ครม.ไฟเขียว โยก1.57แสนล. กระตุ้นศก.ใหม่

ครม.ไฟเขียวโยกงบเงินหมื่นเฟสสาม 1.57 แสนล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เน้นโครงสร้างพื้นฐาน หนุนชุมชน SML  ท่องเที่ยว เกษตรกร "นายกฯ อิ๊งค์" แจงกำแพงภาษีทรัมป์เหตุสุดวิสัย ขอปรับแผนจัดลำดับความสำคัญใช้เงิน อ้างหาเสียงมั่นใจทำได้และแจกไปแล้วสองเฟส ย้ำยังไม่ยกเลิก เศรษฐกิจดีขึ้นอาจทำใหม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม  เวลา 12.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องของแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในกรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ตามมติของคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 19 พ.ค. เห็นชอบในการทบทวนค่าใช้จ่ายงบประมาณปี 2568 งบกลางรายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ได้มีการรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหลายฝ่าย ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ขอให้รัฐบาลทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลก ซึ่งเมื่อรับฟังแล้วจึงจำเป็นต้องเร่งปรับนโยบายเศรษฐกิจที่มีความจำเป็นและเร่งด่วนเพื่อสร้างรากฐานการเติบโตระยะยาวและพัฒนาเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีการปรับแผนและเปลี่ยนเงินก้อนนี้มาลงทุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานและลงทุนในมนุษย์ที่เป็นการลงทุนระยะยาว

ผู้สื่อข่าวถามว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 1 และ 2 สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่  และเฟสที่ 3 ที่มีการชะลอออกไปเป็นเพราะไม่มีเงินใช่หรือไม่ จะทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เป้าหมายของการทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแปลว่ากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศทั้งหมด พอมีเรื่องของกำแพงภาษีสหรัฐอเมริกาเข้ามา จึงต้องพิจารณาทบทวน ซึ่งข้อเสนอจาก ธปท.และ สศช. ให้ทบทวนเรื่องนี้ใหม่ว่าเงินก้อนนี้จะสามารถใช้อะไรที่จำเป็นและเร่งด่วนกว่าในเรื่องแจกเงินดิจิทัล คือเปลี่ยนรูปแบบของการกระตุ้นว่าสามารถเอาเงินก้อนนี้ไปทำอะไรที่เรียงลำดับความสำคัญ อะไรที่จำเป็น ณ ขณะนี้จะเกิดผลต่อประเทศมากที่สุด

เมื่อถามว่า นายกฯ ใช้คำว่าชะลอ แปลว่าคนยังหวังดิจิทัลวอลเล็ตได้อยู่ หรือจริงๆ เป็นการยกเลิกแต่รัฐบาลไม่กล้าพูดกลัวกระทบฐานเสียง  นายกฯ กล่าวว่า เงินก้อนนี้เกิดประโยชน์ที่ตรงไหนสูงสุดเราเน้นที่ตรงนั้นมากกว่า เพราะฉะนั้นถามว่าเราไม่บอกว่ายกเลิกใช่ไหม เพราะถ้าสมมติเรากลับมาทำอีกในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจดีขึ้น แล้วการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้จะได้ผลมากที่สุด เราก็มีความหวังว่าอยากจะให้อะไรที่มีประโยชน์สูงสุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศก็ต้องได้ทำ

เมื่อถามย้ำว่า ต่อไปการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยในอนาคต หากสัญญาอะไรไปแล้วไม่เป็นตามนั้นจะกระทบเสียงของพรรค น.ส.แพทองธารกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเวลาหาเสียงประเมินสถานการณ์ว่าเราทำได้จริง แต่ไม่มีใครพูดถึงเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐขึ้นมา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีประเทศไหนคาดคิด เป็นสถานการณ์พิเศษ

"ถามว่าเราทำไม่ได้จริงไหม ไม่จริง เพราะเราได้ทำไปแล้ว ไม่ใช่ว่านโยบายนี้ทำไม่ได้เลย แต่สถานการณ์ที่แทรกมามันสุดวิสัย ไม่ใช่ว่าทำๆ  อยู่แล้วจู่ๆ ยกเลิก หรือว่าไม่ทำแล้ว ชะลอ มันก็ไม่ได้ชะลอ ที่เราทำ 2 ครั้งที่เกิดขึ้นมันผ่านได้ แต่ครั้งนี้มีเหตุการณ์ใหม่คือเรื่องของภาษีเข้ามามันผ่านไม่ได้ ความจริงมันก็แค่นั้นเอง” นายกฯ กล่าว และว่า อย่างไรก็ตามต้องให้ สส.ของพรรคทำความเข้าใจกับประชาชน

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เงิน 1.57 แสนล้านบาท มาจากงบกลาง ซึ่งต้องใช้ให้หมดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่จะไปจัดการเรื่องกำแพงภาษี เพราะฉะนั้นเราต้องวางแผนว่าระยะสั้นที่จะใช้เงินก้อนนี้ได้เลยสร้างประโยชน์อะไรกับประชาชนบ้าง และหลังวันที่ 30 ก.ย.นี้ มีนโยบายใดๆ ซึ่งเงินก้อนนี้จะใช้เพื่อเป็นการลงทุนในก้อนแรกแล้วต่อนโยบายกลางและยาวต่อไป

เมื่อถามถึงกรณีนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้พบนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่กาตาร์ ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการเจรจาเรื่องภาษีหรือไม่ แล้วเกี่ยวอะไรกับดีลลับที่เคยพูดหรือไม่ นายกฯ  กล่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ได้เดินทางไป จึงไม่ทราบว่าได้คุยอะไรกัน อย่างไรก็ตาม เราต้องทำตามระบบก่อน และความจริงไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจใหญ่เจ้าไหน ถ้าเกิดประโยชน์กับรัฐบาล ทุกฝ่ายควรร่วมมือกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นนักธุรกิจใหญ่ เป็นธุรกิจเล็กก็ได้ถ้าสามารถช่วยรัฐบาลได้ยิ่งดี

ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ วันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและคมนาคม การท่องเที่ยว การลดผลกระทบส่งออกและเพิ่มผลิตภาพ ตลอดจนเศรษฐกิจชุมชนและอื่นๆ โดยมีเป้าหมายกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ เพื่อรักษาการจ้างงาน และวางรากฐาน โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่าย เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ                      

ทั้งนี้ การจัดทำข้อเสนอโครงการและคำของบประมาณ ให้หน่วยรับงบประมาณจัดทำข้อเสนอโครงการตามแบบฟอร์มการพิจารณาโครงการตามแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2568 ที่กำหนด โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เพื่อเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ พร้อมทั้งเสนอโครงการดังกล่าวต่อสำนักงบประมาณในคราวเดียวกันด้วยภายในเดือน พ.ค.68 จากนั้นคณะกรรมการฯ รวบรวมข้อเสนอโครงการที่ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ เพื่อพิจารณานำเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติภายในเดือน มิ.ย.68 ส่วนการขอรับจัดสรรงบประมาณนั้น ให้หน่วยรับงบประมาณนำส่งโครงการที่ ครม.อนุมัติให้สำนักงบประมาณ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณารายละเอียดโครงการและจัดสรรงบประมาณ ภายในเดือน ก.ค.2568

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลวางโครงการที่เสนอเข้ามาจะต้องสามารถทำสัญญาผูกพันงบประมาณให้ได้ภายในไตรมาส 3 ปี 2568 หรือช้าสุดภายใน 30 ก.ย. แต่ไม่ได้หมายความว่างบประมาณจะเบิกจ่ายทั้งหมดภายในเดือน ก.ย. และมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อติดตาม

 “โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะกลับมาพิจารณาอีกครั้ง หากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวดี วันหนึ่งถ้าถึงความพร้อมเราจะกลับมาพิจารณากันอีกครั้ง” รมช.การคลังระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม

'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า