อิ๊งค์เบรกแจกหมื่นเฟส3 ลุ้นUSหั่นภาษีเหลือ10%

“พิชัย” แจงยิบ 5 ข้อเสนอเจรจาสหรัฐ หวังลดภาษีเหลือ 10% เชื่อสัญญาณดีจาก รมว.คลังสหรัฐที่มองข้อเสนอไทยเป็นบวก  ส่วนนายกฯ อิ๊งค์ยอมรับทบทวนแจกเงินหมื่น "เท้ง"  แหกโค้ง! เห็นด้วย "ทักษิณ" เจรจานอกรอบกับ "ทรัมป์"

 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเจรจาเรื่องกำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกาว่า  ประเทศไทยได้ยื่นข้อเสนอให้สหรัฐ ผ่านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ถึงนายเจมสัน กรีเออร์  ประธานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 พ.ค. โดยเนื้อหาได้เสนอกรอบการหารือที่ผ่านการพิจารณาจากคณะทำงานนโยบายการค้า และผ่านความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งประกอบไปด้วยการเจรจา 5 เสาหลัก ได้แก่

1.ความร่วมมือเพื่อนำไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ไทย-สหรัฐ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแปรรูปและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล (Data Center and AI Industry) และการพิจารณาดำเนินการลดอุปสรรคทางการค้าทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษี

2.เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าพลังงาน สินค้าเกษตร และเครื่องบิน ส่วนประกอบและอุปกรณ์บริการ โดยปลัดกระทรวงพลังงานพร้อมด้วยผู้บริหารบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด ได้เดินทางไปรัฐอะแลสกา เพื่อหารือกับผู้ว่าการรัฐอะแลสกา รวมถึงบริษัทด้านพลังงานของสหรัฐ เพื่อหาโอกาสและเพิ่มความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทย-สหรัฐ

3.การเปิดตลาดสาขาเกษตรของไทย อาทิ ผลไม้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น

4.การบังคับใช้กฎหมายป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า ซึ่งไทยได้เริ่มการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายแล้วอย่างจริงจัง โดยเราได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งเจ้าที่กรมขนส่งสหรัฐอเมริกามีความพึงพอใจในระดับหนึ่ง

5.ส่งเสริมการลงทุนไทยในสหรัฐมากขึ้น โดยขณะนี้ นางนลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย,  นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย รวมถึงภาคเอกชนชั้นนำของไทย อยู่ระหว่างเดินทางเยือนสหรัฐ เพื่อเข้าร่วมงาน Select USA Investment Summit 2025 เพื่อไปดูลู่ทางการลงทุนในสหรัฐด้วย

 นายพิชัยกล่าวว่า ล่าสุด นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ได้แสดงท่าทีเป็นบวกต่อข้อเสนอของไทย โดยได้พูดถึงประเทศไทยในการขึ้นเวที Saudi Arabia Investment Forum เมื่อวันที่ 13 พ.ค. โดยจากการที่นายสกอตต์ เบสเซนต์ มีท่าทีเป็นบวก และกล่าวว่าเป็นข้อเสนอที่ดี แบบเดียวกับที่พูดถึงข้อเสนอของประเทศอินโดนีเซียและไต้หวัน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นสัญญาณบวกจากระดับนโยบายของสหรัฐ  และคาดได้ว่าได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในระดับ working level ให้พิจารณาในรายละเอียดต่อไป

 ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการพูดคุยกับสหรัฐภายในเดือนนี้หรือไม่ รมว.การคลังชี้แจงว่า มีหลายประเทศ ซึ่งจากที่เห็นวิธีการ เขาจะพยายามตกลงกับประเทศใหญ่ๆ ก่อน เพราะจะมีเงื่อนไขเยอะ มีสินค้าหลายประเภท เราพอจะเดาได้ว่าเมื่อมีหลักใหญ่ๆ ของหลายประเทศ เขาก็จะใช้เป็นกรอบ อาจใช้เป็นแนวทางในเรื่องแบบเดียวกัน ในส่วนของเราสิ่งที่เป็นประเด็นอยู่มีมาก เพราะในส่วนที่เราโฟกัสเข้าไปเรื่องของการนำเข้าสินค้าเกษตรที่เขาต้องการส่งออก ก็ตรงกัน ส่วนที่จะคุยเมื่อไหร่นั้น ตนเชื่อว่าในระดับเจ้าหน้าที่ทราบแล้ว ถ้าคุยแล้วนอกเหนือจากนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เชื่อว่าเขาคงรอเวลา เพราะเจ้าหน้าที่ที่ทำงานจริงๆ ในส่วนของ USTR มีเจ้าหน้าที่อยู่ประมาณกว่า 200 คน ต้องแบ่งงานกันทำ จึงขึ้นอยู่กับว่าจะคุยกันเมื่อไหร่

หวังสหรัฐขึ้นภาษีแค่ 10%

 เมื่อถามถึงการพูดคุยในระดับรัฐมนตรี นายพิชัยกล่าวว่า จากที่ดูตอนนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐเดินทางไปต่างประเทศเยอะ ถ้ามีจังหวะดีๆ ท่านก็คงจัดคิวดูว่าใครจะอยู่ในกลุ่มที่จะเข้าไป ซึ่งหวังว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววัน เพราะในระยะเวลา 90 วันที่ให้ไว้ขณะนี้ผ่านมาเกือบ 2 เดือนแล้ว

 ถามว่า คาดการณ์ตัวเลขภาษีจะอยู่ที่เท่าไหร่  รมว.การคลังตอบว่า วันนี้ทุกคนได้แต่คาดเดาว่าสหรัฐต้องการตัวเลขภาษีเพิ่มขึ้น และมองเห็นตัวเลข 10% น่าจะใช้ขั้นต่ำเท่านี้ ซึ่งจะทำให้สินค้าบางประเภทมีอัตราที่เสี่ยงไป ในส่วนของเราสิ่งที่เกี่ยวข้องจริงๆ คือสินค้าเกี่ยวกับยานยนต์ ตนเชื่อว่าคงได้ใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ เพราะตนก็ไม่เห็นประเด็นที่เราแตกต่างกับคนอื่น หากการเจรจาจบ

เมื่อถามย้ำว่า คาดหวังที่ 10% ใช่หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า คิดว่าเกือบทุกชนิด สหรัฐคงคิดว่าน่าจะยืนอยู่ในระดับ 10%

นายพิชัยยังกล่าวถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ว่า ขอทบทวนก่อน ตอนนี้อยู่ในปี 68 หากปรับได้ก็ปรับ ในปี 69 หากเขาปรับในสภาได้ก็ว่ากันไป และเชื่อว่าคนในสภา หากเห็นว่าอะไรควรปรับก็จะปรับ แต่สุดท้ายแล้วประเทศไทยต้องการการวางแผนที่ดีในระยะกลางและระยะยาว ส่วนจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ จะกู้หรือไม่ หรือจะจ่ายหรือไม่ ก็ต้องทบทวนอีกครั้งหนึ่ง

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี    ยอมรับว่าจะมีการทบทวนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ  "ใช่ค่ะ กำลังจะมีการทบทวนหลายเรื่อง และบางเรื่องปรับไปแล้ว"

เมื่อถามถึงความชัดเจนเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต นายกฯ กล่าวว่า อันนี้ก็ต้องเอามาทบทวนด้วย

ส่วนนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง กล่าวว่า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต คงตอบแทนที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ โดยในหลักการจะต้องมีการเอาข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมากางเพื่อหารือกัน  เริ่มจากการประเมินสถานการณ์ โดยเฉพาะนโยบายทางการค้าว่าสรุปแล้วจะเป็นอย่างไร จะกระทบกับประเทศไทยแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือสถานการณ์วันนี้กับวันข้างหน้าไม่เหมือนกัน  ดังนั้นทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับความแม่นยำในการประเมินสถานการณ์ที่ต้องทำให้ใกล้เคียงมากที่สุด และดีที่สุด เพื่อที่จะเลือกเครื่องมือทางการคลังและการเงินให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากที่สุด

รัฐบาลใช้ความกลมกล่อม

 “โครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น อยากให้รอข้อสรุปที่ชัดเจนจากที่ประชุมจะดีกว่า เพราะจะต้องมีการพิจารณาถึงภาพรวมในเชิงงบประมาณและตัวโครงการด้วย โดยต้องดูในภาพใหญ่เป็นหลัก ไม่อยากให้เจาะเป็นรายโครงการ” นายเผ่าภูมิกล่าว

ส่วนกรณีความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน การใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการกระตุ้นการบริโภคอาจจะไม่เหมาะสม เนื่องจากกระสุนทางการคลังมีจำกัดนั้น รมช.การคลังมองว่า รัฐบาลไม่อยากบอกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนเป็นอย่างเดียวที่สำคัญกับประเทศ แต่การบริหารจัดการนโยบายด้านเศรษฐกิจจะต้องทำให้กลมกล่อม ดังนั้นคงไม่บอกว่างบประมาณทั้งหมดจะต้องถูกทุ่มไปกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น หากเป็นอย่างนี้ถือว่าไม่กลมกล่อม

นอกจากนี้ ในส่วนการเจรจากับสหรัฐนั้น จะต้องทำในช่วงจังหวะที่เหมาะสมและเข้ากับสถานการณ์มากที่สุด โดยระหว่างนี้รัฐบาลได้ทำงานอย่างเต็มที่ ยืนยันว่ารัฐบาลมียุทธศาสตร์ในการเจรจา ผ่านกระบวนการพิจารณาเรื่องเงื่อนไขการเจรจา สิ่งที่เรามีอยู่ในมือ สิ่งที่เราควรจะให้ สิ่งที่เราควรรักษาไว้ และสิ่งที่เราควรจะเอาไปหารือ 

 “จะเห็นว่ารัฐบาลไทยไม่ได้เป็นประเทศแรกๆ  ที่กระโดดเข้าไปในเกมนี้ แต่รัฐบาลใช้ความกลมกล่อม ใช้ความรอบคอบ ใช้ความระมัดระวัง และใช้การบริหารสถานการณ์อย่างมียุทธศาสตร์อย่างดีที่สุด” นายเผ่าภูมิกล่าว

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ  และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ รมว.การคลังสหรัฐระบุไทยมีข้อเสนอในการเจรจากับสหรัฐที่ดีว่า ดูเป็นสัญญาณที่ดี และเป็นข้อเสนอที่เราที่เห็นในทิศทางที่ยิ่งใหญ่ด้วย สิ่งที่อยากฝากไปถึงรัฐบาลคือ ความรวดเร็วในการเดินหน้าเจรจาเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งเดินหน้าเจรจาช้า จะทำให้เรามีไพ่ต่อรองน้อยถอยลง

เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ว่าเสียดายที่นายทักษิณไม่ได้ไปพูดคุยกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐด้วยตนเอง  ผู้นำฝ่ายค้านฯ ตอบว่า บทบาทการเจรจา มีทั้งที่เวทีที่เป็นทางการและไม่ทางการ สำหรับการเจรจานอกรอบ จะใช้บุคลากรในประเทศส่วนใดก็ได้ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด เชื่อว่าประชาชนคนไทยคงยินดี แต่ผู้นำประเทศที่มีตำแหน่งสูงสุด ความรับผิดรับชอบทุกอย่างอยู่ที่ตัวนายกฯ หากนายทักษิณไปเจรจาเองไม่ได้ นายกฯ ก็ควรนำคนอื่นไปเจรจา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แบ่งเค้กสมใจอยาก

นายกฯ เซ็นคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯ-รมต.ประจำสำนักนายกฯ ใหม่ กำกับดูแลแทนนายกฯ หลัง "อนุทิน" ลาออก เพื่อไทยกำกับดูแลมหาดไทยสมใจอยาก ส่ง "ภูมิธรรม" คุม ส่วน "พีระพันธุ์" ไม่ขยับ อยู่ที่เดิม

ยังกอดศพกันแน่น พท.ลั่นทำเพื่อชาติอยู่ครบเทอม/พรรคร่วมผีดิบแย่งชามข้าวฝุ่นตลบ

เช็กโผ ครม. "แพทองธาร 2" เปิด 2 ตัวเต็งนั่ง รมว.กลาโหม "บิ๊กเล็ก-พล.อ.สุนัย" อดีตนายทหารรบพิเศษ ด้าน ปชป. "เฉลิมชัย" รมว.ทส.เหมือนเดิม "เดชอิศม์" นั่ง มท.3 "ชัยชนะ" นั่ง รมช.สธ. ขณะที่ "รทสช." ยังอยู่ โควตาเท่าเดิม แต่แย่งชามข้าวกันฝุ่นตลบ เพื่อไทยโวมีในมือ 280 เสียง

ม็อบพรึ่บโคราช ตะเพิด‘นายกฯ’

ม็อบทุกสีไล่รัฐบาลพรึ่บ! โคราชเรียกร้อง "อุ๊งอิ๊ง" ลาออก เลือกนายกฯ ใหม่ เพราะไร้วุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถในการเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ สมคบคิด ตอบสนองอริราชศัตรู

ชง‘รองนายกฯ-กห.’ดึง‘พปชร.’

“อนุทิน” เปิดใจเป็นฝ่ายค้านแล้ว   ไม่จัดตั้งรัฐบาลสู้ “ภูมิธรรม” ตีปี๊บพรรคร่วมที่เหลือเสียงปึ้ก “ไผ่” โวมีเสียง 263 บวกๆ