ปชน.เลือดไหล‘กฤษฎิ์’ซบกธ. โวย‘ทีมชลบุรี’ไม่เห็นคุณค่า

"พรรคส้ม" เลือดไหล "กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์" สส.ชลบุรี ประกาศยุติบทบาทกับ ปชน. นัดแถลง 13 พ.ค.นี้ที่รัฐสภา แจงปมแตกหักซัดทีมจังหวัดไม่ให้ความสำคัญไม่เห็นคุณค่า จ่อร่วมงาน "พรรคกล้าธรรม" รับคุยกับ "ธรรมนัส" แล้ว หึ่ง! อาจย้ายออกอีก 2-3 ราย "สส.สหัสวัต" หัวเราะลั่นไม่มีใครติดต่อมาซื้อหลังกระแสช็อป "งูเห่า ปชน." ระบาดยันภาคตะวันออก สีส้มเป็นปึกแผ่น เชื่อพื้นที่ได้ สส.เยอะฝ่ายตรงข้ามเลยพยายามตี

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) เปิดเผยว่า ได้เตรียมแถลงข่าวที่รัฐสภาในวันที่ 13 พฤษภาคม เวลา  10.00 น. เพื่อยุติบทบาทการทำงานกับพรรคประชาชน หลังได้ส่งหนังสือแจ้งให้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและกรรมการบริหารพรรคแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

โดยนางสาวกฤษฎิ์เปิดเผยว่า แกนนำพรรคประชาชน ก็ยังคงเจรจาให้ตนทำงานอยู่กับพรรค ส่วนเหตุผลจุดแตกหักที่นำมาซึ่งการตัดสินใจยุติบทบาทกับพรรคประชาชนนั้น เนื่องด้วยการทำงานกับทีมจังหวัดในพื้นที่ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญ และไม่เห็นคุณค่าในการทำงานของตน โดยเฉพาะการทำงานที่ไม่สอดประสานกัน

อย่างไรก็ตาม จะมีการเปิดเผยหนังสือที่ส่งถึงหัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งมีความยาว 2 หน้ากระดาษ ถึงเหตุผล และปัญหาในการทำหน้าที่ สส.เขต 6 จังหวัดชลบุรี ในพรรคประชาชนตลอดเวลาที่ผ่านมาด้วย ทั้งนี้ นางสาวกฤษฎิ์ยังยอมรับว่า จะไปร่วมงานทางการเมืองกับพรรคกล้าธรรม ซึ่งได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมแล้ว

จากกรณีนายยอดชาย พึ่งพร สส.พรรคประชาชน  เขต 9 (พัทยา-หนองปรือ) จ.ชลบุรี ได้กล่าวในระหว่างการเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยนายนิยม เที่ยงธรรม ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ถึงกรณีมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งยื่นข้อเสนอให้เงิน 55 ล้านบาท พร้อมเงินเดือนเพิ่มอีกเดือนละ 250,000 บาท รถตู้ยี่ห้อหรูอีก 1 คัน เพื่อให้ย้ายไปอยู่ในสังกัดพรรคตัวเองนั้น จากนั้นได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการสร้างความสำคัญให้ตัวเองเกินความเป็นจริง และอาจส่งผลให้ สส.พรรคประชาชนในพื้นที่ จ.ชลบุรีเกิดความเสียหาย พร้อมกับเรียกร้องให้นายยอดชายออกมาชี้แจงนั้น

รายงานข่าวจากพรรคประชาชนแจ้งว่า ขณะนี้เกิดความระส่ำระสายขึ้นกับ สส.โซนภาคตะวันออกของพรรคประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ชลบุรี ที่พรรคมี สส. 7 คน  จากจำนวน สส.ชลบุรีทั้งหมด 10 คน โดยเริ่มมีพรรคการเมืองซีกรัฐบาลหลายพรรคติดต่อทาบทาม สส.ชลบุรี พรรคประชาชนให้ไปร่วมงานด้วย เพื่อเติมเสียงต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี เนื่องจากเข้าใกล้ช่วงเวลาที่มีกระแสข่าวปรับ ครม.ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ 

โดยในส่วนของ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน ค่อนข้างชัดเจนว่าจะไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาส่วนตัว  โดยทัศนคติเข้ากับพรรคและ สส.ของพรรคไม่ได้ จุดแตกหักคือ น.ส.กฤษฎิ์ได้ยื่นขอหารือบางประเด็นในสภา ซึ่งพรรคมองว่าไม่เหมาะสม และมีการเรียกเข้าห้องเย็นไปพูดคุยทำความเข้าใจ จึงทำให้ น.ส.กฤษฎิ์ไม่พอใจ ล่าสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ พรรคจึงขอให้มาร่วมรณรงค์หาเสียงด้วย แต่เจ้าตัวมีปัญหาขัดแย้งกับทีมงานพรรค จ.ชลบุรี ซึ่งแกนนำพรรคได้ขอให้ สส.โทรศัพท์พูดคุยปรับความเข้าใจกัน

รายงานข่าวระบุว่า แต่สุดท้าย น.ส.กฤษฎิ์ได้ทำหนังสือถึงพรรคประชาชนขอยุติบทบาททางการเมืองกับพรรคประชาชน และไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่แจ้งติดต่อเกี่ยวกับการประชุมใดๆ ของพรรคอีก เพราะจะไม่เข้าร่วมประชุมหรือร่วมกิจกรรมกับพรรคอีกต่อไปแล้ว ซึ่งนายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน ได้ขอร้องว่าอย่าเพิ่งเปิดตัวร่วมกับพรรคการเมืองอื่น เพราะจะกระทบกับการเลือกตั้งท้องถิ่นของพรรคประชาชน

อย่างไรก็ตาม นอกจากพรรคกล้าธรรมแล้วยังมีตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทยติดต่อเจรจาให้ น.ส.กฤษฎิ์ไปร่วมงานกับพรรค และในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติที่มีรมช.รายหนึ่งรับผิดชอบพื้นที่ จ.ชลบุรี ก็มีการติดต่อดึงตัวไปด้วย พร้อมให้เหตุผลว่าหากจะไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น ก็ควรมาอยู่กับคนเมืองชลด้วยกันจะดีกว่า จะได้ไม่ถูกมองเป็นงูเห่าในสายตาคนชลบุรี ซึ่งเรื่องนี้ น.ส.กฤษฎิ์ให้ตัวแทนของ รมช.คนดังกล่าวไปเจรจากับพรรคกล้าธรรมเอง เพราะเบื้องต้นได้ตกลงร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมไปแล้ว นอกจากนี้ยังมี สส.ชลบุรี พรรคประชาชนอีก 2-3 รายที่อาจจะไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น ขณะที่ในส่วนของนายจรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี เขต 8 พรรคประชาชน ซึ่งเป็น สส.มาแล้ว 2 สมัยตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ จะไม่ลงเลือกตั้งในสมัยหน้าเพราะอิ่มตัวทางการเมือง ส่วนนายยอดชายที่เป็นคนเปิดประเด็นการดูด สส.ยังยืนยันว่าจะอยู่กับพรรคต่อไป

 รายงานข่าวระบุอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาชนในเวลานี้เหมือนเป็นแผนรุมกินโต๊ะทำลายพรรค เพื่อเตรียมความพร้อมของซีกรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยในโซนภาคตะวันออกพรรคประชาชนมี สส. 17 คน จากจำนวน 29 เก้าอี้ทั่วทั้งภาค เป็น สส.ฉะเชิงเทรา 1 คน ชลบุรี 7 คน ชนะยกจังหวัดคือระยอง 5 คน จันทบุรี 3 คน  และตราด 1 คน ซึ่งในพื้นที่ จ.ชลบุรี พรรคเพื่อไทยยกให้พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคกล้าธรรมจับมือแบ่งพื้นที่กัน พร้อมขอความร่วมมือจากบ้านใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ ในการเจาะพื้นที่ จ.ระยอง ขณะที่พรรคเพื่อไทยพุ่งเป้าที่ จ.สมุทรปราการ ที่พรรคประชาชนชนะยกจังหวัดเช่นกัน

ด้านนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.กฤษฎิ์จะย้ายไปสังกัดพรรคกล้าธรรม เนื่องจากอุดมการณ์ไม่ตรงกับพรรคประชาชน และการซื้อ สส.พรรคประชาชนภาคตะวันออก โดยนายสหัสวัต หัวเราะก่อนจะกล่าวว่า “ผมไม่มีมาซื้อเลยครับ 0 เลยครับ  ซึ่งผมยังมองว่าการทำงานของ สส.พรรคประชาชนในภาคตะวันออกยังคงราบรื่น ไม่ได้มีความระส่ำอย่างที่เป็นข่าว  ในช่วงเลือกตั้งท้องถิ่นก็ยังถามไถ่กัน พูดคุยกันปกติ ผมอยู่ชลบุรีก็ได้คุยกับ สส.ระยอง จันทบุรี มีการมาช่วยกันหาเสียง ณ วันนี้ก็ยังเห็นว่าภาคตะวันออกก็ยังเป็นปึกแผ่นสีส้มอย่างมั่นคงมากๆ"

นายสหัสวัตระบุว่า ตนไม่ทราบว่าคนมาซื้องูคิดอะไรอยู่ เพราะในฐานะคนของพรรคส้ม เราก็ยังดูเป็นปึกแผ่นกันดี อาจจะมีติดขัดไปบ้าง ตนก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรถึงมาซื้อ

“ถ้าไปดูสัดส่วนการได้ สส.ของพรรคประชาชน หรือก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว จะเห็นได้ว่า สส.เขตส่วนใหญ่เป็นของพรรคประชาชน นี่อาจจะเป็นความพยายามทางการเมืองที่พยายามตีพื้นที่ที่เรามีสัดส่วน สส.เยอะก็ได้”

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.กฤษฎิ์มีวี่แววว่าจะลาออกมาก่อนหรือไม่ นายสหัสวัตกล่าวว่า จริงๆ ไม่ทราบมาก่อนเลย ตนคิดว่าถ้าจะมีใครไปคงไม่ใช่กระบวนการภายในแน่นอน เป็นเหตุผลส่วนตัว เราไม่ทราบว่าแต่ละคนมีความคิดส่วนตัว ณ ขณะนั้นเป็นอย่างไร.