์" คาดหนีแน่

มีความเคลื่อนไหวภายหลังจากคณะกรรมการแพทยสภาพิจารณาผลการสอบสวนจริยธรรมทางวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยมีมติให้ลงโทษแพทย์ 3 ราย แยกเป็นว่ากล่าวตักเตือน 1 ราย ในกรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 ราย กรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 รศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา และนายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความอธิบายถึงขั้นตอนหลังจากแพทยสภาลงมติดังกล่าว เนื้อหาโดยสรุประบุว่า จากนี้จะมีการส่งมติของคณะกรรมการแพทยสภาให้สภานายกพิเศษ (รมว.สาธารณสุข) ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรมที่บังคับใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2525 มาตรา 25 วรรคสาม ซึ่ง รมว.สธ.อาจมีคำสั่งยับยั้งมติได้ หรือถ้าไม่มีคำสั่งใดๆ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ รมว.สธ.ได้รับมติ ให้ถือว่า รมว.สธ.ให้ความเห็นชอบมตินั้น

"ขั้นถัดไปจึงมี 2 กรณี กรณีเห็นชอบ แพทยสภาก็เอามติมาทำเป็นคำสั่งแพทยสภาได้เลย กรณีไม่เห็นชอบ จะมีขั้นถัดไป แต่ใครบอกว่า รมว.สธ.ไม่เคยไม่เห็นชอบ อันนี้ไม่จริงนะครับ เคยมีมติที่ รมว.สธ.ไม่เห็นชอบอยู่นะครับ" รศ.นพ.สมิทธิ์กล่าว

ผู้ช่วยเลขาฯ แพทยสภากล่าวว่า กรณีไม่เห็นชอบหรือมีการยังยั้งมติจาก รมว.สธ. ขั้นถัดไปคือ ทางคณะกรรมการแพทยสภาต้องพิจารณามติเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งในที่ประชุม โดยหากต้องการยืนยันว่าจะดำเนินการตามมติเดิม จะต้องมีเสียงเห็นชอบจากกรรมการเป็นจำนวน 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งคณะ หรือคือปัจจุบันต้องมี 47 เสียง ถ้าได้ 47 เสียงเห็นชอบนี้แล้ว ก็จะทำเป็นคำสั่งแพทยสภาได้ โดยคำสั่งแพทยสภาให้ลงโทษใดๆ หรือยกข้อกล่าวโทษ ถือว่าเป็นที่สุด แต่ปัจจุบันเนื่องจากมีระบบศาลปกครอง คำสั่งแพทยสภาถือว่าเป็นคำสั่งทางปกครอง ผู้เสียหายสามารถยื่นขอเพิกถอนคำสั่งได้ ก็ต้องให้ศาลปกครองพิจารณาต่อไป

"คำถามน่าสนใจ ทำไมยังเปิดเผยชื่อผู้ถูกลงโทษไม่ได้ คำตอบ เนื่องจากข้อมูลที่แพทยสภาแถลงวันนี้ ยังเป็นมติที่เพิ่งได้จากที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ยังถือว่าไม่สิ้นสุด ต้องรอทำเป็นคำสั่งหลังจากผ่านการเห็นชอบจาก รมว.สธ.ก่อน แล้วถึงจะเปิดเผยได้ โดยก่อนจะเปิดเผยก็ต้องขอมติคณะกรรมการแพทยสภาให้เปิดเผยด้วย ถึงจะถูกตามกฎหมาย" ผู้ช่วยเลขาฯ แพทยสภาระบุ

'สมศักดิ์' ลั่นยึดระเบียบ กม.

ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ผลการพิจารณาของแพทยสภายังไม่ได้ส่งเรื่องมาถึงตน จึงยังไม่ทราบในรายละเอียดของการพิจารณา ซึ่งตามกฎหมาย รมว.สาธารณสุข มีระยะเวลาพิจารณา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับมติของแพทยสภาที่ส่งมา ดังนั้นเวลานี้ต้องรอหนังสือที่ได้มีการลงมติส่งมาถึงก่อน จึงจะเดินหน้าพิจารณาได้

นายสมศักดิ์กล่าวว่า ที่หลายฝ่ายพยายามกดดันหรือชี้นำสังคมว่าตนจะยับยั้งมติแพทยสภานั้น ขอให้เข้าใจกรอบข้อกฎหมายด้วย ตนมีกรอบพิจารณา 15 วัน และยังไม่ได้เริ่มพิจารณา ดังนั้นขออย่าชี้นำสังคม เพราะยังไม่เห็นผลการสอบสวน หรือแม้แต่รายชื่อบุคคลทั้ง 3 ว่าเป็นใคร แต่หากเอกสารมาถึงจะพิจารณาตามข้อกฎหมายอย่างเต็มที่

"ผมเข้าใจดีว่าเรื่องผลสอบแพทยสภาจะถูกนำไปเชื่อมโยงทางการเมือง ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่านักการเมืองหลายคนก็พยายามเชื่อมโยงจนสังคมสับสน โดยผมเข้าใจบทบาทนักการเมืองที่ทำมาแบบดั้งเดิม แต่ก็ขอว่าอย่าให้ข้อมูลแบบซ้ายทีขวาที เพราะจะทำให้สังคมเข้าใจผิด ทั้งที่ผมยังไม่ได้เริ่มพิจารณาแม้แต่น้อย ซึ่งเราต้องยึดมั่นในกระบวนการ ระเบียบ และกฎหมาย ต้องให้เวลาศึกษาข้อมูลด้วย เพราะเท่าที่ผมอ่านข่าวแพทยสภา ก็ไม่มีการลงรายละเอียดเชิงลึก ดังนั้นต้องรอรายละเอียดที่จะส่งตามมาจากนี้ จึงขอสังคมอย่าเพิ่งคาดเดาหรือชี้นำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ  เพราะทำแบบนั้นจะถือว่าไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย" รมว.สธ.กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศราได้รับการยืนยันข้อมูลเป็นทางการจากแหล่งข่าวแพทยสภาว่า  แพทย์ 3 ราย ที่คณะกรรมการแพทยสภามีมติสั่งให้ลงโทษดังกล่าว ได้แก่ 1.แพทย์หญิงรวมทิพย์ สุภานันท์ ในฐานะแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย ขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่ รพ.ราชทัณฑ์ ซึ่งโดนลงโทษตักเตือนเนื่องจากเขียนใบส่งตัวล่วงหน้า 2.พล.ต.ท.นพ.โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ปัจจุบันในเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. 3.พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์  นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ คนปัจจุบัน ในฐานะผู้ออกใบความเห็นแพทย์ 

แหล่งข่าวจากกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นกรรมการแพทยสภาระบุว่า แพทยสภานัดประชุมครั้งต่อไปในวันพฤหัสบดีที่ 12 มิ.ย. ซึ่งถึงตอนนั้นคงมีความชัดเจนแล้วว่านายสมศักดิ์ ในฐานะสภานายกพิเศษ จะใช้สิทธิ์วีโตไม่เห็นด้วยกับมติของที่ประชุมแพทยสภาหรือไม่

แหล่งข่าวกรรมการแพทยสภาระบุว่า ในการประชุมแพทยสภาเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่รักษานายทักษิณ ที่มี ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี เป็นประธาน ได้เสนอผลสอบต่อที่ประชุม โดยเสนอให้มีการลงโทษแพทย์จำนวน 4 คน แต่หลังจากมีการอภิปรายแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย มีการนำข้อมูลทางการแพทย์และความเกี่ยวข้องมาหารือร่วมกันแล้ว เห็นว่าคนที่ 4 ที่หลุดไป ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงแบบชัดเจนในเรื่องนี้ จึงไม่ได้มีการลงโทษ ทำให้เหลือแพทย์ที่ถูกลงโทษ 3 คน

นายกฯ ของดสัมภาษณ์

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมติแพทยสภา โดยระบุสั้นว่า “ชุดขาว” พร้อมหันไปถาม นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า “ชุดขาวไม่ได้ใช่หรือไม่” ก่อนยิ้มให้สื่อมวลชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรัฐมนตรีได้แต่งชุดขาวเข้าร่วมพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง

เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ตอบคำถามสั้นๆ ถึงเรื่องดังกล่าวว่า ยังไม่ได้รายละเอียด ก่อนเดินทางกลับทันที

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ว่า มติดังกล่าวเป็นเรื่องของแพทยสภา ตนไม่อยากให้เอามาเกี่ยวกับการเมือง เกี่ยวกับพรรค ไม่ได้เกี่ยวกันเลย ประเด็นของนายทักษิณก็ว่ากันไปตามกระบวนการ

ถามว่า หลายฝ่ายจับตาเรื่องดังกล่าวจะทำให้อุณหภูมิทางการเมืองร้อนแรงขึ้น นายสรวงศ์กล่าวว่า จะร้อนแรงหรือไม่ร้อนแรงก็ขึ้นอยู่กับสื่อมวลชน ไม่มีอะไรหรอก ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ  การทำงานของรัฐบาลก็ไม่ได้สะดุด เพราะไม่เกี่ยวกัน รัฐบาลนี้โดยเฉพาะนายกฯ เข้ามารับตำแหน่งหลังจากที่นายทักษิณได้รับการปล่อยตัวแล้ว ทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย

ถามถึงกรณีศาลอาญายกคำร้องของนายทักษิณในการขออนุญาตออกนอกประเทศไปประเทศกาตาร์ นายสรวงศ์กล่าวว่า ก็ตามนั้น นายทักษิณใช้สิทธิ์ในการขออนุญาต ในเมื่อศาลไม่อนุมัติ ก็เป็นไปตามนั้น เราก็ดำเนินการต่อไป

ส่วนนายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรค พท. กล่าวเช่นกันว่า เรื่องมติแพทยสภาพรรคไม่มีการพูดคุยกันเลย เพราะอยู่ในช่วงของปิดสมัยประชุม ส่วนที่ในโซเชียลมีการออกมาแซะตนเองกรณีที่เคยแถลงว่านายทักษิณมีอาการป่วยวิกฤตจริงนั้น ยืนยันว่าตนไม่เคยพูดว่าวิกฤตเลย ตนพูดเท่าที่ได้รับทราบมาเท่านั้นว่าท่านป่วยและได้รับการผ่าตัด

"ความจริงไม่ใช่หน้าที่ที่ผมต้องไปแถลงด้วยซ้ำ เพราะท่านทักษิณไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่เนื่องจากมีคนโทร.เข้ามาสอบถามข้อมูลจากที่พรรคเยอะมาก ในฐานะโฆษกพรรคซึ่งได้รับทราบข้อมูลจากทางพรรคว่าท่านป่วยและต้องผ่าตัดเท่านั้น ซึ่งโดยส่วนตัวไม่ได้เจอท่านทักษิณด้วยซ้ำ เพราะท่านอยู่โรงพยาบาลตำรวจภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์ และผมไม่ได้เป็นหมอ ซึ่งคำว่าวิกฤตของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ถ้ายกตัวอย่างเป็นญาติของผมมีอาการป่วยถึงขั้นผ่าตัด ผมก็ต้องบอกว่าถึงขั้นวิกฤตแล้ว แต่ในมุมของหมออาจจะมองว่าไม่วิกฤต ไม่หนักอะไร ซึ่งอยู่ที่มุมมองมากกว่า" โฆษกพรรค พท.กล่าว

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงมติแพทยสภาว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวจากทางสื่อเท่านั้น แต่ยังไม่ได้รับเอกสารอย่างเป็นทางการ แต่ได้สั่งการให้กองวินัยเตรียมพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีการแจ้งเรื่องมาอย่างเป็นทางการ โดยตามขั้นตอนปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีการแจ้งเรื่องเข้ามายังฝ่ายวินัย จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการแจ้งเข้ามาอย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้ให้ทางกองวินัยรับทราบและเตรียมพร้อมในการเสนอความเห็นแล้ว

"หากเป็นแพทย์ตำรวจที่ถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมนั้น ในส่วนของวิชาชีพแพทย์จะต้องหยุดปฏิบัติงานด้านการรักษาพยาบาลทันที และอาจมีการระงับค่าตอบแทนพิเศษสำหรับตำแหน่งในวิชาชีพนั้นๆ ส่วนในด้านวินัยตำรวจ จะต้องมีการพิจารณาต่อไปว่ามีความผิดทางวินัยในข้อใดบ้าง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจและกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการบริหารวินัย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าว

ถามว่าจะมีเรื่องคดีอาญาร่วมด้วยหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า คดีอาญาจะต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษเข้ามาจึงจะสามารถดำเนินการได้ แต่ในส่วนของเรื่องวินัยนั้นจะต้องพิจารณาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ฝ่ายค้านชี้ ป.ป.ช.เรียกสอบอิ๊งค์

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงมติแพทยสภาตอนหนึ่งระบุว่า ตนเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าบิดาของท่านนายกฯ ป่วยทิพย์ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ซับซ้อน เป็นเรื่องที่เห็นกันอย่างชัดเจนว่าภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธาร ชินวัตร การช่วยเหลือพ่อทำลายกระบวนการยุติธรรมทุกรูปแบบ คือวาระสำคัญที่สุดของรัฐบาลชุดนี้

"เมื่อแพทยสภามีความคืบหน้าถึงเพียงนี้ หน่วยงานที่มีหน้าที่ต้องปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ควรจะเห็นต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ดำเนินการให้เกิดความรวดเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้รู้เห็นทุกอย่างต้องถูกเรียกมาสอบได้แล้ว ถ้าถึงขนาดที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าคุณทักษิณนอนไถมือถืออยู่ชั้น 14 ได้ โดยไม่มีคนต้องรับผิดอะไร ต่อไปนี้ใครมีเส้นสาย มีอำนาจ มีเงิน ก็จะใช้ชั้น 14 โมเดล เพื่อไม่ต้องติดคุกกันแบบนี้” นายรังสิมันต์กล่าว

น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรค ปชน. โดยได้ย้อนคำกล่าวของ น.ส.แพทองธาร ที่ให้ยอมรับผลการตรวจสอบของแพทยสภาต่ออาการป่วยของนายทักษิณ พร้อมยกคำพูดนายกฯ ระบุ "เมื่อมีกระบวนการตรวจสอบในหน่วยงานต่างๆ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ดิฉันไม่เคยใช้อำนาจไปแทรกแซง”

"หวังว่าขั้นตอนหลังจากนี้จะตรงไปตรงมา ไม่มีการแทรกแซงหน่วยงานอย่างที่เคยยืนยันไว้ ไม่มีการออกคำสั่งให้ รมว.สธ.ไม่เห็นด้วยกับมติดังกล่าว จากนี้สังคมไทยจะจับตาจุดวัดใจว่า รมว.สธ.จะเอาอย่างไร" รองโฆษกพรรค ปชน.ระบุ

ส่วนนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า คําแถลงที่สําคัญของแพทยสภาคือนายทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤตจริง  ดังนั้นถือว่านายทักษิณยังไม่ได้รับโทษตามคําพิพากษาของศาลฎีกา เพราะฉะนั้นผู้ที่ถูกเรียกไปชี้แจงตามคำสั่งของศาล เมื่อไปยืนยันกับศาลจะยืนยันว่าป่วยวิกฤตก็ทำไม่ได้ เพราะจะมีความผิดในการให้การเท็จ เนื่องจากแพทยสภาซึ่งเป็นหน่วยงานโดยตรงได้วินิจฉัยแล้ว แม้ รมว.สธ.ยังไม่ลงนาม แต่ก็ถือว่ามีผลไปแล้ว

"เรื่องนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่สุดที่จะทำให้การไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย. มีข้อยุติที่ถูกต้อง ส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อนายทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤตจริง ซึ่งขณะนี้ชัดเจนแล้ว จึงถือว่ากรมราชทัณฑ์ยังไม่ได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล คิดว่านายทักษิณมีปัญหาแน่" นายไพบูลย์กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า อย่างที่ตนเคยพูดว่าเคยไปพบนายทักษิณไม่ได้ใส่ชุดคนป่วยที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 แค่ใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ นั่งพูดคุยกันตนเป็นชั่วโมง โดยไม่มีอุปกรณ์ช่วยพยุงร่างกายใดๆ ทั้งสิ้น

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ากรณีนี้เป็นการผิดวินัยร้ายแรง ต้องไล่ออก ไม่ใช่แค่การตักเตือนและผลใบอนุญาตเท่านั้น เมื่อมีความเห็นออกมาแล้ว ศาลได้สั่งให้อัยการ ป.ป.ช. รวมถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ และนายทักษิณ ชี้แจงข้อเท็จจริงภายใน 30 พฤษภาคม โดยแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจจะต้องรายงานความผิดของแพทย์เข้าไปด้วย

"มองว่าศาลอาจจะมีการตั้งประเด็นว่าการส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวที่ชั้น 14 มีการขออนุญาตศาลหรือไม่ หากไม่มีการขออนุญาต แสดงว่าขัดต่อมาตรา 246 กรณีการทุเลาบังคับคดีและชะลอการลงโทษไว้ก่อน ก็ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล หากยังไม่ได้ติดคุก ก็สามารถออกหมายแดงขังได้เลย อย่างกรณีนายทักษิณ ต้องนับวันว่าขังไว้แล้ว 1 วัน ก็นับจำนวนที่เหลือและฝากขังได้เลย ตอนนี้นายทักษิณถือว่าถูกนับ 9 แล้ว วันที่ 13 มิถุนายน ถือว่านับ 10 ไม่มีทางเลี่ยงแล้ว ไม่มีใครช่วยได้แล้ว ไม่ว่าจะ 10 ทักษิณหรือ 100 ทักษิณก็ช่วยไม่ได้แล้ว มีทางเดียวคือการให้ความจริงต่อศาลและ ป.ป.ช. เพื่อให้กระบวนการดำเนินคดีเรื่องนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบริสุทธิ์ยุติธรรม และการสารภาพจะช่วยลดโทษได้กึ่งหนึ่ง" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว

ถามว่ากรณีนายทักษิณจะกระทบรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เชื่อว่าหากทักษิณร่วง อุ๊งอิ๊งก็ร่วง แค่มีคนยื่นจริยธรรมกรณีที่เคยบอกว่าพ่อป่วยและผ่าตัดด้วย เรื่องนี้ผิดจริยธรรม เพราะฉะนั้นก็อยู่ไม่ได้               

"สิ่งที่ดีที่สุดควรยุบสภาลาออกไปก่อนศาลจะวินิจฉัย นายทักษิณอาจยังไปไหนไม่ได้ เพราะต้องขออนุญาตศาล แต่ น.ส.แพทองธารจะเผ่นก็เผ่น ไปตั้งหลักก่อน ไม่เช่นนั้นต้องไปอยู่เรือนจำเหมือนพ่อ วันนี้จะประกาศยุบสภาก็ได้ ต้องเก็บข้าวเก็บของหนีไปต่างประเทศเลย แต่คงเข้าสหรัฐไม่ได้ เพราะไม่ให้เข้าประเทศ ไปดูไบได้อยู่ ที่อยู่ก็มีแล้ว หรือถ้าไม่ยุบสภาวันนี้ก็ไม่นานนี้"

แนะจับตาทักษิณเชื่อมีหนี

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ที่เด่นชัดที่สุดก็คือออกใบรับรองแพทย์เป็นเท็จ หากหลักฐานบอกว่าไม่ได้ป่วยวิกฤต แต่ไปออกใบรับรองแพทย์ว่าป่วยวิกฤต อันนี้มีปัญหาแน่ ถือว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง ส่วนจะลงโทษมากน้อยเพียงใด นานเท่าใดก็คงขึ้นอยู่กับมติแพทยสภาที่จะพบว่าในการแถลงไม่ได้บอกว่าจะพักใบอนุญาตนานแค่ไหน เพราะต้องไปดูว่าทางสภานายกพิเศษจะเห็นด้วยอย่างไรหรือไม่

"ผมเชื่อว่าเมื่อสภานายกพิเศษได้รับมติภายใน 15 วัน ที่จะต้องมีคำวินิจฉัยมาว่าเห็นชอบหรือคัดค้านจากได้รับมติแพทยสภา ท่านคงไม่ได้คัดค้านในเรื่องความผิด แต่อาจจะคัดค้านในลักษณะที่ว่า พักใบอนุญาตนานไปหรือไม่ จะพักชั่วคราวแล้วนานแค่ไหน จะสังเกตคำแถลงของแพทยสภาว่า เนื่องจากเป็นข้อมูลข่าวสารที่เรื่องยังไม่จบกระบวนความ จึงไม่ได้มีการระบุว่าเป็นแพทย์ท่านใด อยู่หน่วยงานไหน เราก็ได้แต่เดา” นพ.ตุลย์กล่าว

อาจารย์แพทย์จุฬาฯ รายนี้ระบุว่า กระบวนการทางแพทยสภาน่าจะจบสิ้นแล้ว แต่ถามว่าทำไมเหลือแค่นี้ ก็คงดูที่หลักฐานทางการแพทย์ ใบรับรองแพทย์ แต่หากเป็นอำนาจทางการบริหาร ที่เป็นการทุจริต ไม่ถูกต้อง ไม่ตรงไปตรงมาหรือมีการละเว้น คราวนี้ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในเรื่องประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 157

"แพทย์ที่ถูกลงโทษที่เป็นแพทย์ด้านออร์โธปิดิกส์ก็คือแพทย์ด้านกระดูกและข้อ ซึ่งการป่วยด้านกระดูกและข้อที่จะถึงขั้นวิกฤต ผมนึกออกอยู่อันเดียวคือกรณีกระดูก คือเสื่อมและกดจนหยุดหายใจไปเลย กดตรงไขสันหลังที่ระดับคอ แบบนี้คือวิกฤตจริง ซึ่งเขา (ทักษิณ) ก็ใส่ปลอกคอมาตอนออกจาก รพ.ตำรวจมา แต่ใส่แล้วเดินคล่องแบบช่วงนั้น มันไม่วิกฤต" อาจารย์แพทย์จุฬาฯ รายนี้ระบุ 

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กรายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยเชื่อว่า กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ถือว่าจบแล้ว เมื่อแพทยสภามีมติด้วยเสียงมากๆ แสดงถึงมติเอกฉันท์ว่าไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดถึงอาการทักษิณได้ป่วยขั้นวิกฤต ดังนั้นผลตรวจสอบของแพทยสภาจึงมีมติลงโทษพักใบอนุญาตแพทย์ที่เกี่ยวข้อง 2 คน และตักเตือน 1 คน สิ่งสำคัญการพิจารณาของแพทยสภายังเป็นคนละความหมายตรงกันข้ามกับนายกฯ แพทองธารยืนยันทักษิณป่วยจริงและผ่าตัดจริงด้วย

"สิ่งนี้แสดงว่าไม่มีใครปกปิดข้อเท็จจริงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ เชื่อว่าผลการพิจารณาของแพทยสภาส่งผลต่อวันที่ 13 มิ.ย. ศาลฎีกานักการเมืองนัดพร้อมหรือไต่สวนการบังคับตามหมายจำคุก" นายจตุพรระบุ

นายจตุพรกล่าวว่า ทักษิณต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งว่าจะเอาอย่างไร เพราะที่ผ่านมาการหลบหนีคดีไม่มารับโทษถึง 17 ปี และต้องการกลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ จึงทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมาย ซึ่งความจริงแล้วโทษจำคุก 1 ปี ติดเพียง 6 เดือนหลังจากรับพระราชทานอภัยลดโทษนั้น น้อยนิดมาก ถ้าเทียบโทษติดคุกของคนอื่นที่ร่วมกับทักษิณมา ซึ่งโทษของทักษิณเล็กน้อยมาก ดังนั้นเมื่อทักษิณไม่ติดคุกสักวันเดียว จึงทำให้เรื่องราวไปจบและกำลังใกล้มาถึงจะจบคดี ม.112 อีกคดี

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี  โพตส์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งระบุว่า ตัวการใหญ่ที่เป็นนักโทษ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น่าจะใช้ประโยชน์จากผลสอบของแพทยสภาได้มาก เพราะเขายังไม่ติดคุก มีขบวนการช่วยเหลือเขา สุดท้ายผมเชื่อว่าหนี

เช่นเดียวกับ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ต่อจากนี้สังคมต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ผลของแพทยสภาและจากการที่ศาลอาญาไม่อนุญาตให้คุณทักษิณเดินทางออกนอกประเทศ คุณทักษิณจะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งระบุถึง รมว.สธ. ว่า จะตัดสินใจอย่างไร อย่าดูแคลนพลังประชาชน ทั้งที่อยู่บนถนนและอยู่บนพื้นที่ social media นะเจ้าคะ จะยึดความถูกต้องหรือจะยึดการรับใช้คะ

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความในรูปแบบถาม-ตอบ เรื่อง “สังเขปปัญหากฎหมายในคดีชั้น 14” ตอนหนึ่งเรื่องอำนาจศาลที่จะออกหมายขังใหม่ว่า ถ้าศาลเห็นว่าเป็นป่วยทิพย์ ที่ส่งผู้ต้องขังไปผ่าไหล่แล้วนอนดู NETFLIX 6 เดือน อย่างนี้ก็นับเป็นเวลาคุมขังตาม ม.55 แห่งกฎหมายราชทัณฑ์ไม่ได้ กรณีต้องถือว่าทักษิณยังติดคุกตามหมายศาลไม่ครบ ศาลจึงสั่งออกหมายจำคุกใหม่อีก 1 ฉบับในที่สุด   

"เป็นอำนาจในตัวของศาลอยู่แล้วว่า หมายจำคุกของศาลต้องไม่ใช่กระดาษชำระ ถ้าคดีชั้น 14 เดินมาทางนี้ กรณีก็จะเป็นแบบอย่างต่อไปว่า ราชทัณฑ์จะทำงานมั่วๆ ไม่ได้ ถ้าทำนอกกฎหมายและศาลเห็นสมควร โดยมีคนร้องหรือศาลเห็นเองก็ตาม ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและสั่งบังคับคดีเสียใหม่ได้ เรื่องนี้ฝ่ายบริหารเสียอีกที่ควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ให้ราชทัณฑ์มีหน้าที่รายงานศาล ทั้งการรักษาตัวนอกเรือนจำและการพักโทษ หรือการควบคุมนอกเรือนจำ ให้ศาลทราบด้วยทุกครั้งไป ราชการราชทัณฑ์จะน่าไว้ใจกว่านี้มาก" นายแก้วสรรระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หยุดยิงเขมรกระอัก ลงนาม16ข้อยึดตรงไหน‘ทหารไทย’ปักหลักตรงนั้น!

ไทย-เขมรเห็นพ้องหยุดยิงทันทีเที่ยงวัน 27 ธ.ค. ยึดปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ เปิดแถลงการณ์ร่วมยาวเหยียด 16 ข้อ เขมรกระอักเลือด พื้นที่ไทยยึดได้ยึดเลย การวางกำลังทหารในปัจจุบันโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม

‘เท้ง’กลัวไม่ได้ตั้งรัฐบาล

กกต.เผยรับสมัคร สส.ทั้ง 400 เขตเรียบร้อยดี เตรียมรับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อวันอาทิตย์นี้ เตือนประชาชนโพสต์ข้อความผิด กม.เลือกตั้ง เจอคุก 10 ปี

ตามล่าอาชญากร ‘ฮุนเซน-ฮุนมาเนต’

ไม่ปล่อยให้ลอยนวล เดินหน้าเอาผิด 2 พ่อลูกตระกูลฮุน อธิบดีอัยการฯ ลงพื้นที่ประชุม ผบช.ภ.3 สอบเสธ.ทหารเป็นพยานมัด "ฮุน เซน-ฮุน มาเนต"