ลุ้นวัดใจ‘สมศักดิ์’27พ.ค.

“ศ.นพ.อมร” ยันแพทยสภาส่งเอกสารคดีชั้น 14 ให้ “สมศักดิ์” เพียงพอแล้ว ไม่ต้องส่งอะไรเพิ่ม ชี้หากหมอที่ลงโทษงอแงก็ไปฟ้องศาลปกครอง ไม่งั้นเรื่องก็ยืดยาวไปเรื่อย “10  อรหันต์” นัดประชุมสรุปมติแพทยสภาอีกรอบ 26  พ.ค.นี้ ก่อนชง รมว.สธ.ใช้อำนาจตัดสินใจ 27 พ.ค.  ปูด “แม้ว” มีคิวปาฐกถาบ่ายวันเดียวกัน

เมื่อวันศุกร์ที่ 23 พ.ค. มีความเคลื่อนไหวในกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะสภานายกพิเศษแพทยสภา ได้ทำหนังสือขอให้แพทยสภาส่งเอกสารเกี่ยวกับการพิจารณาลงโทษแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากโรงพยาบาล (รพ.) ราชทัณฑ์ ไปรักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ

โดย ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภา  กล่าวว่า เรื่องนี้สภานายกพิเศษสามารถเรียกเอกสารเพิ่มได้ แต่แพทยสภาไม่ได้ส่งเอกสารอะไรไปให้เพิ่มเติม เพราะตั้งแต่วันที่ไปยื่นมติแพทยสภาให้สภานายกพิเศษ ก็ได้ยื่นเอกสารประกอบไปหมดแล้ว ตามที่ควรจะได้ ในส่วนที่สามารถให้ได้ คิดว่าแค่นั้นก็มากเพียงพอที่จะพิจารณาได้แล้ว

เมื่อถามว่า หากแพทยสภาไม่ส่งเอกสารเพิ่มเติมไปให้ จะทำให้สภานายกพิเศษมีการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งกลับมา ศ.นพ.อมรกล่าวว่า เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งการที่จะตัดสินลงโทษอะไรใคร ก็ต้องมีความโปร่งใส ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ใช่ยุกยิกๆ มันมีเอกสารข้อมูลต่างๆ ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ในการพิจารณามันก็เป็นความลับในกลุ่มกรรมการ แต่ในส่วนของการพิจารณานั้นมีข้อมูลหลักฐานชัดเจน

ถามอีกว่า มีหนึ่งในผู้ร้องขอความเป็นธรรมกับสภานายกพิเศษระบุว่า แพทยสภาไม่ควรตัดสินทั้งที่เอกสารไม่ครบ เพราะมีบางอย่างที่เขาไม่ได้ส่งให้แพทยสภา เพราะไม่ได้ขอ เชื่อว่าหากเห็นอาจตัดสินเป็นอย่างอื่น ศ.นพ.อมรกล่าวว่า อันนี้ไม่ได้  เพราะเราขอให้เขาส่งหมดอยู่แล้ว ขนาดครั้งแรก ครั้งที่ 2 ที่ส่งมาเพิ่มเติม เรายังยอมขยายเวลาให้ทั้งๆ ที่เราจะสรุปแล้วตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. จนทำให้แพทยสภาถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้วยซ้ำ เราเปิดช่องให้เขายื่นข้อมูลเอกสารอยู่แล้ว เราไม่เคยปฏิเสธ เราให้ความเป็นธรรมหมด เขาส่งอะไรมาเราก็รับ เมื่อไม่ส่งอะไรมาเพิ่มเติมเราก็ตัดสินไปตามนั้น นี่เป็นไปตามขั้นตอน เราให้โอกาสเต็มที่ภายใต้ภาวะวิสัยที่ดีที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีกระแสการล็อบบี้กรรมการไม่ให้เข้าประชุม วันที่ 12 มิ.ย.นี้จะเข้าประชุมด้วยหรือไม่ ศ.นพ.อมรกล่าวว่า ไม่มีใครมาล็อบบี้ตน  และยืนยันว่าวันที่ 12 มิ.ย.เข้าประชุมแน่นอนตามปกติ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยขาดประชุม ทั้งนี้ เมื่อสภานายกพิเศษส่งความเห็นกลับมาแล้ว ทางกรรมการแพทยสภาก็มีการพิจารณาตามปกติ ซึ่งโดยทั่วไปไม่ได้ใช้เวลานาน

 “ผู้ถูกร้องนั้นก็มีช่องทางไปศาลปกครองที่สามารถทำเพิ่มเติม เป็นความยุติธรรมที่เขาให้อยู่ในระบบอยู่แล้ว ส่วนในชั้นสภานายกพิเศษก็เอาเพียงแค่นี้ ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่จบเสียที” ศ.นพ.อมร กล่าว

นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 กรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 คนที่รักษานายทักษิณได้ประชุมนัดแรกเมื่อวันที่ 20 พ.ค. เห็นว่ายังมีเอกสารบางส่วนที่ขาดในขั้นตอนการพิจารณาของแพทยสภาที่กรรมการยังสงสัย และได้ขอให้แพทยสภาส่งเพิ่มเติมนั้น จนถึงขณะนี้แพทยสภายังไม่ได้ส่งให้มา โดยแจ้งว่าไม่มีเอกสารใดที่จะให้เพิ่มเติม ดังนั้น คณะกรรมการฯ  ได้นัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 26 พ.ค.นี้ เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาพิจารณาอีกครั้ง ก่อนจะสรุปเสนอความเห็นถึงนายสมศักดิ์ในวันที่ 27 พ.ค.นี้

 “หากแพทยสภาไม่ได้ส่งข้อมูลใดๆ มาเพิ่มเติมหลังจากที่ได้ขอไป ก็ไม่เป็นไร เราก็ทำเท่าที่มี แต่สิ่งที่ไม่ส่งมาให้เรามองว่ามันเป็นประโยชน์ แต่แพทยสภาแจ้งว่าส่งให้ครบแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ก็ต้องเป็นความเห็นแพทยสภาที่มีเหตุผลใดที่ไม่ให้มา หรือไม่มีตั้งแต่ต้น แต่ก็ได้นัดประชุมอีกครั้งวันที่ 26 พ.ค. จะต้องให้แล้วเสร็จเสนอท่านสมศักดิ์ ภายในวันอังคารที่ 27 พ.ค.นี้ต้องจบแล้ว เพราะมีเวลาแค่ 2-3 วันที่ท่านสมศักดิ์ต้องทำความเห็น” นายธนกฤตกล่าว

นายธนกฤตกล่าวอีกว่า คณะกรรมการทั้ง 10 คนนี้ไม่ได้สรุปความเห็นหรือมีการโหวตมติว่าเป็นอย่างไร ส่วนจะออกในรูปแบบไหน ก็แล้วแต่ประธานคณะกรรมการฯ ซึ่งกรรมการทั้ง 10 คนจะเสนอความเห็น เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน ส่วนนายสมศักดิ์จะคิดเห็นอย่างไรก็แล้วแต่จะเป็นผู้สรุปเอง เป็นไปตามกฎหมายที่มอบอำนาจให้สภานายกพิเศษตัดสินว่าจะเห็นด้วยหรือยับยั้งกับมติแพทยสภา

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่กับการพิจารณาเรื่องนี้ นายธนกฤตกล่าวว่า ไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนคนมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม ก็ต้องให้ความเป็นธรรม เพราะเป็นนักกฎหมาย ก็ต้องเอากฎหมายเป็นตัวตั้ง และต้องตอบสังคมให้ได้ทุกอย่าง โดยได้คุยกับนายสมศักดิ์ทุกวัน ก็ไม่ได้หนักใจอะไร ส่วนที่มองเป็นเรื่องการเมือง ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะคนมีความเห็นต่างได้ แต่ต้องเอาหลักกฎหมายเป็นตัวตั้ง

ขณะที่ ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ทางออกของนายทักษิณนั้น 1.ควรบริจาคเงินที่ตนเองมีชดใช้ค่าจำนำข้าวให้น้องสาวเสีย ครอบครัวจะได้ไม่ติดหนี้ประเทศชาติ 2.ใช้วิชาขอมดำดิน หนีไปอยู่ดูไบกับน้องสาวที่ดูไบ เลิกยุ่งกับการเมืองไทยไปจนตลอดชีวิต 3.บริจาคเงินอีกก้อนใหญ่สร้างวัดป่ากรรมฐานสายหลวงปู่มั่นสักแห่งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพราะตะวันออกกลางยังไม่มีวัด 4.ใช้เวลาให้หมดไปกับรักษาศีล เจริญสมาธิที่วัดซึ่งตนเองสร้าง และ 5.นำเงินอีกสัก 1 หมื่นล้านบาทมาตั้งเป็นมูลนิธิแล้วบริจาคเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กไทยที่ยากจนในชนบทที่ขาดโอกาสทางการศึกษา เพื่อตอบแทนสังคมบ้าง

 “เอาแค่ 5 ข้อ ถ้าทำได้ คนไทยจำนวนมากก็จะสรรเสริญและลดความเกลียดชังตระกูลชินวัตรลงได้มาก” ดร.ปฐมพงษ์ระบุ

มีรายงานว่า นายทักษิณมีกำหนดการขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ยาเสพติดอาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ดินแดง ในช่วงบ่ายวันที่ 27 พ.ค.นี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.